'แคทรียา' เผยโดนล่มงานหมั้น รับตอนนี้มีอาการเข้าสู่วัยทอง!

‘แคทรียา อิงลิช’ เปิดใจเรื่องสุดเศร้า โดนแฟนเก่าบอกเลิกครั้งแรก ทั้งที่ซื้อแหวนหมั้นเตรียมหมั้นกันแล้ว พร้อมเผยตอนนี้ก้าวสู่วัยทอง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่อง One31

“จริงๆ ไม่ค่อยชอบพูดเรื่องส่วนตัว มันมีความรู้สึกว่าเรื่องส่วนตัวคือเรื่องส่วนตัวจริงๆ เป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่เรื่องของคนทั้งประเทศ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตคนสองคนก็อยู่ที่เราสองคน แต่ด้วยสมัยนี้ด้วยโซเชียลต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นดาราหรือเซเลบ หรือคนปกติทั่วไปก็เหมือนกัน มันเหมือนกับชีวิตเรามันขึ้นอยู่กับสังคม เลยรู้สึกว่าเราจะไม่เป็นทาสสังคม การตัดสินใจก็อยู่ที่ตัวตนของเรา หรืออีกคนนึง การตัดสินใจในชีวิตเราก็คือตัวเรา คนข้างนอกไม่ได้อยู่กับเราตลอด 24 ชม. บางคนก็ไม่ได้รู้จักเรา นี่เป็นครั้งเดียวค่ะที่จะเปิดใจ เขาเป็นคนนอกวงการ ชอบสายฝออยู่แล้ว ชอบฝรั่ง เจอในงานแล้วก็คลิกกัน ติ๊กถูกๆ ใช่ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่เท่าไหร่ก็ตัดสินใจว่าเขาขอหมั้น ไม่ถึงปี ซึ่งก็ไม่นานนะ เร็วไป จริงๆ ต้องคบกันเป็นปีๆ ค่ะ มันก็ลงล็อกในช่วงระยะสั้น แต่อย่าลืมว่าการคบใครกับเราสักคน สำหรับเราถ้าคบใครต้องคบนาน ถ้าใช่ก็ตลอดชีวิตไปเลย เราก็ตกใจตื่นเต้นมีคนขอหมั้นแล้ว ดีไซน์แหวนไปแล้วด้วย แต่ยังไม่ได้รับ

เขาเป็นคนเปิดประตูให้ ให้เราเดินเข้าประตูก่อน เป็นเจนเทิลแมนมาก เป็นผู้ดีเก่า มีความรู้สึกว่า คนนี้มีมารยาท เป็นคนสุภาพมาก เขาเคยมีครอบครัวมาก่อนค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้ติด ถือว่าเขาจบกับครอบครัวนานแล้ว ทุกอย่างรวดเร็วค่ะ เขาขอหมั้น เร็วมากนะ เขาไม่ได้คุกเข่าขอ แต่พูดว่าแต่งงานกันมั้ย เราก็บอกว่าได้ ก็คุยกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้คุกเข่า ให้แหวน มันเหมือนมาคุยกันว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง จะมีครอบครัว จะอยู่ที่ไหน ตอนนั้นเราก็โอเค มันไม่ได้อยู่ดีๆ คุกเข่า แต่งงานกับผมมั้ย เหมือนคุยกันแล้วก็โอเคได้ ยูดีไซน์แหวนที่อยากได้ เราก็โอเค ตามนั้น ตอนนั้นก็ตกใจ แต่ก็โอเค คุยเรื่องอนาคต กลายเป็นไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่

ไม่บอกใครเลย ไม่บอกเพื่อนสนิท กะว่าแต่งแล้วค่อยบอกค่ะ มันรู้สึกว่าถึงจะหมั้นก็มีโอกาสเลิกกันได้ มันเรียลลิสติก มันบอกไม่ถูก มันรวดเร็ว จริงเหรอเนี่ย จะบอกว่าไม่มั่นใจก็ไม่เชิง แต่รู้สึกว่าจริงเหรอเนี่ยพร้อมบอกทุกคนแล้วเหรอ เราก็มีความรู้สึกไม่มั่นใจเพราะมันรวดเร็วมาก เป็นคนที่ชอบศึกษา คบแฟนแต่ละคนที่เคยผ่านมา ที่ไม่เคยบอกใคร ส่วนใหญ่ไม่เคยต่ำกว่า 5 ปี บางทีคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ

ทำไมมันถึงล่มเหรอ พอคบไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เขาเป็นคนไม่ดีนะ เขาก็เป็นคนดี แต่อาจจะไม่ใช่คนของเรา ด้วยไลฟ์สไตล์หรือนิสัย พอคบจริงๆ รู้สึกว่ามันเหมือนเราเป็นคนที่ชอบถาม ชอบเคลียร์ ถ้ามีอะไรอยู่ในใจ อยากคุยและเคลียร์ เป็นคนคิดมากอยู่แล้ว ยิ่งเราไม่ได้คุยกับเขา เราก็ไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ มันก็จะยิ่งพังไปใหญ่ เราก็จะเป็นคนที่ชอบสื่อสาร ฉันรู้สึกอย่างนี้ เป็นแบบนี้หรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าพอเราพยายามคุยกับเขา เขาจะชัตดาวน์ทันที โอ้โน ไอฟังไม่ได้ กลายเป็นแพนิค ถ้าฉันมีปัญหาฉันคุยกับเธอไม่ได้แล้ว มีช่วงนึงเขาเดินทางไปต่างประเทศ พอไปแล้วเขาก็หายไปเลย เขามีธุระต้องบินกลับไปต่างประเทศ แล้วติดต่อมาอาทิตย์ละครั้ง เราเปิดใจคุยกับเขาไม่ได้ เราบอกเขาว่าถ้ามีปัญหาอะไร หรือเครียดเรื่องอะไร ไอคือเซฟโซนของยูนะ ยูคุยกับไอได้ทุกเรื่อง พี่เป็นคนไม่จัสคน เพราะโดนมาเยอะแล้ว อยู่ในวงการมันถูกจัสโดยคนไม่รู้จักเราเยอะ มันก็เหมือนสอนเราเหมือนกันว่าอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าคนนี้เป็นยังไง ถ้าเราไม่รู้จักหรือสัมผัสกับเขาจริงๆ ก็เลยรู้สึกว่าเราคือเซฟโซนของเขา คุยได้ทุกเรื่อง แต่กลายเป็นว่าเขาไม่เปิด เขาปิดกั้นทุกอย่าง เขาเครียดอะไรเขาก็ไม่เล่า พอเขาหายไปหลายๆ วันก็จะถาม โทรแล้วเขาไม่รับ ต้องรอให้เขาโทรกลับมาเอง แมสเซสไปก็ไม่อ่านเป็นวันๆ เราเป็นโรคแพนิคเหมือนกัน ยิ่งเขาทำแบบนี้ก็จะรู้สึกว่าฉันทำอะไรผิด จะโทษตัวเองแล้ว ไม่ได้โทษเขา เป็นอะไร ทำไม แค่หายไปไม่กี่ชม. เราก็เริ่มแพนิคแล้ว แต่นี่หายไปเป็นวันๆ เราก็เอาแล้ว เป็นอะไร ก็พยายามคุยกับเขา เขาก็ไม่พูด บอกว่าไอเครียดอยู่ แค่นี้ก่อนนะ แล้วก็หายไป แล้วก็หายไปเลย กลับมาเมืองไทยก็ไม่บอก ตอนแรกก็อาทิตย์นึงได้ข่าวเขาสองครั้ง อาทิตย์ถัดไปก็ครั้งเดียว จากนั้นก็สองอาทิตย์ได้ข่าว แล้วก็จางไปเรื่อยๆ จนไม่ได้ข่าวอะไรเลย ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้

เขาก็ถามว่านึกว่าเรามูฟออนไปแล้ว อ้าว ก็เรายังไม่ได้เลิก เขากลับไปประเทศเขา 6 เดือนค่ะ ติดต่อกันได้เพียง 4-5 ครั้ง แล้วเราก็รอ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้อีกทีว่าเขากลับมา เขาส่งรูปมา เราก็เอ๊ะ รูปอะไร อยู่เมืองไทย กลับมาได้ 2 เดือนแล้ว ก็ขอบคุณค่ะ เขาก็ขอนัดเจออีก พอนัดเจอ เขาก็บอกว่า 6 เดือนที่ผ่านมาห่างกันนานมากแล้ว ความรู้สึกเปลี่ยนไป ก็เลยจบ เลิกไปอย่างนั้นเลย

ตอนนี้สถานะหัวใจเป็นยังไง ไม่รู้ แหม ก็มีคนคุยแหละ ถ้าแต่งงานแล้วอาจจะเปิด แต่คิดไปคิดมา แต่งแล้วก็อาจไม่เปิดด้วย อย่างที่บอก มันเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ถ้าเห็นเดินกับหนุ่มลูกครึ่งนี่คือน้องชายนะ ถ้ามีแฟนแล้วแต่งงาน ก็จะไม่จัดงานแต่งด้วย ข้อแรกคือเปลืองตังค์ จัดงานเพื่อใคร รู้สึกว่าปาร์ตี้กันสองคนก็พอแล้วนะ หรือกับเพื่อนๆ อาจจัดปาร์ตี้ขึ้นมาแล้วเพื่อนๆ อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คืองานแต่ง อยากให้เหมือนอยู่บ้านจัดปาร์ตี้ หรือไปทะเลจัดปาร์ตี้

เรื่องวัยทอง กำลังจะเข้า ผ่านหลัก 4 แล้ว กำลังจะเข้าพระราม 5 แล้ว ตอนแรกไม่รู้ตัวด้วย รู้ว่าร้อนวูบวาบ ร้อนระอุจากข้างใน มีพัดพกด้วยนะ อยู่ดีๆ จะร้อนแล้วเหงื่อจะท่วม ผ่านไปจะหนาว เป็นอย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่พอศึกษาเรื่อยๆ อ้าว มันเริ่มเข้าแล้ว เขาเรียกว่าเข้าก่อนวัยทอง ก่อนประจำเดือนจะเริ่มหมด ประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง ไม่มาตามนัดแล้ว มาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น บางทีก็มาเดือนละสองสามครั้ง หรือสองสามเดือนมาที อย่างแรกเลยเหงื่อออกตอนกลางคืน เหงื่อท่วมตัว จากนั้นความวูบวาบจะมาทั้งวัน มาๆ หายๆ ทั้งวัน

รับมือยังไง ก็อยู่ที่อาหารการกิน ซึ่งสำคัญมาก อาหารเสริมสำคัญมาก พวกโปรตีน เนื้อสัตว์ต้องกินมากขึ้น อาหารการกินเราต้องเปลี่ยนเลย”