'วิษณุ' ตีแผ่จุดอ่อนบันทึก กรธ.ครั้ง 500-501 หลุด ชี้ไม่ระบุวันเริ่มนับหนึ่งเก้าอี้นายกฯ

'วิษณุ'เผย 3 จุดอ่อนเอกสารหลุดบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 - 501 ไร้น้ำหนัก เพราะไม่ระบุวิธีนับอายุนายกฯ เริ่มปีไหน ขอสังคมอย่าสับสนตามให้รอฟังคำวินิจฉัยของศาล แต่ไม่แน่ใจนัดตัดสิน 8 ก.ย. หรือไม่

07 ก.ย.2565 - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่คำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่อ้างชื่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ประเด็นการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ซึ่งให้ความเห็นว่าการนับอายุนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ นับตั้งแต่ ปี 2560 และบอกว่าเอกสารบันทึกการประชุมของ กรธ.ครั้งที่ 500 ไม่มีการรับรองการประชุมจึงอาจทำให้เกิดการคลาดเคลื่อน เอกสารดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ว่า ยังไม่เจอ และไม่ได้คุยกับนายมีชัย มากว่า 10 วันแล้ว รวมถึงไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะคนที่พบ พล.อ.ประยุทธ์บ่อยคือ พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่เป็นทีมกฎหมาย ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวเห็นทางไลน์ใครส่งมาก็ไม่ทราบ

“จะเชื่อถือได้หรือไม่นั้นผมไม่ทราบ ไม่รู้จริงๆ เท่าที่ฟังดูก็ไม่ได้ออกมาจากนายมีชัย คลายๆกับว่าท่านส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้วไปออกมาจากศาลอย่างไรก็ไม่ทราบได้ยินมาอย่างนั้น แต่ก็ได้อ่านเอกสารดังกล่าวแล้ว และไม่รู้ว่าเอกสารเขาหลุดมาหรือไม่ได้หลุด ส่วนจะเป็นแรงกดดันหรือไม่นั้นไม่ทราบ เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่ความลับอะไร มายื่นต่อศาลแล้วก็อยู่ในมือคนมากกว่า 9 คน เจ้าหน้าที่อะไรอีกแต่ไม่ควรเปิดเผยออกมา”

เมื่อถามว่าล่าสุดมีเอกสารหลุดมาอีกฉบับคือเอกสารบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 501 ออกมาเป็นการรับรองผลการประชุมครั้งที่ 500 มาหักล้างคำชี้แจงของนายมีชัย ได้เห็นหรือยัง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว

ถามอีกว่าหากการประชุมครั้งที่ 501 มีสาระสำคัญศาลต้องนำไปพิจารณาด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องนำไปพิจารณาทั้งหมด ซึ่งเมื่อฝ่ายหนึ่งอ้างการประชุมครั้งที่ 500 มันก็ต้องมีเรื่องที่ต้องหักล้างในส่วนนั้น และแม้บันทึกการประชุมที่ 501 ก่อนหน้านี้ศาลไม่เคยเห็น แต่เมื่อมีประเด็นก็อาจจะหยิบขึ้นมาพิจารณาเองได้

เมื่อถามว่า วันที่ 8 ก.ย. ที่มีกระแสข่าวว่าศาลจะนัดวินิจฉัยเลยพอมีการเผยแพร่หลักฐานใหม่ออกมาเช่นนี้จะต้องเลื่อนการวินิจฉัยออกไปใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ รู้แต่ว่าวันดังกล่าวศาลมีการประชุม และหากจบศาลอาจกำหนดวันเพื่ออ่านคำวินิจฉัย หรือกำหนดวันเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้

ถามอีกว่าเอกสารบันทึกการประชุมที่ 501 จะหักล้างคำชี้แจงที่อ้างว่าเป็นของนายมีชัยได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีคำตอบแต่ไม่ขอตอบ

เมื่อถามย้ำว่าบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 กับ คำชี้แจงของนายมีชัย อะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน นายวิษณุ กล่าวว่า ทั้ง 500 และ 501 ไม่มีน้ำหนัก เคยบอกไปแล้วว่าบันทึกที่ว่านั้นเป็นรายงานการประชุมที่เกิดขึ้นหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ไปแล้ว 1 ปี เพื่อมานั่งทำหนังสือความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญ 2560 เมื่อปี 2561 นี้ถือเป็นจุดอ่อนข้อที่หนึ่ง ส่วนจุดอ่อนข้อที่สองก็เป็นคนสามคนพูดกันคือ นายมีชัย นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธาน กรธ. นายศุภชัย ยาวะประภาษ กรธ. ส่วน กรธ.ที่เหลือไม่ได้พูดอะไรและไม่ได้ลงมติ ซึ่งนายมีชัยออกมาชี้แจงจริงหรือไม่ ไม่ทราบ อีกทั้งที่บอกว่าจดก็จดไม่ถูกนี้คือจุดอ่อนอีกจุด ที่สำคัญที่สุดการประชุมครั้งนี้เพื่อทำหนังสือ และในหนังสือที่พูดถึงมาตรา 158 ก็ไม่ได้พูดถึงการเริ่มนับการดำรงตำแหน่งนายกฯ ว่าเริ่มตอนไหน ฉะนั้นต้องยึดหนังสือเล่มดังกล่าวเป็นหลักในการตีความ

