
‘มาดามเดียร์’ ร่วมเสวนาบทบาทสตรีในกองทัพไทย ย้ำต้องก้าวข้ามอคติเรื่องเพศและวัย ชี้เพิ่มโอกาสดึงบุคลากรมีความรู้ความสามารถร่วมงาน สร้างความเข้มแข็งสู่อนาคต
2 ก.พ. 2567 – ที่หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ น.ส.วทันยา บุนนาค อดีต สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเวทีเสวนา “แนวทางการพัฒนาศักยภาพ และบทบาทสตรี เพื่อเสริมสร้างการเป็นผู้นำในอนาคต” จัดโดยหลักสูตรฝึกอบรมการปฏิบัติการร่วม รุ่นที่ 7 ประจำปีงบประมาณ 2567 สำนักการศึกษาทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
โดย น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่กองทัพไทยได้มีเวทีเสวนาพูดถึงเรื่องของบทบาทสตรี เพราะถือว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของการพูดถึงความเท่าเทียมทางเพศ และอีกมุมหนึ่งคือเรากำลังพูดถึงการก้าวข้ามในเรื่องอคติทางเพศ แต่มองคนในความสามารถและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งวันนี้เวลาพูดถึงบทบาทความเป็นผู้นำ เราจะเห็นว่าสตรีและผู้มีความหลากหลายทางเพศได้เริ่มเข้ามามีบทบาทเป็นผู้นำในหลายหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น นั่นหมายถึงว่าเรากำลังตอกย้ำว่าความสามารถของคนไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่เรื่องของเพศเพียงอย่างเดียว ดังนั้นตนอยากจะชวนทุกคนคิดไปมากกว่าการมารณรงค์เรื่องของสิทธิสตรีและบทบาทของสตรีในองค์กรต่างๆ แต่อยากให้คิดว่าวันนี้เราเตรียมพร้อมและมีใจที่เปิดกว้างเพื่อที่จะยอมรับความหลากหลายที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมอย่างแท้จริงมากน้อยแค่ไหน
“เดียร์ว่าหัวใจที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าเราจะพูดว่าเราเป็นเพศอะไร และไม่อยากจะให้การรณรงค์หรือการพูดถึงบทบาทสิทธิของเพศต่างๆ เป็นเพียงแค่การพูดตามกระแสโลกที่กำลังพูดถึงอยู่ในช่วงขณะนี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือให้เราตระหนักถึงคุณค่าศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยลดข้อจำกัดเรื่องเพศและวัยออกไป แต่ให้กลับไปมองในเรื่องของศักยภาพและความสามารถของคนๆ นั้น ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งมากกว่า” น.ส.วทันยา ระบุ

น.ส.วทันยา ยังกล่าวต่อถึงบทบาทของนายทหารหญิงในกองทัพไทยและทิศทางการพัฒนากองทัพในอนาคต ว่า แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่ากองทัพเป็นสถาบันที่มีบทบาทสูงในสังคมไทย การปรับตัวของกองทัพย่อมบ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของกองทัพที่จะออกไปสู่สังคมภายนอก ให้ตระหนักถึงความเท่าเทียมทางเพศเช่นเดียวกัน แนวคิดในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศกำลังมีพัฒนาการ มีพลวัตและกำลังเติบโตเปลี่ยนแปลงมาตลอด ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และหากกองทัพสามารถทำได้
“หวังว่าวันนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เวทีเสวนา แต่เราจะเห็นการปรับเปลี่ยนการขับเคลื่อนโดยการลดอคติทางเพศอย่างแท้จริง ตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากๆ และจะเป็นการเปิดโอกาสไม่เพียงแค่เฉพาะบุลคลภายนอก หรือสังคม แต่นั่นหมายถึงว่าเป็นการเปิดโอกาสให้กับกองทัพเช่นเดียวกันที่จะได้บุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาร่วมงานกับกองทัพเพิ่มมากขึ้น เพื่อพัฒนากองทัพไปสู่อนาคตด้วยความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน” น.ส.วทันยา ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
กองทัพแจงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแปลกปลอมในพื้นที่อธิปไตยไทย ไม่ใช่ศาสนสถาน
ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ตามที่มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายประติมากรรมทางศาสนา ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา จนก่อให้เกิดความห่วงกังวลและการตีความที่หลากหลายในสังคมนั้น
สันติภาพต้องหยุดยิงจริง! ทอ.โจมตีเชิงลึก 'คลังอาวุธ' พระตะบอง หลังกัมพูชากระหน่ำยิงพลเรือนไทย
ทอ. โจมตีเชิงลึก “คลังอาวุธ” ในพระตะบอง เพื่อปกป้องชีวิตคนไทย หลังกัมพูชากระหน่ำยิงเข้าพื้นที่พลเรือนในสระแก้ว ย้ำภารกิจในพื้นที่”สีส้ม-สีแดง “จวก “กัมพูชา” ยังไม่แสดงความจริงใจต่อคำว่าหยุดยิง ระบุสันติภาพมาพร้อมกับความจริงใจ
‘ทหารมีไว้ทำไม’ คำถามเก่าที่ตามหลอนพรรคส้ม!
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บทบาทกองทัพและประเด็นความมั่นคง กลับมาอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างชัดเจน
ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา
นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ
'บิ๊กเล็ก' แย้มถก 'สมช.' ปมพบโดรนพื้นที่ส่วนหลังตอนในที่สุวรรณภูมิ
รมว.กลาโหม เผยประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ถกประเด็นตรวจพบโดรนบินในพื้นที่ส่วนหลังตอนในที่สุวรรณภูมิ

