3 ต.ค.66 – เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และนายวีระชัย ช้างสาร ได้เดินทางมายื่นคำร้องถึง รมว.อุตสาหกรรม เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการลักลอบทิ้งและฝังกลบกากอุตสาหกรรมซึ่งเป็นสารอันตรายในเขต ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่สะสมมากถึง 21 ไร่
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ตัวแทนของสมาคมฯในพื้นที่ภาคตะวันออก คือ นายวีระชัย ช้างสาร ซึ่งได้พบเห็นการทิ้งกากอุตสาหกรรมดังกล่าว พยายามประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมมลพิษ จ.ระยอง เพื่อเดินทางลงพื้นที่และสุ่มตรวจตัวอย่างกากอุตสาหกรรมในจุดต่าง ๆ ที่พบจำนวน 6 จุด เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเก็บตัวอย่างกากอุตสาหกรรมที่ปนเปื้อนในดินเพื่อตรวจหาคุณสมบัติของสิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่มีองค์ประกอบของสารอินทรีย์อันตรายในหน่วยมิลลิกรัมของสารต่อ 1 กิโลกรัมของสิ่งปฏิกูลสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง คือ พบสารตะกั่ว 6 จุดในพื้นที่ฝังกากอุตสาหกรรมที่มีค่าเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดจำนวนมากด้วย
ซึ่งสารตะกั่วที่พบใน 6 จุดที่กระจายทั่วพื้นที่นั้น มีค่าสูงสุดถึง 16,900 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และต่ำสุดที่ 3,720 มิลลิกรัม ซึ่งมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 800 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม อีกทั้งพื้นที่ฝังกลบยังอยู่ใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้อุปโภค-บริโภค และพื้นที่ดังกล่าวถูกประกาศให้เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมแล้วด้วย ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้ชาวบ้าน เด็ก เยาวชนที่บริโภคน้ำที่ปนเปื้อนดังกล่าวเป็นโรคพิษจากสารตะกั่ว และหรือโรคอิไต-อิไต ได้
กรณีเยี่ยงนี้ เจ้าของโรงงานที่นำกากอุตสาหกรรมมาทิ้งย่อมมีความผิดฐานนำกากอุตสาหกรรมออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีคำสั่งให้ทำการฟื้นฟูสภาพดินปนเปื้อนสารอินทรีย์ที่มีสารโลหะหนักอันตรายให้กลับคืนสภาพที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และจะต้องดูแลสิ่งมีชีวิตและผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชน สังคมโดยรวม ตาม พรบ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535
นอกจากนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องสั่งการให้นิติกรไปแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของกากอุตสาหกรรม ตามมาตรา 37 วรรค 1 เรื่องการนำกากอุตสาหกรรมมากองนอกพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตตามข้อ 9 ประกอบข้อ 12 ของประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องกำจัดสิ่งปฏิกูล พ.ศ.2548 และต้องรีบขนย้ายกากอุตสาหกรรมออกไปกำจัดบำบัดทางวิชาการให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว
เป็นที่น่าสังเกตว่า การทิ้งกากสารพิษดังกล่าว ทำมานานกว่า 16 ปีแล้ว เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต่างเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่ยอมบังคับใช้กฎหมายเลยหรืออย่างไร เรื่องนี้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและเครือข่ายของสมาคม จ.ระยอง จึงจำต้องนำความมาร้องให้ รมว.อุตสาหกรรมจัดการ เพราะในระดับพื้นที่น่าจะไม่มีศักยภาพหรือถูกม่านสีเทาบังหูบังตาหมดแล้วนั่นเอง นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ศรีสุวรรณ' รายงานตัว บก.ปปป. ประกาศพร้อมกลับมารับใช้ประชาชนเต็มที่
นายศรีสุวรรณ จรรยา เดินทางเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวน ตามหมายนัดทุกเดือน จนกว่าสำนวนจะส่งฟ้องศาล นายศรีสุวรรณ ยังยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมประกาศเดินหน้าทวงความยุติธรรมคืน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
'ศรีสุวรรณ' ยื่นเอกสารชี้แจงคดีรีดเงินอธิบดีกรมการข้าว เผยได้ทรัพย์สินมาจากน้ำใจชาวบ้าน
นายศรีสุวรรณา จรรยา ผู้ต้องหาคดีรีดทรัพย์ ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อยื่นเอกสารคำชี้แจงกรณีเรียกรับเงินจากนาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว
'ธนกฤต' ให้ข้อมูล ปปป. ขยายผลขบวนการตบทรัพย์ โครงการประมูลกำไลอีเอ็ม
ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เข้าให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เกี่ยวกับคดีแก๊งรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว หลังเคยถูกนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก
'วีระ' บุก ปปป. แจง 'บิ๊กเต่า' ไม่เกี่ยวแก๊งตบทรัพย์
นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปปป.
'บิ๊กเต่า' เผยก๊วนตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ขอเลื่อนส่งเอกสารชี้แจง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รอง ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่นายศรีสุวรรณ
'ผอ.กองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว' ยันไม่เกี่ยวข้องแก๊งตบทรัพย์อธิบดี
นายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว เดินทางเข้าพบ ตร.ปปป. พรัอมกับนำเอกสารหลักฐาน เช่น แชทข้อความ ในไลน์มามอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นพยานหลักฐาน ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ของอธิบดีกรมการข้าว