“คุณนั่งประชุมกันเพื่อทำหนังสือ ฉะนั้นคุณจะพูดอย่างไรก็ช่างคุณ แต่หนังสือที่ออกมามันว่าอย่างไร เพราะหนังสือเล่มนั้นเจตนาจะเอาไว้ใช้เป็นคู่มือตีความรัฐธรรมนูญ และถ้าคุณตั้งใจอย่างนั้นในเวลาพูดทำไมไม่เขียนใส่ไปไว้ในหนังสือ ซึ่งปรากฏว่าไม่มี แต่หนังสือนั้นบอกว่าการกำหนดวาระ 8 ปี เพื่อไม่ใช่ผูกขาดอำนาจถือเป็นหลักที่ถูกต้องที่ดีที่จริง แต่จะนับอย่างไรเหมือนการประชุมครั้งที่ 500 มันไม่มี และเรื่องนี้ไม่ได้มาคิดทำในตอนนี้เพื่อบิดเบือนมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว”นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าน้ำหนักสำคัญสุดอยู่ที่หนังสือ ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญ 2560 นายวิษณุ กล่าวว่า ถูกต้อง น้ำหนักอยู่ที่หนังสือจะไปอยู่ที่คนพูดระหว่างทำหนังสือได้อย่างไร แต่หากน้ำหนักจะอยู่ที่ผู้พูดก็ต่อเมื่อพูดขณะยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะนั้นคือเจตนาของการร่าง

ถามว่าแสดงว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องให้น้ำหนักที่รัฐธรรมนูญและหนังสือความมุ่งหมายฯใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าในความคิดตนเองเป็นเช่นนั้น

เมื่อถามย้ำว่ามากกว่าคำชี้แจงของนายมีชัยด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ถูกต้อง และจะมีอะไรอื่นๆ ดีๆ อีกหน่อยเดี๋ยวสื่อก็จะรู้ เพราะเวลาฝ่ายกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงไปคงไม่ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องการประชุมครั้งที่ 500 หรือ 501 มันมีอย่างอื่น วันนี้เราไปชุลมุนในเรื่องการประชุมครั้งที่ 500 กับ 501 สุดท้ายแล้วอยู่ที่ศาลจะหยิบเรื่องไหนมาพิจารณา แต่การที่มีเอกสารต่างๆ ออกมาตอนนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดาคนเรามีรักมีชังมีชอบ ฝ่ายไหนได้ประโยชน์ฝ่ายไหนเสียประโยชน์ก็ปล่อยออกมา ดีคนที่ไม่รู้จะได้รู้ แต่สุดท้ายแล้วรอฟังคำวินิจฉัยของศาลดีที่สุด

เมื่อถามว่า จากการได้อ่านคำชี้แจงของทีมกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ พอสรุปได้หรือไม่ว่าเขาให้นับวันเริ่มเป็นนายกฯตั้งแต่เมื่อไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้บอกไปแล้วว่าไม่ใช่วันที่ 24 ส.ค. 2557 ส่วนจะเป็นวันไหนแล้วแต่ศาล ไม่สามารถบอกเหตุผลได้ว่าจะให้เริ่มนับวันไหน แต่ไม่ใช่นับจากปี 2557 แน่ ก็ไม่รู้จะไปนับปี 2560 หรือ 2562 ทำไม และจะยืดทำไมถึงขั้นนั้น เพราะเมื่อถึงวันที่ 23 มี.ค. 2566 ก็ไปกันหมดแล้ว หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะไปต่อก็ต้องเข้าสู่ระบบให้พรรคการเมืองเสนอชื่อตามกระบวนการ ส่วนเรื่องท่านจะวางมือหรือไม่นั้น ไม่ทราบไม่เคยพูดกัน จะจบหรือไม่ไม่รู้แต่ตนเองจบ

เมื่อถามว่าแต่หากยืดไปปี 2560 หรือ 2562 พล.อ.ประยุทธ์ สามารถกลับมาเป็นนายกฯ สมัยหน้าได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า นั้นเป็นเรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ในหลักการศาลไม่ได้มาสนใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลงพรรคไหนจะเสนอชื่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นอีกหรือไม่ แต่ข้อสำคัญของศาลจะบอกว่าอยู่ไปได้ถึงตอนไหนเท่านั้นเอง เอาเถอะเดี๋ยวอ่านคำวินิจฉัยของศาลก็จะรู้เอง ศาลท่านหยิบทุกอย่างมาตี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลรธน. ไม่รับคำร้องขอวินิจฉัยอำนาจสภาฯแก้รัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของประธานรัฐสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256

'นครินทร์' ย้ำศาลรธน.ไม่มีธงตัดสิน ผลออกได้แค่ขัดหรือไม่ขัดรธน. ไม่มีตรงกลาง

นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการจัดงานครบรอบ 26 ปีศาลรัฐธรรมนูญว่า วันนี้เป็นการประชุมทางวิชาการที่ได้มีการเตรียมการมาสักระยะหนึ่งแล้ว

ศาลรธน. นัดถก 17 เม.ย. ก้าวไกลขอขยายเวลายื่นคำชี้แจง ตัดสินยุบพรรคไม่ทัน เม.ย.นี้

นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล และการขอขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหานายนครินทร์ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ที่ประชุมของศาลซึ่งก็จะดูความพอเหมาะ