นายกฯ ยินดีต่างชาติตอบรับข้าวไทยล้นหลามในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีผลตอบรับข้าวไทยในงานแสดงสินค้าอาหาร 2566 เจรจาซื้อขายข้าวมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท คาดภายใน 1 ปีจะซื้อเพิ่มอีกกว่า 300 ล้านบาท

08 มิ.ย.2566 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับตัวเลขการซื้อขายข้าว และความสนใจต่อข้าวไทย ในงานแสดงสินค้าอาหาร 2566 (THAIFEX-ANUGA ASIA 2023) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23–27 พ.ค.2566 จากกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการค้าข้าวคุณภาพดี 15 จังหวัดของประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ และผู้นำเข้าจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยมีการเจรจาซื้อขายข้าวทันทีภายในงานมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะซื้อเพิ่มอีกประมาณ 300 ล้านบาท ตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ และคุณภาพของข้าวไทย ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ มาตรฐาน

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้นำกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการค้าข้าวคุณภาพดีจาก 15 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสุรินทร์, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, ยโสธร, อำนาจเจริญ, ชัยภูมิ, นครพนม, ขอนแก่น, สกลนคร, พะเยา, เชียงราย และพัทลุง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ และข้าวคุณลักษณะพิเศษที่สำคัญของไทย ที่ได้รับการรับรองจากจังหวัด และเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยจากกรมการค้าต่างประเทศ หรือได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพมาตรฐานข้าวในระดับสากล เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหาร 2566 (THAIFEX-ANUGA ASIA 2023)

ในการนี้ข้าวไทยได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ และผู้นำเข้าจากประเทศต่าง ๆ เป็นอย่างมาก เกิดการเจรจาซื้อขายข้าวทันทีภายในงานปริมาณ 2,750 ตัน มูลค่ารวม 96 ล้านบาท และคาดการณ์คำสั่งซื้อภายในเวลา 1 ปี ปริมาณ 8,600 ตัน หรือมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท รวมมูลค่าประมาณ 396 ล้านบาท ถือเป็นการส่งเสริมและขยายโอกาสในการส่งออกข้าวไทยให้เพิ่มขึ้น และเพิ่มโอกาสในการประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเเละตอกย้ำศักยภาพ คุณภาพ และมาตรฐานข้าวไทย ในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวคุณภาพของโลก

“นายกฯ เชื่อมั่นในคุณภาพ มาตรฐานของข้าวไทย ที่ต่างประเทศให้การยอมรับ ซึ่งผลการเจรจาการค้าดังกล่าวถือเป็นความสำเร็จในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล กระตุ้นการซื้อขายข้าวไทยได้เพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่นำข้าวไทยมาประชาสัมพันธ์ เพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้า และช่องทางการส่งออกข้าวไทยให้เพิ่มมากขึ้น” นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธุรกิจดาวรุ่งปี 2569 เทรนด์ดิจิทัล-ไลฟ์สไตล์-สุขภาพ มาแรง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2569 ยังมีแรงส่งจากธุรกิจที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พร้อมจัดอันดับ 3 กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งรวม 10 ประเภทเทรนด์ดิจิทัล-ไลฟ์สไตล์-สุขภาพ มาแรง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้านโยบาย Quick Big Win เต็มสูบ เสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย เตรียมจัดใหญ่…แฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดงานแฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาค 4 จังหวัด ทั่วประเทศ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และอุดรธานี ยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่การเติบโตเชิงรุก พร้อมสร้างโอกาสให้ประชาชนในภูมิภาคเป็นเจ้าของธุรกิจอย่างเป็นระบบ ช่วยงสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้

อึ้ง! 11 เดือนจับสินค้าละเมิดสิขสิทธิ์กว่า 3 ล้านชิ้นมูลค่ากว่าพันล้าน

รัฐบาลเผยสถิติจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาช่วง 11 เดือน ปี 68 ยึดของกลาง กว่า 3 ล้านชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท เดินหน้ายกระดับจัดการสินค้าละเมิดบนแพลตฟอร์มออนไลน์

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินหน้านโยบาย Quick Big Win เต็มสูบ เสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย เตรียมจัดใหญ่…แฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตรียมจัดงานแฟรนไชส์ Roadshow 4 ภูมิภาค 4 จังหวัด ทั่วประเทศ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต และอุดรธานี ยกระดับธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสู่การเติบโตเชิงรุก

พาณิชย์ยกระดับข้าวไทยหลากสายพันธุ์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ กว่า 8,000 ล้านบาท

กรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยสถิติข้าวไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI รวม 24 รายการ จาก 31 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถสร้างมูลค่าขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนใน 3 ไตรมาสแรก (ม.ค. - ก.ย.) ปี 2568 มากกว่า 8,000 ล้านบาท สะท้อนคุณภาพและอัตลักษณ์ข้าว GI เป็นที่ยอมรับของตลาด ทั้งในฐานะสินค้าบริโภคหลักภายในประเทศและสินค้าส่งออกสำคัญที่มีตลาดรองรับทั่วโลก ช่วยสร้างความมั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรผู้ขึ้นทะเบียนกว่า 6 แสนครัวเรือน