ศาลรธน.ร้อน! 4 ตุลาการชงวินิจฉัย 'วรวิทย์' พ้นตำแหน่งประธานหรือไม่

วรวิทย์ กังศศิเทียม

17 มี.ค.2565 - ศาลรัฐธรรมนูญออกจดหมายข่าวระบุว่า ในที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีตุลาการของศาลที่ขอหารือเกี่ยวกับวาระดำรงตำแหน่งของ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญคนปัจจุบันที่เพิ่งมีอายุครบ 70 ปีไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาและอยู่ในตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ 9 ก.ย.2557 รวมเป็นเวลา 7 ปี 6 เดือนแล้ว จะต้องพ้นจากตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่เนื่องจากเป็นผู้มีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2550

ทั้งนี้ในที่ประชุมมีความเห็นว่าให้ตุลาการผู้ที่เห็นว่านายวรวิทย์มีปัญหาเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งประธานศาลส่งคำร้องของตนไปยังเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ส่งคำร้องดังกล่าวต่อไปให้เลขาธิการวุฒิสภาเสนอเรื่องต่อประธานกรรมการสรรหาต่อไป เนื่องจากคณะกรรมการสรรหามีอำนาจหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัยและความเห็นของของคณะกรรมการสรรหาเป็นที่สุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 203

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีนี้สำนักข่าวอิศรา ระบุว่าเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2565 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อทราบถึงความเห็นเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของวรวิทย์ในตำแหน่งประธานศาลที่จะพ้นว่าการดำรงตำแหน่งเมื่อครบวาระ 9 ปีในวันที่ 9 ก.ย.2566 ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2550 โดยจะไม่พ้นจากตำแหน่งเมื่ออายุครบ 70 ปี

จากนั้น 2 ก.พ.2565 นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีหนังสือแจ้งเวียนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อทราบเรื่องความเห็นเกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของนายวรวิทย์ โดยหนังสือระบุว่าวรวิทย์มอบหมายให้สำนักงานศาลรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับบทเฉพาะกาลของพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2561 มาตรา 79

ทั้งนี้นายวรวิทย์ได้รับเลือกให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญ 2550 แต่ในระหว่างที่นายวรวิทย์ดำรงตำแหน่งมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ซึ่งทั้งสองฉบับมีการกำหนดคุณสมบัติและจำนวนปีของวาระในการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอาไว้ต่างกัน

โดยในรัฐธรรมนูฐญฉบับปี 2550 กำหนดให้ตุลาการศาลดำรงตำแหน่งได้นาน 9 ปี และให้พ้นตำแหน่งเมื่อมีอายุครบ 70 ปี แต่รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 กำหนดให้ตุลาการดำรงตำแหน่งได้นาน 7 ปี ซึ่งนายวรวิทย์จะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ตามที่ได้เขาได้รับการแต่งตั้งมา

อย่างไรก็ตาม หลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ได้มี พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ปี 2561 ตามออกมากำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล มาตรา 79 ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับการแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 และดำรงตำแหน่งมาก่อนที่พ.ร.ป.ฉบับนี้ประกาศใช้ อยู่ในตำแหน่งต่อไป

สำนักข่าวอิศรา ยังได้รายงานถึงผลการหารืออย่างไม่เป็นทางการของตุลาการทั้ง 9 คนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ด้วยว่า มีตุลาการ 4 คน เห็นว่า นายวรวิทย์ ต้องพ้นจากตำแหน่ง ประกอบด้วย นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ , นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ , นายจิรนิติ หะวานนท์และนายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ส่วนอีก 4 คน ที่ยังไม่แสดงความคิดเห็นที่ชัดเจนได้แก่ นายวิรุฬห์ แสงเทียน, นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, นายปัญญา อุดชาชน และนายนภดล เทพพิทักษ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญคาด 2 ปีได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ!

ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญยันหลักการปรับกลไกทำรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกสู่ รธน.ฉบับใหม่ คาด 2 ปีเศษจะได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ

ศาลรธน.ยังไม่นัดวินิจฉัยสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมแทรกแซงคดีฮั้วสว. รอความเห็นพยาน

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42

'เพื่อไทย' ง้างมือศาลรธน. เชือด 'รมต.รัฐบาลอนุทิน'  

'พท.' จ่อร้อง 'ศาล รธน.' เอาผิดจริยธรรม 'รมต.รัฐบาลอนุทิน' ก่อนยื่นซักฟอกต่อ 'สุทิน' ขอรอดูถกร่าง รธน.วาระ 2 ก่อนเคาะวัน เย้ย ควรยกธงขาวเตรียมเผ่นหลังขู่ยุบสภาหนี เตือนฝ่ายค้ำระวังล้มทับกันเอง

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์