รัฐบาลห่วง 5 โรคฮิต หลังเล่นน้ำสงกรานต์

18 เม.ย. 2568 – นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่ออกไปร่วมสนุกกับกิจกรรมสาดน้ำอย่างชุ่มฉ่ำทั่วประเทศ อาจเป็นสาเหตุทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายๆ โดยโรคที่มักเกิดขึ้น มี 5 โรค ที่ไม่ควรมองข้ามช่วงหลังสงกรานต์ ประกอบด้วย

1.โรคไวรัสตับอักเสบเอ มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัสผ่านทางน้ำลาย แม้จะติดเชื้อแบบเฉียบพลันเท่านั้น จะไม่เป็นโรคตับเรื้อรัง แต่ก็อยู่ในลิสต์ต้องระวัง โดยช่วงสงกรานต์หลายคนอาจมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ใช้แก้วน้ำ ใช้ภาชนะร่วมกัน ซึ่งเชื้อไวรัสนี้จะทำให้ตับเกิดการอักเสบ เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปจะมีระยะฟักตัวราว 14 – 28 วัน เมื่อแสดงอาการผู้ป่วยจะ มีไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ปวดท้อง ถ่ายเหลว ท้องเสีย โดยปัสสาวะจะสีเข้ม อุจจาระสีอ่อน ซึ่งถ้าเคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอแล้วมีโอกาสน้อยที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีกเพราะมีภูมิต้านทานแล้ว เป็นโรคที่ ควรระวังช่วงสงกรานต์

2.โรคตาแดง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสจากการสัมผัสน้ำตาผู้ที่เป็นโรคตาแดงอยู่ก่อน โดยมืออาจไปสัมผัสเชื้อแล้วนำมือมาสัมผัสตาตนเอง หรืออาจได้รับเชื้อที่กระจายอยู่ในอากาศ หรือจากน้ำที่กระเด็นเข้าตา โดยเชื้อใช้เวลาฟักตัว 1 – 2 วัน ก่อนแสดงอาการ ซึ่งมักตรวจพบเชื้อก่อโรคบริเวณตาและลำคอได้ตั้งแต่วันแสดงอาการถึง 14 วันหลังเริ่มมีอาการ โดยมีสัญญาณของอาการเริ่มจาก ระคายเคืองตา ปวดเล็กน้อยในเบ้าตา น้ำตาไหล เมื่ออาการรุนแรงขึ้นอาจทำให้เปลือกตาบวม ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตและกดเจ็บ จากนั้นเยื่อบุตาจะค่อยๆ แดงขึ้นจนแดงก่ำ โดยส่วนใหญ่จะหายเองใน 1 – 3 สัปดาห์ แต่บางราย อาจมีอาการเรื้อรังเป็นเดือน จนทำให้เกิดพังผืดที่เยื่อบุตาได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการควรพบจักษุแพทย์จะดีที่สุด

3.โรคเชื้อราผิวหนัง ถือเป็นโรคฮิตที่พบได้เสมอหลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ จากการเล่นสาดน้ำติดต่อกันนาน ๆ โดยบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยงจะเกิดโรคเชื้อราได้นั้น อาทิ บริเวณซอกต่างๆ บนร่างกาย เช่น ซอกนิ้วมือ นิ้วเท้า ขาหนีบ หรือข้อพับต่างๆ โดยเมื่อผิวหนังติดเชื้อรา จะมีลักษณะผิวเปื่อยลอก หรือผื่นแดงแฉะ หรือมีขุยขาวลอกออกมา แต่ถ้าเป็นชนิดผื่นหนา ผิวจะเปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุย มีกลิ่นเหม็น ซึ่งหากปล่อยให้ติดเชื้อเรื้อรัง ผื่นจะหนาขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ยากต่อการรักษาให้หายขาด ทั้งยังเป็นช่องทางให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังได้ง่ายขึ้น ส่วนการรักษาโรคเชื้อราผิวหนัง มีคำแนะนำคือ ต้องทายาฆ่าเชื้อราสม่ำเสมอ แม้อาการดีขึ้นก็ไม่ควรหยุดทาทันที แต่ควรทาต่อเนื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และควรหลีกเลี่ยงยาทาฆ่าเชื้อโรคอื่นที่มีฤทธิ์ระคายเคืองผิวหนัง หรือแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ยิ่งแห้งยิ่งคันมากขึ้น และควรรักษาความสะอาดโดยทำให้ผิวที่ติดเชื้อราแห้งอยู่เสมอ ก็จะป้องกันการเป็นซ้ำอีกได้

4.โรคท้องร่วง-ท้องเสีย เกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ่งช่วงสงกรานต์เป็นฤดูร้อน เป็นช่วงที่เชื้อโรคเพิ่มจำนวนได้ง่าย ทำให้เสี่ยงที่จะป่วยโรคท้องเสียได้ง่ายด้วย โดยการดูแลเบื้องต้นนั้น ในรายที่ท้องเสียเฉียบพลัน อาการไม่มาก มีคำแนะนำให้ถ่ายออกมาจนหมด หลีกเลี่ยงการรับประทานยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้ของเสียหรือเชื้อโรคยังสะสมอยู่ในลำไส้ และระหว่างมีอาการให้เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีนมเป็นส่วนประกอบ แต่ควรจะรับประทานอาหารอ่อน ๆ ที่ย่อยง่าย และถ้าหากถ่ายบ่อยจนร่างกายอ่อนเพลีย ก็ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย แต่ ถ้าผู้ที่ท้องเสียเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี และผู้สูงอายุ ไม่ควรรักษาเอง แต่ควรไปพบแพทย์จะดีที่สุด เพราะถ้าอาการรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

และ 5.โรคปอดอักเสบ หรือที่เรียกว่า “ปอดบวม” โรคนี้เกิดจากการอักเสบของเนื้อปอด โดยเฉพาะที่บริเวณถุงลมของปอด ซึ่งผู้ป่วยปอดอักเสบอาจมีอาการที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ อายุผู้ป่วย และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปมักมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนนำมาก่อน เช่น ไอ เจ็บคอ มีไข้ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย แต่บางรายก็อาจมีอาการไม่เฉพาะเจาะจง อาทิ มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย หรือบางรายอาจหนาวสั่น

“รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชนแนะประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคต่างๆ ที่ตามมาหลังสงกรานต์ ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้หลายระบบ และมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม หากมีอาการเจ็บป่วย ควรรีบพบแพทย์ทันที” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลา 'อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน'

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ ก่อนหารือทวิภาคีกับนายกฯเวียดนาม

'นายกฯอิ๊งค์' เปิดทำเนียบต้อนรับ 'ปธน.อินโดนีเซีย' เยือนไทยรอบ 20 ปี

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ ต้อนรับ 'ปธน.อินโดนีเซีย' เยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 20 ปี 19 พ.ค. นี้ เตรียมหารือทวิภาคี พร้อมแถลงข่าวร่วมกัน

พยากรณ์ 15 วันล่วงหน้า ช่วงต้นฤดูฝนตกหลายเวลา เตือน 23-27 พ.ค. มรสุมแรงขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น. วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 16 - 30 พ.ค. 68

อุตุฯ เตือนฝนตกหนัก 53 จังหวัด รับมือท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก