เอาแล้ว! 'เสี่ยแป้งมัน' บ้านใหญ่โคราช ทุบโต๊ะจองเก้าอี้ รมว. 2 คน

บ้านใหญ่เมืองย่าโม เพื่อไทย ประกาศ "ต้องได้ 2 รัฐมนตรีว่าการ" โว ส.ส.ทุกคนจะเป็นทีมงานเปรียบเสมือนที่ จ.สุพรรณบุรี หรือ จ.บุรีรัมย์ แต่วันนี้ทำได้มากกว่า 2 จังหวัดนี้ เกทับได้ ส.ส.เขต 12 คน-บัญชีรายชื่อ 2 คน รวมเป็น 14 คน และก็ยังมีที่อื่นผสมมาอีกรวมแล้วเกือบ 20 คน

18 พ.ค.2566 - ที่ จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ครอบครัวเพื่อไทย โคราช นำโดยนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หรือกำนันป้อ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต รมช.คมนาคม บ้านใหญ่คนใหม่ของพรรคเพื่อไทย โคราช หัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย โคราช ครอบครัวเพื่อไทย โคราช ชูมือประกาศชัยชนะ พร้อมด้วย ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล และว่าที่ ส.ส. 12 เขต จ.นครราชสีมา รวมทั้งนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อไทย รวมทั้งหมด 14 คน และผู้สมัครอีก 4 คน ถือเป็นครอบครัวเพื่อไทยโคราช

โดยนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส. และทีมงานหาเสียงจนสามารถทำมาได้ 12 คน ชูมือลูกชาย ลูกสาว หลาน ครอบครัวหวังศุภกิจโกศล และว่าที่ลูกเขย ที่ประสบชัยชนะในการเลือกตั้ง ประกอบด้วย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ว่าที่ ส.ส.บัญชีราบชื่อ (บุตรสาว) , นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล ( บุตรชาย) , นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล (หลาน) , นายนิกร โสมกลาง (ลูกเขย) นอกจากนี้ยังมีนายพรเทพ ศิริโรจนกุล (หลาน) กับ น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข (หลาน)

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล กล่าวว่า ตนเองก็ยังดูแลลูกหลานเพื่อที่จะให้ช่วยกันทำงานในการผลักดันให้จ.นครราชสีมาไปสู่มหานคร ซึ่งโคราชก็เป็นเมืองหน้าด่าน วันนี้เราทำให้คนโคราชได้รู้ว่า ตอนนี้ ว่าที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โคราชมีมากที่สุดในทุกๆจังหวัด รวม 14 คน สำหรับที่มีหลายคนอยากจะให้ตนเข้ามาช่วยทำงานต่อนั้น ตนคิดว่าตัวเองอายุค่อนข้างมากแล้ว การที่จะทำงานต่ออีกตนคิดว่าอยากให้เป็นคนรุ่นใหม่ ตอนนี้ลูกๆหลานๆมีแต่อายุน้อยๆ น่าจะสานงานต่อดีกว่าตนได้มากมาย ส่วนตนเองก็จะขออยู่เบื้องหลังไปเรื่อยๆ บอกตรงๆว่าความรู้ที่มีอยู่ก็อยากผลักดันให้คนรุ่นใหม่ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไปและเพื่อให้คนโคราชได้รับผลประโยชน์จากพรรคเพื่อไทยของเรา เพื่อจะสร้างโคราชให้เป็นมหานครและตนคิดว่าเราทำได้ด้วย เพราะเราได้ ส.ส.มาตั้งมากมาย และตนคิดว่า อาจจะมีรัฐมนตรีว่าการถึง 2 คน

นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากพ่อแม่พี่ย้องชาวจ.นครราชสีมาที่ให้คะแนนมากกว่า 5-6 แสน และอดีตที่ผ่านมายังไม่เคยมีพรรคไหนทำได้มากกว่า 5 แสนกว่าคะแนน ปัจจุบันนี้พรรคเพื่อไทยและทีมงานทำได้ก็ถือว่าประชาชนชาวจ.นครราชสีมาช่วยกันผลักดันทำอย่างไรให้ ส.ส.ทุกคนจะเป็นทีมงานเปรียบเสมือนที่ จ.สุพรรณบุรี หรือ จ.บุรีรัมย์ แต่วันนี้เราทำได้มากกว่า 2 จังหวัดนี้ เพราะเราได้ ส.ส.เขต 12 คน และบัญชีรายชื่ออีก 2 คน รวมเป็น 14 คน และก็ยังมีที่อื่นผสมมาอีกตนคิดว่ารวมแล้วเกือบ 20 คน

ทั้งนี้ในกลุ่มหวังศุภกิจโกศล นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง หลานชายแท้ๆของนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา และมีนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้ว่าที่ ส.ส. 2 คน ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นอีกพรรคหนึ่งในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในขณะนี้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตา ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ '1ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์' ผ่าน THACCA

นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ในฐานะนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 30 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า

'เศรษฐา' แพลมโผครม.นิ่งแล้ว ไม่มีแกว่ง อุบตอบเก้าอี้หดเหลือแค่ตำแหน่งนายกฯ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ระบุว่าส่งรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีถึงนายกฯ โดยนายกฯย้อนถามว่า “หรือครับ ไม่ทราบ”

'อุ๊งอิ๊ง' โพสต์คลิปครอบครัวเดินห้าง ถามตอนเด็กเคยขายอะไร ทักษิณตอบขายกาแฟ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์สตอรี่อินสตราแกรมส่วนตัว เป็นคลิปวีดีโอนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เดินที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งด้วยกัน

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี