“บิ๊กบี้” เยือนกัมพูชา พบ “ฮุนเซน-เตียบันห์-ฮุนมาเน็ต” พร้อมลงนามทีโออาร์ตั้งคณะทำงานความร่วมมือทบ.สองชาติ เดินหน้าสานสัมพันธ์ ความร่วมมืองานความมั่นคง เยี่ยมชมหน่วยรบพิเศษ 911 อนุสาวรีย์เจรจาสันติภาพเขมรแดง
3 ก.พ.2565 - พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของ กองทัพบกกัมพูชา ระหว่าง 3-4 ก.พ. 2565 นับเป็นการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มอาเซียนครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง ในโอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารบกได้เข้าเยี่ยมคำนับผู้นำประเทศและผู้บริหารระดับสูงของกองทัพกัมพูชา สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา, สมเด็จพิชัยเสนาเตียบันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา, พลเอก วงษ์ ปิเซน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา และพบปะแลกเปลี่ยนประสานความร่วมมือกับ พลเอก ฮุน มาเน็ต ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา โดยเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และสานต่อความร่วมมือของกองทัพบกทั้งสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ตามแนวชายแดนและด้านสิ่งแวดล้อม การฝึกศึกษา การแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ในทุกระดับ
ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบกระบุว่า ประเทศไทยกับกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เป็นมิตรแท้ที่จริงใจต่อกัน ความสามัคคีและความร่วมมือถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะทำให้ทั้งสองประเทศ สามารถเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ได้อย่างมั่นคง รวมทั้งกองทัพบกจะผลักดันและส่งเสริมในความร่วมมือต่างๆตามกลไกที่มีอยู่ต่อไป โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ทั้งเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือการพัฒนาหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ ตลอดจนการช่วยเหลือผู้ป่วยเจ็บตามแนวชายแดน เป็นต้น
สำหรับการเดินทางเยือนครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เข้าเยี่ยมชมหน่วยรบพิเศษกองทัพบกกัมพูชา และ “อนุสาวรีย์ ชนะ ชนะ” ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของประเทศกัมพูชา รวมทั้งได้ลงนามร่วมกับผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชาใน TOR หรือข้อกำหนดว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานความร่วมมือระหว่างกองทัพบกไทยกับกองทัพบกกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกองทัพสองประเทศ รวมทั้งในประเด็นที่อยู่ในความสนใจร่วมกันด้วย ซึ่งการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านในครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกและคณะ ได้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. และสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างเคร่งครัด
ผู้สือข่าวรายงานว่า ทั้งนี้หน่วยรบพิเศษของกัมพูชา หรือ กองพลน้อยรบพิเศษ 911 เคยอยู่ในการดูแลของ ฮุนมาเน็ต และเคยร่วมปฏิบัติการกับกองทัพกัมพูชาระหว่างปะทะกับทหารไทยในข้อพิพาทเขาพระวิหาร ส่วน “อนุสาวรีย์ ชนะ ชนะ” หรือ อนุสาวรีย์วิมาน ชนะชนะ “Win-Win Memorial “จัดสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงวันครบรอบที่นายกรัฐมนตรี ฮุนเศน เจรจาสันติภาพกับผู้นำเขมรแดงทำให้เกิดการสิ้นสุดของสงครามกลางเมืองที่ยาวนานหลายสิบปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เงือกแป๋ม'ว่ายทุบสถิติ ฟรีฯ 400 ม.หญิง ประเดิมทองแรกให้ว่ายน้ำไทย
การแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ ในอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่ อควอติก เซ็นเตอร์ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.66 มีชิงชัย 26 เหรียญทอง โดย ฉลามหนุ่ม-เงือกสาวทีมชาติไทย ลงล่าเหรียญทองในหลายรายการ
3 เหล่าทัพ ยิงสลุต 21 นัด เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
เหล่าทัพ ประกอบด้วยกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศได้ทำการยิงสลุตหลวง จำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 2566 กองทัพบกได้ทำการยิงสลุตโดย
สดุดี 'พระราชินี' ทรงงานช่วยเหลือประชาชน เคียงข้าง 'ในหลวง'
บิ๊กบี้' งดสัมภาษณ์ ระบุ 'วันดี-วันมงคล' หลัง ทบ. จัดกิจกรรมวันเฉลิมสมเด็จพระราชินีฯ สดุดีพระราชกรณียกิจ ทรงงานช่วยเหลือประชาชนเคียงข้าง 'ในหลวง'
นักกีฬาไทยบุกพนมเปญ ลุย'อาเซียนพาราเกมส์'2023 'ณัยณพ'มั่นใจผลงานดี
ทัพนักกีฬาพาราไทย ชุดสู้ศึก "อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12" นำโดย นักวีลแชร์เรซซิ่ง พงศกร แปยอ, อธิวัฒน์ แพงเหนือ, ประวัติ วะโฮรัมย์ พร้อมนักกีฬารวม 304 คน ได้ออกเดินทางไปยังกรุงพนมเปญ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่จะเริ่มชิงชัยกันระหว่างวันที่ 3-9 มิ.ย.2566 โดยแบ่งออกเป็น 3 ชุด เริ่มจากชุดแรก ไฟลท์บิน LQ673 เวลา 08.30 น. จำนวน 153 คน ชุดที่ 2 ไฟลท์บิน LQ671 เวลา 13.15 น.จำนวน 159 คน และชุดที่ 3 ไฟลท์บิน LQ677 เวลา 17.45 น. จำนวน 163 คน เมื่อวันที่ 31 พ.ค.66 ด้าน “เจ้ากร”พงศกร แปยอ หวังป้องกันแชมป์ 4 เหรียญทอง ส่วน ประวัติ วะโฮรัมย์ ตำนานฮีโร่พาราลิมปิก พร้อมเป็นกำลังใจให้รุ่นน้องสำเร็จตามที่ฝันไว้
'เครือซีพี' หนุนกีฬาคนพิการไทย สู้ศึก'อาเซียนพาราเกมส์' 3-9 มิ.ย.นี้ที่กัมพูชา
เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) พร้อมสนับสนุน ทัพนักกีฬาคนพิการไทย เต็มที่ ทั้งด้านอาหารและการสื่อสาร เพื่อลุยศึกอาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 3- 9 มิถุนายน 2566 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ประกาศพร้อมยืนเคียงข้าง เติมความแข็งแกร่งด้านร่างกาย ด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่ดีให้ทัพนักกีฬาไทยได้ลิ้มลองหลากหลายเมนู และด้านจิตใจ ได้มอบ “ซิมทรู โรมมิ่ง” โทรฟรี ไม่อั้น เพื่อเชื่อมโยงแรงใจจากครอบครัว พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันMORDEE (หมอดี) ให้นักกีฬามีความพร้อมเต็มที่ สู้ได้สุดทุกสนาม สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้