รัฐบาลเดินหน้านโยบายและแผนระดับชาติป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ.2566 – 2570 เฝ้าระวังยาเสพติดออนไลน์ จัดตั้งศูนย์คัดกรองทุกพื้นที่
22 ก.พ.2566 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2566 ครม.เห็นชอบร่างนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด (พ.ศ.2566 – 2570) ซึ่งร่างนโยบายและแผนฉบับนี้ ได้มีการเพิ่มเติมแนวทางใหม่จากแผนฉบับเดิมที่สิ้นสุดลงแล้ว อาทิ 1.การป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่สังคมออนไลน์ โดยพัฒนาระบบเฝ้าระวังในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อปิดกั้นการเข้าถึงการค้ายาเสพติด 2.แนวทางการคัดกรองผู้เสพยาเสพติด โดยจัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ พัฒนารูปแบบการคัดกรองผู้เสพยาเสพติดอย่างบูรณาการ และ 3.นโยบายและแผนด้านการยึดทรัพย์สินคดี ยาเสพติด เป็นต้น สำหรับสาระสำคัญของร่างนโยบายและแผน มีดังนี้
ร่างนโยบายและแผนจะขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์ สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด ด้วยมาตรการทางเลือกใหม่ สู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เป็นยุทธศาสตร์ในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบ และลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดจนไม่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทย 2.เป็นการบูรณาการนโยบายและแผนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มุ่งไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน และ 3.เป็นกรอบในการบริหารจัดการประสานการปฏิบัติ จัดสรรทรัพยากร งบประมาณในการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบ กำกับติดตามและประเมินผลทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในการนานโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และมีตัวชี้วัด คือ 1.สัดส่วนของผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดต่อประชากรลดลง 2.ร้อยละของคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดลดลง และ 3.ร้อยละความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการดำเนินงาน ป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด สำหรับแนวทางการดำเนินงานตามร่างนโยบายและแผน ประกอบด้วย 6 ด้าน ดังนี้
1.ด้านการป้องกันยาเสพติด มีเป้าหมาย คือ ประชากรทุกกลุ่มรู้เท่าทันยาเสพติดและมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด แนวทางการดำเนินการ อาทิ 1.เสริมสร้างความรู้เท่าทันและป้องกันยาเสพติดในเด็กและเยาวชน และสร้างความตระหนักและจิตสำนึกร่วมในการป้องกันปัญหายาเสพติด 2.พัฒนาระบบเฝ้าระวังและควบคุมปัญหายาเสพติดในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์
2. ด้านการปราบปรามยาเสพติด มีเป้าหมาย คือ ปรามปรามทาลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด แนวทางการดำเนินการ อาทิ 1.สกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ เพื่อไม่ให้เข้าสู่ประเทศและถูกใช้เป็นเส้นทางนำผ่านไปยังประเทศที่สาม 2.ปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด 3.ดำเนินการทางวินัยและบังคับใช้กฎหมายลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
3.ด้านการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด มีเป้าหมาย คือ ทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดด้วยมาตรการทางทรัพย์สิน แนวทางการดำเนินการ อาทิ พัฒนารูปแบบการยึดหรืออายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด
4.ด้านการบำบัดรักษายาเสพติด มีเป้าหมาย คือ การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพทางสังคมของผู้เสพยาเสพติดและผู้เสพยาเสพติดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แนวทางการดำเนินการ อาทิ 1.การนำผู้เสพยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาด้วยความสมัครใจ 2.เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลผู้เสพยาเสพติด
5. ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ มีเป้าหมาย คือ ไทยมีบทบาทในการเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพให้กับบุคลากรด้านยาเสพติดระหว่างประเทศ แนวทางการดำเนินการ อาทิ 1.เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนและนอกภูมิภาคร่วมปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด 2.พัฒนาบทบาทของไทย เพื่อให้ไทยเป็นแกนกลางในการประสานงานภายในภูมิภาคอาเซียน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดระหว่างประเทศ
6.ด้านการบริหารจัดการ มีเป้าหมาย อาทิ 1.การแก้ไขปัญหายาเสพติดมีความประสานสอดคล้องในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างบูรณาการในทุกระดับ 2. บุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดมีทักษะและสมรรถนะสูงพร้อมรับมือกับภัยคุกคามของปัญหายาเสพติดในยุคดิจิทัล แนวทางการดำเนินการ อาทิ 1.พัฒนากลไกอำนวยการ ระเบียบ กฎหมาย 2.เสริมสร้างสมรรถนะของบุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด และ 3.การควบคุมและใช้ประโยชน์จากพืชเสพติด และพืชในการกำกับควบคุมดูแลพิเศษของรัฐ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเตือนผู้กู้ยืม กยศ.อย่าเบี้ยวหนี้
รัฐบาลเตือนผู้กู้ยืม กยศ.หากไม่ชำระเงินคืนตามกำหนดจะทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยและเสียเบี้ยปรับจากการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงถูกฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมาย ย้ำผู้กู้ยืมต้องมีคุณธรรมมีความรับผิดชอบ
ครม. อนุมัติงบ 1.9 พันล้าน ช่วยบรรเทาค่าไฟกลุ่มเปราะบาง เดือน ก.ย.-ธ.ค.67
นายคารม พรพลกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 เคยอนุมัติหลักการช่วยบรรเทาค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง วันนี้ (11 ธ.ค.) ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 1,900 ล้านบาท
นายกฯ อิ๊งค์รับลางานไปสัมมนาพรรคที่หัวหิน!
'นายกฯอิ๊งค์' เผยลางานร่วมสัมมนาเพื่อไทย 13 ธ.ค.นี้
'ครม.'เห็นชอบไทยจัดวอลเลย์หญิงโลก 32ชาติร่วมตบ22ส.ค.-7ก.ย.68 กระจาย4สนามทั่วปท.
เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. ที่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 3 ธันวาคม ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกในปี 2568 ตามที่กระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ซึ่งเป็นไปตามที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ( FIVB ) ได้ให้เกียรติประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ โดยได้พิจารณาเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพความพร้อมทุกด้านทั้งสนามแข่งขัน ที่พัก บุคลากร ตลอดจนการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยมีแฟนคลับวอลเลย์บอลจำนวนมาก ชมและเชียร์อย่างสุภาพให้เกียรตินักกีฬาทุกประเทศ ประกอบกับประเทศไทยมีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติมาหลายรายการ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำเร็จจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก ( VNL) รอบชิงชนะเลิศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
'ภูมิธรรม' ปัด พท. ยึดอำนาจกองทัพสกัด 'ปฏิวัติ' อ้างรอผลศึกษาก่อน
'ภูมิธรรม' ขออย่าเพิ่งคิดไกล ปม 'สส.เพื่อไทย' ชงแก้ กม.กลาโหม ให้อำนาจ ครม. ตั้งนายพล สกัดรัฐประหาร ชี้รอฟังผลศึกษา ปัดล้วงลูกข้าราชการ ไม่มีเจตนาลดอำนาจทหาร ชี้กองทัพ-การเมืองคุยกันดี
รัฐบาลตีปี๊บแถลงผลงาน 90 วัน 12 ธ.ค. มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย
รัฐบาลแถลงผลงาน 90 วัน “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง“ พฤหัสนี้ มั่นใจประเทศไทยไปได้สวย หลังพบทุกมิติของประเทศคึกคัก คาดจีดีพีปีหน้าเติบโตสู้ประเทศในอาเซียนได้แน่