ไทยจัดประชุมรัฐมนตรี SME 'เอเปก' ที่ภูเก็ต 9-10 ก.ย.นี้ เร่งฟื้นฟูหลังพิษโควิด

ไทยจัดประชุมรัฐมนตรีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเอเปค ที่ภูเก็ต 9-10 ก.ย. นี้ เตรียมถกแนวทางเร่งฟื้นฟูผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากผลกระทบโควิด19 ผ่านการเข้าถึงเงินทุน ปรับตัวสู่ดิจิทัลและ BCG Model

8 ก.ย.2565 - ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 9-10 ก.ย. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน จะเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเอเปค ครั้งที่ 28 ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) เป็นหน่วยงานเจ้าภาพจัดขึ้นที่ จ.ภูเก็ต โดยการประชุมฯ จะเป็นการหารือระดับนโยบายด้านการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก หรือเอเปค ซึ่งปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้หัวข้อหลักเรื่อง “การฟื้นตัวโดยรวมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและรายย่อย (Micro, Small and Medium Enterprise: MSME) ในเอเปค ผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) และระบบนิเวศที่มีผลกระทบสูง

“รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ MSME จากทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจของเอเปค จะร่วมหารือกันในประเด็นการส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถของ MSME ในการเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล การส่งเสริมผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบการปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการเตรียมความพร้อมรับมือกับตลาดที่กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ MSME ของสมาชิกเอเปคสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด19 และมีศักยภาพในการปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายในบริบทโลกยุคใหม่” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 65 เป็นต้นมา สสว. ได้เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมคณะทำงานด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME Working Group: APEC SMEWG) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้าน MSME ของเอเปค ทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ เพื่อจัดทำข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ ตลอดจนข้อเสนอแนะการฟื้นฟู SME จากโควิด19 เพื่อเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีในวันที่ 9-10 ก.ย. 65

โดยประเด็นซึ่ง APEC SMEWG ได้เป็นข้อสรุปและจะเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในกลุ่มเอเปคต่อไป มี 4 ด้าน ได้แก่ 1) วิธีการส่งเสริมให้ MSME เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นรวดเร็วมากขึ้นผ่านเทคโนโลยีทางการเงินใหม่ๆ (Fin Tech) 2) การเข้าถึงตลาด โดยการลดต้นทุนทางการค้า ส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐและภาคเอกชน 3) ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน และ 4) การปรับเปลี่ยนสู่เศรษฐกิจสีเขียวผ่านห่วงโซ่อุปทานที่จะเน้นผลิตภัณฑ์ชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่อยู่ในความสนใจของทั่วโลก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม.เห็นชอบ ยธ. แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและอุ้มหาย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ/เห็นชอบในเรื่องแต่งตั้ง วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ดังนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคล

นายกฯ ย้ำรัฐบาลรักษาการทำหน้าที่ดีที่สุด สั่งทุกหน่วยเร่งรัดเบิกจ่ายงบ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดเงิน

ต่างชาติแห่เที่ยวประเทศไทยใกล้แตะ 10 ล้านคน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวของไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 พ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทุกช่อง

แนะคนพลาดเข้าคูหาเลือกตั้ง แจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิ 15-21 พ.ค.นี้

รัฐบาลแนะคนพลาดเข้าคูหา แจ้งเหตุไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอ ท้องถิ่น หรือช่องทางออนไลน์ ระหว่าง 15-21 พ.ค. ป้องกันการถูกจำกัดสิทธิสำคัญ 5 ประการ

เผย 4 เดือนต่างชาติไหลเข้าไทยแล้ว 8.6 ล้านคน แนวโน้มตามเป้า 25-30 ล้านคนในปีนี้

หน่วยงานคมนาคมจัดการอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางช่วงวันหยุดยาว 4-7 พ.ค.66 สนับสนุนภาคท่องเที่ยว เติมเต็มการเติบโตทั้งตลาดในและต่างประเทศ เผย 4 เดือนต่างชาติไหลเข้าไทยแล้ว 8.6 ล้านคน