“บิ๊กตู่” มอบโอวาทเด็ก ขอมีภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันสถานการณ์ ร่วมเดินหน้าประเทศเพื่อบ้านเมืองสงบสุข วอนอย่าสร้างวิกฤตด้วยความขัดแย้ง-บิดเบือน ฝากทุกฝ่ายขับเคลื่อนเด็กไทยไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทำผ้าขาวเป็นผืนผ้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
11 ม.ค.2566 - เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวให้โอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม วันนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดีที่มีความสำเร็จ เราคือคนรุ่นใหม่ที่จะเจริญเติบโตไปในวันข้างหน้าและมีอนาคตอันสดใสรอพวกเราอยู่ จึงขอให้ทุกคนเดินหน้าอย่างระมัดระวังในการศึกษาเล่าเรียนให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันถ้ามองเราจะเห็นว่าการที่คนจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพและมีความมั่นคงและมีอนาคต วันนี้เราเผชิญกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้สังคมและเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและนวัตกรรมที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เราต้องมองไปข้างหน้าว่าภาพรวมอนาคตที่เกิดขึ้นว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง อาจมีทั้งสถานการณ์ที่ดีและสถานการณ์ที่เลวร้าย จึงต้องเตรียมความพร้อมของเราให้มากที่สุด ทำวันนี้เพื่อให้ก้าวต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคงให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน
"ขอให้หลานๆทุกคนมองไปถึงอนาคต โดยต้องศึกษาเล่าเรียนหาความรู้ให้รู้ว่าเราจะร่วมมือกันเดินไปได้อย่างไร ระหว่างคนรุ่นนี้ รุ่นกลาง รุ่นเราและรุ่นเด็กทั้งหมดคือประชาชน คือคนไทยทั้งประเทศ ย่อมมีความรักมีความหวงแหนแผ่นดินผืนนี้ ฉะนั้นเราต้องช่วยกันดูแลรักษาด้วยจิตใจที่มั่นคง มีหลักการ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในการที่จะฟังและในการที่จะเชื่อ เราคิดอะไรก็ได้แต่คิดแล้วต้องหาคำตอบว่าที่เราได้ยินและได้ฟังมามันใช่หรือไม่ใช่จริงหรือไม่จริง จึงอาจต้องคิดซับซ้อนหลายขั้นตอนด้วยกัน และขึ้นอยู่กับกระบวนการเรียนรู้ คิดว่าทุกคนที่อยู่ในห้องนี้คิดได้ว่าทำอย่างไรให้ประเทศชาติของเรามั่นคงให้เรามีอนาคต"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เราต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวในการเดินหน้าประเทศ วันนี้เชื่อมโยงกันทั้งโลกเป็นห่วงโซ่ จึงมีทั้งวิกฤตและโอกาส ทำอย่างไรให้โอกาสไม่กลายเป็นวิกฤต ดังนั้นเราต้องช่วยกันศึกษาหาความรู้ และย้ำว่าต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการที่จะเชื่อ ในการที่จะอ่าน หรือในการที่จะตัดสินใจ การคิดการตัดสินใจอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงอดีต ปัจจุบันและอนาคต ว่าจะเดินหน้าประเทศของเราอย่างไรและได้ประโยชน์อะไรจากการที่เราทำแบบนั้น ทุกคนต้องรับประโยชน์ไปด้วยกันไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งหรือใครรุ่นใดรุ่นหนึ่งเพียงเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกเรื่องสำคัญที่ตนย้ำเสมอคือการปรับทัศนคติระบบการศึกษาใหม่ ซึ่งไม่ใช่การศึกษาเล่าเรียนเพื่อรู้อย่างเดียว แต่ต้องศึกษาให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ มีหลักคิดที่ถูกต้อง ซึ่งคิดว่าทุกคนก็มุ่งหวังไปสู่อนาคตที่ดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี เราต้องก้าวไปถึงจุดนั้นด้วยตัวเราเองเป็นส่วนสำคัญ นอกจากนั้นเป็นเรื่องของครูโรงเรียนพ่อแม่เพื่อนฝูงต่างๆที่ต้องช่วยกันไปในการเดินหน้า นอกจากนี้ทักษะในการดำเนินชีวิตในสังคมก็สำคัญไม่แพ้กัน วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน แต่คนต้องพัฒนาไปในทางที่ถูกต้องในทางที่ดีงามในการสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติเพื่อเป็นพลังอันแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนตัวเรา