กมธ.ขอบคุณเสียงหนุนกฎหมายปรับเป็นพินัยผ่านวาระ 3

กมธ.พิจารณาร่างกฎหมายปรับเป็นพินัยขอบคุณทุกฝ่ายลงมติเห็นชอบ วีระศักดิ์ชี้เพื่อประโยชน์ประชาชน

03 ส.ค.2565 - นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พร้อมด้วย นพ.อำพลจินดาวัฒนา ส.ว. และ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ส.ส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกคณะ กมธ.ฯ แถลงภายหลังจากที่ประชุมมีมติผ่านวาระ 3 ในร่างกฎหมายดังกล่าว

โดย นพ.อำพล กล่าวว่า ในนามคณะ กมธ.วิสามัญฯ ขอบคุณประธานรัฐสภาที่ดูแลการประชุมจนเกิดความราบรื่นเรียบร้อย และขอบคุณส.ส. ส.ว.ที่ช่วยกันสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ ถือว่าเป็นกฎหมายฉบับหนึ่งที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันจนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าดีใจ เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้เป็นการปฏิรูปโครงสร้างระบบความยุติธรรมมีการระบุในรัฐธรรมนูญ 2560 ชัดเจนว่า รัฐควรกำหนดโทษอาญาที่เป็นความผิดร้ายแรงเท่านั้น และต้องมีความพยายามออกกฎหมายหรือปรับปรุงกฎหมาย ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด หรือลดความเหลื่อมล้ำในสังคมมากที่สุด ทั้งนี้ มีความพยายามผลักดันการแก้ปัญหาโทษอาญาที่มากเกินความจำในสังคมบ้านเรามานานกระทั่งมีการออกร่างกฎหมายฉบับนี้

นพ.อำพล กล่าวต่อว่า ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย มีลักษณะเป็นกฎหมายกลางที่จะไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายอีกกว่า 200 ฉบับที่เกี่ยวกับโทษอาญา และโทษทางปกครอง ซึ่งโทษอาญาถ้าหนักก็จำคุก ส่วนโทษอาญาที่เป็นโทษปรับนั้น ที่ผ่านมามีความเหลื่อมล้ำ และเลือกปฏิบัติ โดยเฉพาะคนจนที่โดนโทษปรับ แต่ไม่มีเงินเสียค่าปรับ แต่เขาจะมีโทษอาญาบันทึกเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้จะแก้ปัญหาโทษอาญาที่เป็นโทษปรับ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเข้ากระบวนการโทษอาญา เจ้าหน้าที่จะสามารถพิจารณาการปรับได้ หากไม่มีเงินก็พิจารณาเป็นกรณีๆ ไป โดยสามารถคุมประพฤติหรือให้บริการสาธาณะอื่นๆได้ หรือแม้แต่การยกเว้นค่าปรับก็ได้ ทำให้ร่างกฎหมายนี้ได้รับความสนับสนุนจากทุกพรรค ทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์ของประชาชน

ด้านนายวีระศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่กฎหมายนี้ผ่านในขั้นตอนรัฐสภา ซึ่งประเทศไทยนำโทษทางอาญามาใช้บ่อยเกินไปทั้งที่ไม่จำเป็น คนที่ต้องโดนโทษอาญาแม้ถูกปรับเล็กน้อยก็ถูกบันทึกในประวัติอาชญากรรมทำให้เกิดผลเสียสาระสำคัญของร่างกฎหมายนี้จึงเป็นการปฏิรูปกฎหมายครั้งสำคัญ ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานให้ใครก็ตามที่มีอำนาจออกแบบกฎหมายในอนาคต ควรต้องนึกถึงกฎหมายกลาง เพื่อลดความยุ่งยาก ลดภาระให้ประชาชน และหวังได้เห็นกฎหมายกลางลักษณะนี้อีก

“กฎหมายฉบับนี้จะช่วยล้างมลทินเกี่ยวกับผู้มีประวัติอาชญากรรมออกไป ตามความผิดเบาในเงื่อนไขของร่างกฎหมายฉบับนี้มิให้นำเอามาใช้อ้างอิงได้อีก และเมื่อปรับก็มิให้มีการบันทึกประวัติอาชญากรรมอีก ซึ่ง 30 ปีที่ผ่านมา เราใช้นิตินิยมมากเกินไป แต่หลังจากนี้จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นการลบล้างคำว่ากฎหมายมีไว้ขังคนจน โดยสร้างกฎหมายกลางเพื่อประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชน” นายวีระศักดิ์กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.2567 เสี่ยงได้ วุฒิสภา สายพรรคการเมือง เชื่อมโยงผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

เข้าสู่ช่วงเตรียมนับถอยหลังใกล้โบกมือลา สิ้นสุดการทำหน้าที่ของ สมาชิกวุฒิสภา ชุดปัจจุบันจำนวน 250 คน ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 10 พ.ค. แต่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมี สว.ชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่

'เสรี' ซัดบางพรรคระดมคนสมัคร สว. แสวงหาอำนาจให้พวกพ้อง เอาเปรียบประชาชน

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวบนเวทีสัมมนา เรื่อง บทบาทหน้าที่อำนาจ และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ 2567

จับตาประธานศาลปกครองสูงสุด 'อิศรา' เปิดจม. 'วิษณุ วรัญญู' แจงสว. ปมป๋าเปรม-งานแต่งปิยบุตร

จากกรณีที่ นายวิษณุ วรัญญูู รองประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง(ก.ศป.) ให้เป็นประธานศาลปกครอ

'เซลส์นิด' แจงสภาสูง ขยันทัวร์นอกเหตุจำเป็น เมินตอบปม 'ทักษิณ'

'เศรษฐา' ปัดแก้ตัวงบไม่มางานไม่เดิน เคลมราคายางพุ่งผลงานรัฐบาล ชี้ดึงต่างชาติลงทุนล้านล้านบาท ใช้เวลามากกว่า 7 เดือน แถลงความก้าวหน้าทัวร์นอก 26 มี.ค.