ไทย-ตุรกีเตรียมทำเอ็มโอยูความร่วมมือด้านอุดมศึกษา!

ครม.อนุมัติร่างร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการอุดมศึกษาไทย – ตุรกี กำหนดกรอบความร่วมมือในระดับสถาบัน แลกเปลี่ยนทางวิชาการและวิทยาศาสตร์ สถาบันอุดมศึกษา 2 ประเทศ

25 ม.ค.2566 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการอุดมศึกษาไทย - ตุรกี ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทยและสภาอุดมศึกษาแห่งสาธารณรัฐตุรกี ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอเพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือในระดับสถาบันสำหรับคู่ภาคีเพื่อจัดการแลกเปลี่ยนทางวิชาการและวิทยาศาสตร์ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของทั้ง 2 ประเทศโดยจะสนับสนุนการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและการฝึกงานของนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาภายใต้โครงการที่กำหนดรวมถึงโครงการวิจัยระยะสั้น การแลกเปลี่ยนสื่อทางการศึกษา การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การสัมมนา การประชุมทางวิชาการ มีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 4 ปี

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นอกจากทั้งไทยและตุรกีจะมีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและการฝึกงานของนักศึกษา-บุคลากรทางการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาแล้ว ทั้ง 2 ประเทศยังจะสนับสนุนให้มีการจัดตั้งการดำเนินการและการพัฒนาหลักสูตรร่วมในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก รวมถึงมีการส่งและรับนักศึกษาทุนในสถาบันอุดมศึกษาภายใต้กรอบกฎหมายของประเทศและวิธีการที่เห็นชอบร่วมกัน และจะมีการดำเนินการด้านการรับรองคุณวุฒิรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรภายใต้กรอบกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศ

“ร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว จะใช้เป็นหัวข้อหารือในการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการไทย - ตุรกี ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2566 ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ซึ่งจะมีท่านดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย หลังจากนั้นจะมีการดำเนินการที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนเพื่อรอการลงนามต่อไป” น.ส.ทิพานัน กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เฮ!รัฐบาลจัดเชื่อเงินด่วนให้ 'อสม.-อสส.' กู้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท

รัฐบาลจัดโครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดี ให้สมาชิก อสม. - อสส. รายละไม่เกิน 20,000 บาท ยื่นกู้ได้ ณ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2568

รัฐบาล ห่วงใยสุขภาพประชาชน แนะหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแดดร้อนจัด

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้ที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ทำให้หลายพื้นที่มีอากาศร้อนอบอ้าว มีค่าดัชนีความร้อนพุ่งสูงขึ้น และอาจมีอุณหภูมิสูงถึง 44.5 องศาเซลเซียส