จับตา! ศาลปกครองชี้ขาดปม 3 โครงการในมาบตาพุดต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือไม่!

ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษาปมชาวบ้านร้อง 3 โครงการในพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉางไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลชั้นต้นสั่งให้ดำเนินการตามมาตรา 67 ของ รธน.ปี 2550 ใน 30 วัน

28 ก.ย.2566 - ในเวลา 14.00 น ณ ห้องพิจารณาคดี 9 ชั้น 3 ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 422/2553 คดีหมายเลขแดงที่ 663/2558 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 35 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 1 กับพวกรวม 9 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร

โดยคดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 1 กับพวกรวม 9 คน ให้ความเห็นชอบรายงานการประเมินและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และออกใบอนุญาตให้แก่โครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ในพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยไม่มีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้อง

ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งเก้าร่วมกันหรือแทนกัน มีคำสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโครงการผลิตเหล็กเส้นของบริษัท เหล็กทรัพย์ตะวันออก จำกัด โครงการท่าเทียบเรือขนถ่ายสินค้าเหลวของบริษัท เอเซียเทอร์มินัล จำกัด และโครงการโรงไฟฟ้า T.N.P 2 อุตสาหกรรม 2 แห่ง ของบริษัท เนชั่นแนลเพาเวอร์ 2 จำกัด ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 โดยมีคำสั่งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการทั้งสามรายดำเนินการให้แล้วเสร็จ และนำมาประกอบการขออนุญาตประกอบกิจการ เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโครงการหรือกิจกรรมที่พิพาทในคดีนี้มีจำนวน 3 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องดำเนินการตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 การที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งเก้าร่วมกันหรือแทนกันไม่ออกคำสั่งให้ผู้ประกอบกิจการทั้งสามโครงการดังกล่าวดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดี จึงยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลปกครองสูงสุด ไม่รับคำขอพิจารณาคดีใหม่ของนิติบุคคล 'แอชตัน อโศก' ชี้ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของนิติบุคคลอาคารชุด แอชตัน อโศก ไว้พิจารณา

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำพิพากษาให้ชาวบางสะพานชนะคดีนายทุนฮุบป่าพรุแม่รำพึง

ที่ศาลปกครองสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำ

ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลชั้นต้นให้รับฟ้องเพิกถอนควบรวม ทรู-ดีแทค

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้รับคำฟ้องของผู้บริโภค 5 รายในคดีขอให้เพิกถอนมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) กรณีรับทราบ

กยศ. ลงพื้นที่ระยองช่วยเหลือนักศึกษา 3,000 กว่าคนเช้าวันนี้

“กยศ. เตรียมลงพื้นที่เช้าวันที่ 1 ก.พ.67 เพื่อช่วยเหลือนักศึกษา 3,000 กว่าคน ที่สถานศึกษาจังหวัดระยอง พร้อมเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. ร่วมลงพื้นที่”