ทอ. จัดซื้อระบบแอนตี้โดรน 997 ล้านบาท รับมือภัยคุกคามชายแดนไทย-กัมพูชา

ทอ. ซื้อระบบแอนตี้โดรน 2โครงการเผยใช้ “งบกลาง”ร่วม 1 พันล.จัดหาวิธีพิเศษ รับมือภัยคุกคามชายแดนไทย-กัมพูชาเร่งด่วน ยืนยันดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์ของชาติ
 
8 ตุลาคม 2568 - พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศขอชี้แจงให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ทราบถึงโครงการจัดซื้อระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti-Drone System) จำนวน 2 โครงการ รวม 13 ระบบ มูลค่า 997.93 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับของประเทศ ภายใต้หลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส
 
จากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ได้มีการตรวจพบการใช้งานอากาศยานไร้คนขับในการรุกล้ำอธิปไตยของไทย ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รัฐบาลจึงได้อนุมัติงบกลางเป็นกรณีพิเศษในสภาวะไม่ปกติ ให้กองทัพอากาศเสริมสร้างขีดความสามารถการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ
 
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยความเร่งด่วนของกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ กองทัพอากาศจึงขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และในห้วงเวลาเดียวกัน ได้เชิญชวนผู้ประกอบการที่มีความชำนาญให้นำเสนอระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ เพื่อประกอบการพิจารณาในการดำเนินการจัดหา โดยกองทัพอากาศได้แต่งตั้งคณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ (UAS) และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (CUAS) เพื่อทดสอบและประเมินประสิทธิภาพระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับตามสถานการณ์จำลองที่กองทัพอากาศกำหนด
 
เมื่อพิจารณาผลการทดสอบและประเมินประสิทธิภาพ ประกอบกับแนวคิดการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาระบบในระยะยาว จึงนำไปสู่การขอราคากลางและการออกหนังสือเชิญชวนบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด ในการเสนอระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ให้กองทัพอากาศพิจารณาในการยกระดับขีดความสามารถการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับของประเทศ
 
ทั้งนี้ ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้ง กองทัพอากาศและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการความร่วมมือในการดำเนินการตามมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อรองรับภัยคุกคามที่เกิดจากอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติอย่างต่อเนื่องโดยตลอด เช่น การควบคุมและจำกัดห้วงเวลาการบินของอากาศยานไร้คนขับ การบูรณาการการตรวจจับและเฝ้าระวังอากาศยานไร้คนขับร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ การสร้างการรับรู้ให้กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนถึงอันตรายของอากาศยานไร้คนขับ การแบ่งมอบพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันเป้าหมายที่มีคุณค่าสูง และการซักซ้อมการปฏิบัติในการป้องกันที่ตั้งและเป้าหมายที่มีคุณค่าสูงจากการโจมตีของอากาศยานไร้คนขับ เป็นต้น
 
กองทัพอากาศขอให้ความเชื่อมั่นว่า จะดำเนินการพัฒนาขีดความสามารถการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับภัยคุกคามจากอากาศยานไร้คนขับในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะใช้เงินงบประมาณที่ได้รับอย่างโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล และเกิดความคุ้มค่าสูงสุด
 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กสม. บี้กลาโหม เลิกทำบัญชีดำ-ไอโอคนเห็นต่าง ชี้ละเมิดสิทธิ

กสม. ตรวจสอบปมหน่วยมั่นคง จัดทำบัญชีกลุ่มเป้าหมายบุคคลและองค์กรเฝ้าระวัง พร้อมใช้ IO โจมตี ชี้ละเมิดสิทธิ มีมติให้กลาโหมยกเลิก

'อดีตบิ๊กทอ.' แนะศึกษาการสู้รบระหว่าง 'ปากีสถาน' กับ 'อัฟกานิสถาน' เปรียบเทียบไทย-กัมพูชา

พลอากาศโทวัชระ ฤทธาคนี หรือ เสธ.นิด อดีตนายทหารนักบินกองทัพอากาศ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ปัญหาการสู้รบที่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนเกิดขึ้นในหลายๆประเทศ

โฆษก ทอ. แจงอีกรอบ หลังเขมรสบช่องเอาความเห็น 'สว.อังคณา' ไปดิสเครดิตกองทัพไทย

โฆษก ทอ. โต้เฟกนิวส์ กัมพูชา หลังเอาความเห็น สว. อังคณา ไปขยายผลเข้าข้างตัวเอง ยัน ไทยใช้เครื่อง F-16 โจมตีเป้าหมายทางทหาร ไม่ใช่พลเรือน ย้ำ ใช้สิทธิ์ปกป้องตนเอง ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