
27 พ.ย.2566-นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) ในฐานะกรรมาธิการการเกษตรฯสภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องร้องเรียนจากชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเดินทางเข้าหารือ เพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการนำเข้าเนื้อสุกรผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลต่อราคา สุกรของผู้เลี้ยงภายในประเทศ
นายชัชวาล กล่าวว่า มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น แต่ที่เป็นข้อสังเกตสำคัญในการหารือกับผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยพบว่า ต้นทุนของผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย ในประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันกับผู้เลี้ยงสุกร จากต่างประเทศได้ โดยเฉพาะราคาหัวอาหารที่แตกต่างกันมาก เช่นสุกรจากประเทศบราซิล ที่ส่งมายังประเทศไทย ผู้เลี้ยงจะมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ขณะที่ผู้เลี้ยงในประเทศไทย ต้องแบกรับต้นทุนเฉลี่ย 80-90 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยสะท้อนว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากราคาอาหารที่แตกต่างกันมาก เนื่องจากราคาอาหารถูกควบคุมโดย ทุนใหญ่เพียงไม่กี่ราย ทั้งการนำเข้าข้าวสาลี การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การผูกขาดดังกล่าวทำให้ ผู้ค้ารายย่อยหรือเกษตรกร ขาดอิสระในการนำเข้า ตัวอย่างเช่น ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตลาดในประเทศไทยสูงถึง 12 บาท ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว มีราคาเพียง 4 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ผู้เลี้ยงสุกรเห็นตรงกันว่าหากเปิดโอกาสให้รายย่อย มีโอกาสนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ได่อย่างถูกต้อง จะทำให้ต้นทุนในส่วนดังกล่าวลดลง และเพิ่มสามารถขีดความสามารถในการแข่งขันได้
จึงมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบใน 2 มาตรการ ดังนี้ 1.ขอให้รัฐมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องต้นทุนค่าอาหารสัตว์ โดยศึกษาและส่งเสริมการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ในประเทศ เช่นข้าวพันธุ์เบญจมุก ซึ่งอาจให้ผลผลิตต่อไร่สูงถึง 1,500 กิโลกรัม รวมถึง ภาครัฐต้องเสริมศักยภาพเกษตรกร โดยกำหนดนโยบายในภาครัฐให้ผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงสุกร เช่น การลดภาษีวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ หรือ พิจารณาเปิดโอกาสให้รายย่อย สามารถสั่งซื้อหรือนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศได้ ภายใต้การควบคุมของรัฐ เพื่อมาตรฐานของวัตุดิบที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนซึ่งมีภาครัฐเป็นผู้สนับสนุนได้ 2.ข้อเรียกร้องเร่งด่วน ขอให้รัฐปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่เกษตรกรที่ยังมีหมูอยู่ในมือ หรือปัญหาการส่งออกส่วนเกินของ 3 บริษัทใหญ่ เพื่อไม่ให้หมูล้นตลาดภายในประเทศ การทำหมูหันวันละ 5,000 ตัว เพื่อตัดวงจรหมูในระยะสั้นเป็นเวลา 3 เดือน โดยรัฐบาลชดเชยให้ตัวละ 400 บาท รวมถึง ขึ้นทะเบียนผู้ซื้อหมูหรือโบรกเกอร์ เพื่อให้หมูอยู่ในราคากลาง และจัดทำ Pig Data ซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลภาพรวมสำรวจประชากรหมูเพื่อควบคุมแม่พันธุ์
“ข้อเรียกร้องเร่งด่วนรวมถึงมาตรการในการช่วยเหลือโดยเฉพาะ ต้นทุนอาหารสัตว์ พรรคไทยสร้างไทย จะนำเสนอเข้าที่ประชุมกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงส่งต่อให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนต่อไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
5 พรรคร่วมฝ่ายค้านหารือชื่นมื่น!
'พรรคร่วมฝ่ายค้าน' ชื่นมื่น ประสานมือ 5 พรรค รับ 'ภท.' น้องใหม่ ด้าน 'ณัฐพงษ์' ถกแนวทางแสวงหาจุดร่วม เพื่อผลักดัน ย้ำไม่ก้าวก่ายจุดยืน-ข้อแตกต่าง ขณะ 'อนุทิน' ปลื้มถูกต้อนรับอบอุ่น ยันพร้อมตรวจสอบรัฐบาล
'โฆษก ทสท.' ย้ำชัดขอเป็นฝ่ายค้าน ยันข่าวลือ 'ร่วมรัฐบาล' ถูกปล่อยจากคนอยากเป็น รมต.
'โฆษก ทสท.' โต้แรง ข่าวลือ 'ร่วมรัฐบาล' ถูกปล่อยจากคนอยากเป็น รมต.-ลั่น หากอยากได้เก้าอี้ให้ลาออกจากพรรค เหตุไม่เป็นไปตามมติที่ยืนยันชัดเจน ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ไม่ขอใช้เทคนิคเจรจา เทคนิคหาเสียง ให้ได้มาซึ่งอำนาจ ที่ ปชช.ไม่ยอมรับ
'ไทยสร้างไทย' ร่อนแถลงการณ์ยืนหยัดเป็นฝ่ายค้าน ตะเพิด 'งูเห่า' ลาออก
เพจเฟซบุ๊ก พรรคไทยสร้างไทย ออกแถลงการณ์มีเนื้อหาดังนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนว่า จะมีสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยบางคนไปร่วมสนับสนุนการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ โดยบางคนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี นั้น
สส.ไทยสร้างไทย ปฏิเสธเป็น 'งูเห่า' ซัดบางคนดิ้นเฮือกสุดท้ายอยากนั่งเก้าอี้ มท.
นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวที่รัฐบาลอ้างถึง สส.จำนวน 6 คนจากพรรคไทยสร้างไทย เตรียมให้การสนับสนุนรัฐบาล ที่นำโดยพรรคเพื่อ
‘สุดารัตน์’ ดักคอรัฐบาล โยกงบแจกเงินหมื่น 1.57 แสนล้าน หรือเป็นการโกงแบบ FastTract
'สุดารัตน์' ชี้ โยกงบแจกเงินหมื่น 1.57 แสนล้าน เป็นการโกงแบบ FastTract เชื่อ ปั้นใหม่ใน 3 วัน สิ่งที่กลับมาได้ คือ ก่อสร้าง-ขุดลอกแหล่งน้ำ-อบรมสัมมนา ลั่น โปรดสำนึก ภาษี ปชช. ทุกรัฐบาลต้องใช้อย่างระมัดระวัง มากกว่าเงินในกระเป๋าของตัวเอง
'อนุดิษฐ์' ร่ายยาว เผยที่มาร่วมงานพรรคกล้าธรรม
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สวัสดีครับ พี่น้องทุกท่าน รวมถึงพี่น้องสื่อมวลชนที่รัก