12 ก.พ. 2566 – สวนดุสิตโพลร่วมกับหลักสูตรจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์กรคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ทำการศึกษาในหัวข้อ “มุมมองความรักของคนไทยณวันนี้” เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการแบบผสมผสานระหว่างการสำรวจข้อมูลทางออนไลน์และการเสวนากลุ่มโดยผลการสำรวจทางออนไลน์สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศทั้งในกลุ่มผู้ใหญ่และกลุ่มวัยรุ่นจำนวนทั้งสิ้น 1,095 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 5-9 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่าปัจจุบันคนไทยมีทัศนคติมุมมองต่อความรักแตกต่างจากสมัยก่อนร้อยละ 72.48 โดยมองว่าการมี “ความรักแบบคนรัก” เป็นสิ่งจำเป็นมากร้อยละ 36.89 ทั้งนี้เคยมีประสบการณ์หรือเคยเจอความสัมพันธ์แบบแย่ๆ (Toxic relationship) ร้อยละ 67.58 ส่วนการแสดงความรักปกติแล้วมักแสดงความรักด้วยการใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกันร้อยละ 66.64 วิธีการรักษา/ถนอมความรักคือเข้าใจกันรับฟังอย่างมีเหตุผลร้อยละ 82.77 ในวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักที่จะถึงนี้คาดว่าจะใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 1,528.95 บาท/ต่อคนของขวัญที่อยากได้ในวันวาเลนไทน์อันดับ 1 คือดอกไม้ช่อดอกไม้ร้อยละ 48.07 รองลงมาคือรับประทานอาหารด้วยกันร้อยละ 31.93 และเงินร้อยละ 23.86
จากผลการสำรวจพบว่าคนไทยมองว่าความรักยังเป็นสิ่งจำเป็นสังคมที่เปลี่ยนแปลงทำให้มุมมองต่อความรักนั้นเปลี่ยนไปด้วยเปิดกว้างมากขึ้นเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาความสัมพันธ์มากขึ้นนอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่ม LGBTQIA+ เป็นกลุ่มที่เคยเจอกับความสัมพันธ์ที่ไม่ดีสูงถึงร้อยละ 80.00 ส่วนกลุ่มเพศหญิงเคยพบเจอร้อยละ 69.84 ถึงแม้ว่าความรักจะสำคัญเพียงใดหากเจอสถานการณ์ที่อยู่แล้วไม่สบายใจไม่ปลอดภัยเสียเปรียบหรือเหนื่อยก็ต้องกล้าที่จะก้าวออกมารักตัวเองให้มากขึ้นในทุกความสัมพันธ์ย่อมมีสิทธิที่ได้จะได้รับการแสดงออกต่อกันที่ดี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พัศรินท์ก่อเลิศวรพงศ์อาจารย์ประจำหลักสูตรจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์กร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์จากการเสวนากลุ่มเรื่อง All About Love : ครบเครื่องเรื่องความรักพบว่าความรักไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดย่อมมีคุณค่าในตัวเองเสมอความรักอย่างมีสติจะทำให้ความรักนั้นมีคุณภาพความรักควรเป็นความปรารถนาดีที่อยากให้คนที่เรารักมีความสุขโดยไม่คาดหวังสิ่งใดสำหรับวิธีดูแลความรักเริ่มจากความเข้าใจการยอมรับในตัวตนที่แท้จริงความเอื้ออาทรความเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกันก็จะทำให้ความรักนั้นยั่งยืนและเมื่อความรักไม่เป็นไปตามความคาดหวังในเบื้องต้นควรปลดปล่อยอารมณ์ความเสียใจหรืออารมณ์โกรธนั้นออกมาเช่นการร้องไห้การเขียนระบายความรู้สึกการออกกำลังกายหรือการมีเพื่อนพูดคุยให้คำปรึกษาระบายความทุกข์เพื่อผ่อนคลายความอัดอั้นใจและไม่ควรซ้ำเติมความเศร้าของตนเองเช่นการไปยังสถานที่แห่งความทรงจำหรือการเสพสื่อที่มีเนื้อหากระตุ้นอารมณ์เศร้าให้มีมากยิ่งขึ้นสุดท้ายความรักและการเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดความเข้มแข็งทางใจที่จะสามารถผ่านภาวะวิกฤตทางอารมณ์ไปได้ด้วยดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดุสิตโพลชี้ คนไทยหวังโครงการแจกเงิน เป็นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,246 คน
ดุสิตโพล ชี้คนไทยห่วงมาตรการกระตุ้นศก. รัฐบาลอิ๊งค์ สร้างภาระให้ประเทศ
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “รัฐบาลแพทองธาร กับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ” ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,227 คน สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแพทองธารอาจก่อให้เกิดภาระหนี้สาธารณะ
คนไทยผวา 'ทรัมป์' คัมแบ็ก สินค้าจีนสุมประเทศ
สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจ ชี้คนไทยรู้สึกเฉยๆ ทรัมป์ กลับคืนตำแหน่ง ปธน.สหรัฐฯ แต่ห่วงเรื่องผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจผวาสินค้าจีนทะลักเข้าประเทศ
‘อิ๊งค์’ปลื้มผลโพลดันก้น โรมรุกทักษิณนอนชั้น14
รัฐบาลปลื้ม! ผลสำรวจดัชนีการเมืองไทยขยับขึ้นเกินครึ่งแล้ว ตัวชี้วัด 25 ประเด็นพุ่ง
ดุสิตโพล เผยภัยหลอกลวงออนไลน์ เป็นปัญหาใหญ่สุดอย่างให้เข้มงวดแก้ไข
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ภัยสังคมที่ประชาชนอยากให้เร่งแก้ไข” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,357 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 15-18 ตุลาคม 2567
เปิดผลสำรวจกลุ่มเปราะบางรับเงินหมื่น พบเอามาต่อยอดลงทุนน้อย
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นต่อนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเปราะบางผู้ได้รับเงินแล้ว จำนวน 845 คน