![](https://storage-wp.thaipost.net/2024/05/vo6mbo-3.jpg)
‘อนุทิน’ มอบผู้ว่าทุกจังหวัดกำชับผู้อำนวยการสาธารณภัยทุกระดับ จัดแผนป้องกัน แนวทางเข้าระงับอัคคีภัยที่มีประสิทธิภาพ หลัง บกปภ.ช. พบสถิติเกิดเพลิงไหม้พุ่ง โรงงานใช้สารเคมีอันตรายประสบเหตุมากขึ้น
20 พ.ค.2567-น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้ให้ความสนใจติดตามสถานการณ์การเกิดอัคคีภัย รวมถึงกรณีปัญหาสารเคมีรั่วไหลในโรงงาน ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากข้อมูลของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ระบุถึงข้อมูลการเกิดอัคคีภัย ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. – 2 พ.ค. 67 กับช่วงเดียวกันของปี 66 พบว่าปีนี้มีสถิติการเกิดเหตุสูงขึ้น ทั้งในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ขณะที่สถานประกอบการที่มีการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายในกระบวนการผลิต รวมถึงโกดัง ที่เป็นแหล่งเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายในหลายพื้นที่ก็เกิดเหตุอัคคีภัยอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากอัคคีภัย และอุบัติภัยที่จากอัคคีภัยที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ นายอนุทิน ได้มีข้อสั่งการในฐานะผู้บัญชาการ บกปภ.ช. ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้กำชับผู้อำนวยการในแต่ละระดับ และเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ให้สำรวจ ตรวจสอบ พื้นที่ชุมชน สถานประกอบการ อาคาร โกดัง หรือสถานที่ใด รวมถึงวัสดุสิ่งของภายในและโดยรอบที่มีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้โดยง่าย หากพบสภาพมีความไม่ปลอดภัย ให้แจ้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรือเจ้าของสถานที่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุง แก้ไขให้มีความปลอดภัยโดยเร็ว และขอให้ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงช่องทางการแจ้งเหตุ และขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ระเบียบ กฎหมาย มาตรการในการป้องกันและระงับอัคคีภัย ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัยเมื่อเกิดอัคคีภัย
ในข้อสั่งการของผู้บัญชาการ บกปภ.ช. ระบุว่า เมื่อเกิดอัคคีภัย ให้เร่งดำเนินการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุจังหวัด และให้เป็นไปตามระบบบัญชาการเหตุการณ์ รวมถึงแผนที่เกี่ยวข้องกรณีมีประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุการณ์ได้รับผลกระทบ จำเป็นต้องอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยให้ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในเรื่องเวชภัณฑ์ทางการแพทย์และโรงพยาบาลสำหรับรองรับผู้บาดเจ็บ รวมถึงการดูแลสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยโดยเร็ว
นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้เน้นย้ำว่า กรณีการเกิดอัคคีภัยขนาดใหญ่ ที่อาจต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์พิเศษ เช่น เพลิงไหม้ชุมชนเป็นบริเวณกว้าง เพลิงไหม้อาคารสูง เพลิงไหม้โรงงานอุตสาหกรรม หรือแหล่งเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายรวมถึงกรณีที่เหตุอัคคีภัย เป็นเหตุที่มีความเฉพาะด้าน จำเป็นต้องอาศัยหน่วยงานทางเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการ ให้ประสานการปฏิบัติกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางโดยเร่งด่วนเพื่อจะได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสนับสนุนจังหวัดในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหา อัคคีภัยที่เกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' พบนายกฯ เตรียมความพร้อมงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง
“อนุทิน” เผยนายกฯ เตรียมความพร้อมงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ยืนยัน ทุกหน่วยงานมีความพร้อมอำนวยความสะดวกปชช.เดินทางร่วมถวายความจงรักภักดี
“อนุทิน-ภท.” “พยัคฆ์ติดปีก”
กรณีสถานการณ์ “กัญชา” พลิกจากเดิมที่จะถูกดึงกลับไปเป็นยาเสพติด หักนโยบายพรรคภูมิใจไทยสร้างมา เป็นการออก พ.ร.บ. เพื่อใช้เฉพาะทางการแพทย์ วิจัย เศรษฐกิจเท่านั้น
สยบศึก‘กัญชา’ถอยออกพรบ.
ยุติความขัดแย้งพรรคร่วม “เศรษฐา” เรียก “อนุทิน-สมศักดิ์” เคลียร์ปมกัญชา ก่อนทุบโต๊ะออกเป็น พ.ร.บ.
'อนุทิน' กร้าว! ปมป้ายขายพาสปอร์ต ไม่รังเกียจต่างชาติ แต่ใครทำผิดต้องไล่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีการปิดประกาศป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ข
ปิดดีล! 'กัญชา' จบแล้ว 'อนุทิน' เผย 'เศรษฐา' บัญชาออกพ.ร.บ.ควบคุม
ที่ทำเนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมครม. ก
‘อนุทิน’ สั่ง กทม.เร่งสอบที่มาป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ตและสัญชาติ ย่านห้วยขวาง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้ทราบถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้เปิดเผยและวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงกรณีมีการติดตั้งป้ายโฆษณาภาษาจีน