นักวิชาการชี้ข้อพิพาท 'ไทย-กัมพูชา' มาแปลกเหมือนมีการเตรียมการมาก่อน

นักวิชาการระบุ ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาน่าจะยืดเยื้อและมีการเตรียมการมาก่อน เพราะทุกอย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะกับการเสนอเรื่องขึ้นศาลโลก และการปิดด่านก็กระทำการเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น

8 มิ.ย. 2568 รศ.ดร. สุกัญญา เอมอิ่มธรรม ในฐานะอดีตผู้อำนวยการสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ จ.ขอนแก่น ว่า  เหตุพิพาทที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา และขณะนี้มีการปิดด่านชายแดนบางจุดส่งผลกระทบให้กับ ผู้ประกอบการรายย่อยทั้งไทยและกัมพูชา รวมทั้งแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทยแบบไปเช้าเย็นกลับ เพราะไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว   ทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์เชื่อว่าหากมีการปิดด่านชายแดน จะเป็นการปิดในเชิงสัญลักษณ์  การปิดถาวรคาดว่าไม่เกิดขึ้น เพราะนอกจากแรงงานกัมพูชาจะเข้ามาทำงานในประเทศไทยแล้ว ทางฝั่งกัมพูชาก็มีนักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีทั้งกาสิโนด้วย   โรงแรม  บริษัท ห้างร้าน ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทย หากมีการปิดด่านจะทำให้กัมพูชาสูญเสียรายได้มหาศาล

“ชาวกัมพูชาเป็นคนฉลาดในการวางนโยบาย  ที่ผ่านมาเขารับการช่วยเหลือจากทุกประเทศ ในขณะที่คนไทยมองว่าเขาด้อยกว่า  มีชาวกัมพูชาเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในไทย เขาสามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนได้ ในขณะที่คนไทยรู้ภาษากัมพูชาน้อย       สถานการณ์ในครั้งนี้คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ  โดยเฉพาะฮุนเซน ที่ต้องการทำให้ประชาชนเห็นบทบาทในการเป็นผู้นำประเทศของรัฐบาลมากขึ้น  ”

รศ.ดร. สุกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่เคยทำงานช่วยเหลือชาวกัมพูชาเมื่อประมาณปี 2523-2524   ในฐานะเจ้าหน้าที่ของ UNHCR  หรือสำนักงานใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ   หลังจากที่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองของเขมร ทำให้ชาวเขมรนับแสนคนอุ้มลูกจูงหลานหนีตายเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร  โดยในช่วงนั้นประเทศไทยได้เปิดพื้นที่ให้ UNHCR  เข้ามาตั้งศูนย์ช่วยเหลือ   เหตุการณ์ในขณะนั้นทั้ง 2 ประเทศไม่มีการทะเลาะขัดแย้งกันเป็นการเปิดรับให้การช่วยเหลือชาวกัมพูชาที่อพยพเข้ามายังไทย  ซึ่งต่างจากบรรยากาศขณะนี้และจากการติดตามข้อทูล ทราบว่า ผู้นำรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ได้โทรศัพท์พูดคุยกัน คาดว่าสถานการณ์ไม่ถึงการปะทะรุนแรง  แต่การปิดด่านสำคัญมีความเป็นไปได้ แต่ปิดได้ไม่นาน เป็นการปิดเชิงสัญลักษณ์  เพราะการปิดด่านชาวกัมพูชาจะได้รับผลกระทบมากกว่า    แต่หากปิดด่านและเรียกแรงงานกัมพูชากลับภูมิลำเนา ไทยจะได้รับผลกระทบด้านแรงงานที่เข้ามาทำงานรับจ้างในไทย เช่น ร้านอาหาร ประมง ปั๊มน้ำมัน   แต่คาดว่าจะไม่มีการปะทะรุนแรง และไม่ส่งแรงงานกลับประเทศ   คิดว่ารัฐบาลทั้งสองประเทศมีการพูดคุยกันแล้ว 

“สถานการณ์ความขัดแย้งในครั้งนี้มีการวางแผนมาก่อน   อยู่ดีๆมีการพูดถึงแนวชายแดน  ปราสาทตาเหมือนธม  เหมือนเป็นการยั่วยุกัน สุดท้ายอยู่ดีๆก็กระโดดไปพูดถึงศาลโลก ซึ่งถือว่าเร็วมาก จนคนไทยตามไม่ทัน  ปัญหาที่มากกว่าการมีสงครามคือ ปัญหาความยืดเยื้อ ซึ่งต้องยอมรับว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีการเตรียมการมาแล้ว เพราะคราวนี้กัมพูชาพูดถึงการขึ้นศาลโลกเร็วมาก  เชื่อว่าเหตุการณ์ยังคงยืดเยื้อไปอีกนาน”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.กิตติธัช สอนพวกเท้าราน้ำ 'การทำลายให้สิ้นสภาพ' ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา

นักวิชการ อธิบายชัดการทำลายให้สิ้นสภาพ ไม่ใช่การบุกไปยึดครองกัมพูชา หรือทำลายกองทัพกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จ

ยกเลิก MOU 'เจ้ากรมแผนที่ทหาร-นักวิชาการ' สะท้อนต่างมุม

วงเสวนาไทย–กัมพูชาสะท้อนต่างมุม “เจ้ากรมแผนที่ทหาร” ชี้ปัญหาเขตแดนเป็นมรดกยุคอาณานิคม ย้ำ MOU คือกลไกแก้ปัญหาที่สั่งสมกว่า 20 ปี ขณะที่ “สว.ชิบ” เปิด 8 เหตุผล กมธ.วุฒิสภา หนุนยกเลิก MOU 2544 ป้องกันไทยเสียผลประโยชน์ทางทะเล

นักวิชาการ มธ. มองเลือกตั้งหน้า ‘พรรคประชาชน’ โดดเดี่ยว อำนาจต่อรองไหลกลับเพื่อไทย

นักวิชาการธรรมศาสตร์วิเคราะห์ผลจากการยุบสภา ชี้สมการการเมืองหลังเลือกตั้งมีแนวโน้มทำให้พรรคประชาชนโดดเดี่ยว สูญเสียอำนาจต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่บทบาทต่อรองมีโอกาสไหลกลับไปอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการแข่งขันของการเมือง 3 ขั้ว

ยังไม่ใช่เวลาเจรจาสันติภาพ นักวิชาการ มธ. ชี้ต้องปกป้องอธิปไตยก่อน แนะวิธีสื่อสารเชิงรุกสู้กัมพูชา

นักวิชาการธรรมศาสตร์ ระบุขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยเจรจาสันติภาพกับกัมพูชา แต่ปลายทางคือต้องเจรจาบนโต๊ะ ชี้ไทยต้องปกป้องอธิปไตยไปจนสถานการณ์กลับสู่ปกติก่อนแล้ว

นักวิชาการ มข.ระบุวิกฤติ น้ำท่วมหาดใหญ่ฉุดคะแนนนิยม ‘ภท.’ ดิ่ง

นักวิชาการ มข.ระบุวิกฤติ น้ำท่วมหาดใหญ่ส่งผลให้คะแนนนิยม "ภท" ดิ่งต่ำลงมาก เชื่อ ส.ส.หลายคนกำลังลังเลว่าไปอยู่พรรคไหน

นักวิชาการ มธ. หนุนเพิ่มสมทบประกันสังคม แนะรัฐลดภาษีช่วยผู้ประกอบการ

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นด้วยปรับเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม ระบุต้องแยกส่วนระหว่าง “ประสิทธิภาพในการบริหาร-การเพิ่มเงินสมทบ” เพราะสองเรื่องพัฒนาไปพร้อมกัน