แจ้งคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยทราบ นายกฯ มีนโยบายและเตรียมการให้ไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำคัญของโลกมาตั้งแต่ปี 2558 ปัจจุบันมีมาตรการส่งการผลิตครบวงจรทั้งมาตรการภาษีและไม่ใช่ภาษี และนักลงทุนยื่นขอลงทุนต่อเนื่อง
15 ก.ค.2565 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่นายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาให้ความเห็นต่อกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงยุทธศาสตร์ 3 แกน โดยระบุว่านโยบายการผลักดันของรัฐบาลที่จะให้ประเทศไทยเป็นฐานในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเพียงการขายฝัน เพราะไม่มีนโยบายหรือมาตรการส่งเสริมการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ไม่มีการส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพสูงนั้น
ขอแจ้งและให้ข้อมูลนายวิกรมและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยทราบว่านายกรัฐมนตรีได้มีนโยบายและวางแผนงานเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลกมาตั้งแต่ปี 2558 โดยการกำหนดให้ อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต และมีการวางแนวทางขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องโดยการตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ หรือคณะกรรมการ EV ขึ้นมาดูแล และขณะนี้มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่มีผลบังคับใช้แล้วอย่างครบวงจร
“ตามที่นายวิกรมได้แจ้งว่าคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้ศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ เรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามา 3-4 ปีแล้ว นับเป็นเรื่องที่ดีที่ทีมเศรษฐกิจของพรรคต่างๆ จะได้ร่วมกันในการหาแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งในเรื่องยานยนต์ไฟฟ้านี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้มีนโยบายมาตั้งแต่แต่ปี 2558 และมีแผนงานผลักดันต่อเนื่องมาโดยลำดับ จนขณะนี้มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนและมาตรการรองรับ และความร่วมมือกับภาคเอกชนโดยครบวงจรแล้ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามเป้าหมายของรัฐบาล ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะกรรมการ EV ต้องการให้ภายในปี 2573 ประเทศไทยจะมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 30% ของการผลิตรถยนต์ในไทย โดยรัฐบาลมีแพคเกจส่งเสริมการลงทุนทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษีเพื่อรักษาความเป็นผู้นำนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย
สำหรับแพคเกจในระยะสั้นเพื่อสร้างความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ ระหว่างปี 2565-2568 รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมเป็น 2 ระยะ(ตามมติ ครม. วันที่ 15 ก.พ. 2565) นอกจากนี้ มีมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งส่วนของรถยนต์ รถโดยสาร จักรยานยนต์ เรือไฟฟ้า ผู้ผลิตชิ้นส่วน และแบตเตอรี่
ทั้งนี้ สำนักงานบีโอไอก็ได้รายงานว่านักลงทุนได้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการบีโอไอ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา บีโอไอก็ได้แจ้งว่า เฉพาะกิจการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะไฟฟ้า ขณะนี้มีการขอรับการส่งเสริมแล้วจำนวน 16 โครงการจาก 10 บริษัท รวมเงินลงทุน 4,820 ล้านบาท และมีโครงการที่ได้รับส่งเสริม การลงทุนในกิจการผลิตแบตเตอรี่ที่มีความจุสูง (HIGH ENERGY DENSITY BATTERY) รวม 3 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 6,746.1 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ
พรรคร่วมฯ เพียงเห็นชอบเชิงหลักการ รัฐบาลเล่นกลแจกเงินหมื่น หาเสียงนิยมให้พท.
'จตุพร' ซัดรัฐบาลเล่นกลซ่อนเจตนากู้เงินแจกหมื่น เชื่อปั่นความหวังเคลมดิจิทัลหาเสียงนิยมให้เพื่อไทย แต่ ปท.ชิบหายแบกหนี้ก้อนโต ชี้พรรคร่วมฯ เพียงเห็นชอบเชิงหลักการเท่านั้น
จับตา ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ '1ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์' ผ่าน THACCA
นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ในฐานะนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ รุ่น 30 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า
อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
โฆษกรัฐบาล โต้ยิบข้อครหาเงินดิจิทัลเอื้อเจ้าสัว หลังครม.เห็นชอบหลักการ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมครม. มีการขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือไปหลายรอบสุดท้ายได้ข้อสรุปเป็นหลักการ ของโครงการเงื่อนไขผู้ที่ได้รับ 50 ล้านคน อายุ 16 ปีขึ้นไป มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท
'หมอชัย' สยบข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล ยันนายกฯไม่ส่งสัญญาณ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงโฆษกรัฐบาล ว่า ไม่มีนะ ตนไม่เคยได้ยินข่าว และขอย้ำว่าไม่มีตนกองเชียร์ไม่เยอะ