เริ่มแล้ว! รับสมัครกรรมการการเลือกตั้ง แทนตำแหน่งว่าง ถึง 23 มิ.ย.

คณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง เปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับสรรหาเป็นกรรมการการเลือกตั้ง แทนตำแหน่งว่าง 9-23 มิ.ย.2568

9 มิถุนายน 2568 - สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประชาสัมพันธ์ประกาศคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การรับสมัครบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง (แทนตำแหน่งที่ว่าง)
เพื่อดำเนินการตามมาตรา 16 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ได้กำหนดให้ในกรณีที่กรรมการการเลือกตั้งจะพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้ดำเนินการสรรหาหรือคัดเลือกกรรมการการเลือกตั้งใหม่ภายใน 120 วัน ก่อนวันที่กรรมการการเลือกตั้งครบวาระ

คณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง ได้เปิดรับสมัครบุคคลเป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง โดยผู้ประสงค์จะสมัครต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา 8 (1) และมาตรา 9 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560ซึ่งบัญญัติไว้ดังนี้

มาตรา 8 คณะกรรมการการเลือกตั้งประกอบด้วยกรรมการจำนวน 7 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา จากบุคคลดังต่อไปนี้

(1) ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาการต่าง ๆ ที่จะยังประโยชน์แก่การบริหารและจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหาจำนวน 5 คน จากผู้ซึ่งมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(ก) รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

(ข) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

(ค) ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์

(ง) เป็นหรือเคยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองการประกอบวิชาชีพ โดยประกอบวิชาชีพอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปีนับถึงวันที่ได้รับการเสนอชื่อและได้รับการรับรองการประกอบวิชาชีพจากองค์กรวิชาชีพนั้น

(จ) เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ทางด้านการบริหาร การเงิน การคลัง การบัญชี หรือการบริหารกิจการวิสาหกิจในระดับไม่ต่ำกว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมหาชนจำกัดมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี

(ฉ) เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งตาม (ก) (ข) (ค) หรือ (จ) รวมกันไม่น้อยกว่า 10 ปี

(ช) เป็นผู้ทำงานหรือเคยทำงานในภาคประชาสังคมมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปี ตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนดมาตรา 9

นอกจากคุณสมบัติตามมาตรา 8 แล้ว กรรมการการเลือกตั้งต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ด้วย

(1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

(2) มีอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่ไม่เกิน 70 ปี

(3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเทียบเท่า

(4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

(5) มีสุขภาพที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาตรา 10 กรรมการการเลือกตั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(1) เป็นหรือเคยเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระใด

(2) ติดยาเสพติดให้โทษ

(3)  เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

(4) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ

(5) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช

(6) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่

(7)  วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

(8) อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

(9) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

(10) เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ

(11) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมาย
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

(12) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน

(13) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง

(14) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

(15) เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย

(16) เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

(17) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(18) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นในระยะ 10 ปีก่อนเข้ารับการคัดเลือกหรือสรรหา

(19) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมืองในระยะ 10 ปีก่อนเข้ารับการคัดเลือกหรือสรรหา

(20) เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ

(21) เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือกรรมการหรือที่ปรึกษาของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ

(22) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหาผลกำไร หรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด

(23) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ

(24) มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ระยะเวลารับสมัคร ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 ถึงวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2568ในเวลาราชการ (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)โดยให้ผู้สมัครมายื่นแบบใบสมัครด้วยตนเอง

สถานที่รับสมัคร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ห้องศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ ชั้น 1อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา)

เลขที่ 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์ 0 2831 9492, 0 2831 9336 – 7

ทั้งนี้ รายละเอียดตามหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา ฯ ของคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง รวมทั้งใบสมัครสามารถดาวน์โหลดเอกสารการสมัครเข้ารับการสรรหาได้ที่ https://qr.senate.go.th/sh/f/?k=40NPN หรือสแกน QR Code ด้านล่าง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.ณัฏฐ์ จี้ กกต.ต้องชัดคดี สว.สีน้ำเงิน อัด 'อนุทิน' เบี่ยงประเด็น

ดร.ณัฏฐ์ ชี้คดีสว.สีน้ำเงิน 117 รายใกล้ครบกำหนด 1 ปีพรุ่งนี้ ระบุ กกต.ควรสร้างความชัดเจนต่อสังคม ป้องกันข้อสงสัยและรักษาความน่าเชื่อถือของกระบวนการเลือกตั้ง พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณี “อนุทิน” ออกมาเคลื่อนไหวอาจเป็นก

'ดีเอสไอ' ยันสำนวนคดีฮั้วเลือก สว. จะส่งถึงประธาน กกต. ภายในปี 68

"ดีเอสไอ"ยัน สำนวนคดีฮั้ว สว. ในมือ “7 อรหันต์“ จะส่งถึงประธาน กกต.ภายในปี 68 หลังเตรียมสรุปสำนวนพร้อมความเห็นไต่สวนมากกว่า 200 ราย ให้ ”กกต.“ พิจารณากลางเดือน ก.ค.นี้ เผยพยานคดีอั้งยี่-ฟอกเงินกลุ่มแรก ทยอยเข้าให้ปากคำชี้แจงเส้นทางการเงิน

ร้อง กกต. ฟัน ปชป. ปม 'เดชอิศม์-ชัยชนะ' นั่ง รมต. ส่อขัดข้อบังคับพรรค

'ศรีสุวรรณ' บุก กกต. ร้องสอบ ปชป. ปมส่ง 'เดชอิศม์-ชัยชนะ' นั่งรัฐมนตรี ส่อขัดข้อบังคับพรรค อาจเข้าข่ายผิดจริยธรรม เสี่ยงโทษปรับ-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง-ยุบพรรค