สังคมและประเทศของเราไปข้างหน้า ขณะเดียวกันนอกจากความรู้ในโรงเรียนและในตำราแล้วยังมีในโซเชียลต่างๆ มากมาย ทุกคนจึงต้องมีภูมิคุ้มกันในการจะคิดจะฟังหรือจะเชื่ออะไรก็แล้วแต่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ตนให้คำขวัญวันเด็กว่า "รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี" ซึ่งน่าจะเป็นคำที่เข้าใจง่ายๆว่า คำว่ารู้หน้าที่ หน้าที่ของเราคืออะไรในเวลานี้ ส่วนวินัยคืออยู่ในกรอบของโรงเรียน กรอบของพ่อแม่ที่สั่งสอนมาและกรอบในเรื่องของกฎหมายที่เราต้องเรียนรู้ และใฝ่ทำแต่ความดีไม่ไปสร้างผลกระทบกับคนอื่น ขณะที่วันนี้เป็นการนำพาประเทศของเราไปสู่อนาคต นำพาพวกเราพ่อแม่ ญาติพี่น้องของเราไปข้างหน้า โดยปราศจากความขัดแย้ง ถ้าเรารู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง ทุกอย่างเราฝันได้ เราคิดได้ว่าเราอยากจะเป็นอะไรในอนาคต แต่ต้องหาวิธีการหรือเส้นทางเดินที่เหมาะสมว่าเราจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร แล้วต้องดำรงตนอย่างมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบต่อตนเอง พ่อแม่ ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ สร้างสังคมที่ดีให้กับบ้านเมืองและประเทศชาติ ซึ่งเรามีทั้งมิติความมั่นคงและเศรษฐกิจสังคม
"ผมคาดหวังพวกเราทุกคนในห้องนี้และที่เหลือด้วย แม้จะไม่ได้รับรางวัลก็ตาม เราต้องเป็นแกนนำในการนำให้คนเหล่านี้เดินหน้าไปแบบที่ลุงพูดให้ได้ บ้านเมืองเราก็จะสงบสุข เรามีโอกาสหลายโอกาสด้วยกัน อย่าทำโอกาสเหล่านั้นให้กลายเป็นวิกฤตด้วยความขัดแย้งด้วยความบิดเบือนอะไรต่างๆ เราห้ามไม่ได้ในส่วนตรงนี้ ถ้าหากว่าท่านมีภูมิคุ้มกันของตัวเองมีหลักคิดมีกระบวนการคิดที่ถูกต้อง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ฝากไปยังท้องถิ่นเทศบาลต่างๆ ทั้งหมดด้วย เพราะนี่คือผ้าขาวของเรา ผ้าผืนนี้สีขาวเราต้องไม่ทำให้ผ้าของเราเปรอะเปื้อนเป็นสีอื่น เราต้องการให้เป็นผ้าสีขาวเพื่อเป็นผืนผ้าที่มีคุณภาพ เป็นผืนผ้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยและปลอดภัยในอนาคต วันนี้ตนคาดหวังเพียงเท่านี้เอง ขอทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนเด็กของเราไปข้างหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง
จากนั้นนายกฯถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชนที่ร่วมงาน ก่อนกลับขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้ายังได้ถ่ายภาพเซลฟี่ร่วมกับเด็กและผู้ปกครองที่มายืนรอบริเวณทางเชื่อมระหว่างตึกสันติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมชวนผู้ปกครองขึ้นไปชมภายในตึกไทยคู่ฟ้าด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
5 เหตุผล 'เศรษฐา' รอดชั่วคราว
ทำไมคุณเศรษฐา ถึงรอดมาจากเงื้อมมือของศาลรัฐธรรมนูญได้ อย่างฉิวเฉียดขนาดนี้ (5:4) ซึ่งผมคิด แล้วก็เดาเอาเองว่ามันน่าจะมีสาเหตุมาจากหลายๆเรื่
การันตีเก้าอี้เศรษฐา อิ๊งค์เมินเสียบมั่นใจไม่หลุด/นายกฯระดมทีมกฎหมายสู้คดี
"เศรษฐา" กลับถึงไทย ระดมทีมกฎหมายถกช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้
ฟุ้งทัวร์3ปท.ได้ตามเป้า นัดอันวาร์ลงด้ามขวาน
"เศรษฐา" ปากหวานทิ้งทวนปาฐกถาที่โตเกียว รัฐบาลไทยตั้งเป้าเพิ่มการผลิต EV
'อุ๊งอิ๊ง' เผยไม่ได้เตรียมพร้อมเป็นนายกฯ เชื่อ 'เศรษฐา' ไม่หลุดเก้าอี้
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ 40 สว. ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่
นายกฯ เรียกถกทุกหน่วยงาน 28 พ.ค. ป้องกันน้ำท่วมครั้งใหญ่
'นายกฯ' เรียกถกทุกหน่วยงาน บูรณาการ-วางแผน ป้องกันน้ำท่วมครั้งใหญ่ 28 พ.ค.นี้ เน้นกองทัพ มียุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อม
'ณณัฏฐ์' ไขก๊อก สส.เพื่อไทย 'แกนนำเสื้อแดง' เสียบแทน
มื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น สส. ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร