29 ต.ค.2565 - เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ ๑๔/๒๕๖๕ เรื่อง ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๑๕๘ วรรคสี่ หรือไม่
ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ร้อง)ส่งคําร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ข้อเท็จจริงตามคําร้องและเอกสารประกอบคําร้อง สรุปได้ดังนี้
นายชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะ รวม ๑๗๒ คน เข้าชื่อเสนอคําร้องต่อผู้ร้องว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของพลเอก ประยุทธ์จันทร์โอชา (ผู้ถูกร้อง)สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๗๐ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๑๕๘ วรรคสี่ เนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๔สิงหาคม ๒๕๕๗ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งผู้ถูกร้องเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๑๙ ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และเมื่อวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๐ มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยบทเฉพาะกาล มาตรา ๒๖๔วรรคหนึ่งบัญญัติให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ซึ่งผู้ถูกร้องดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ต่อมามีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ในวันที่ ๒๔มีนาคม ๒๕๖๒ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดระหม่อมแต่งตั้งผู้ถูกร้องเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๕๘ ประกาศ ณ วันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ผู้ถูกร้องดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันจนถึงวันที่ ๒๔สิงหาคม ๒๕๖๕ รวมระยะเวลาดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีเกินกําหนดเวลาแปดปีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๕๘ วรรคสี่ตั้งแต่วันที่๒๕สิงหาคม ๒๕๖๕ เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๑๗๐ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๑๕๘ วรรคสี่ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคําวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่๓ –๕/๒๕๕๐ และคําวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๒๔/๒๕๖๔กรณีการใช้กฎหมายย้อนหลังเพื่อเพิกถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคการเมืองและการสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเคยวินิจฉัยว่า การที่ผู้ถูกร้องได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่๙มิถุนายน ๒๕๖๒มิใช่การเข้ารับตําแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่
ผู้ร้องตรวจสอบลายมือชื่อของผู้เข้าชื่อเสนอคําร้องแล้วเห็นว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันเข้าชื่อเสนอคําร้องจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๘๒ วรรคหนึ่งจึงส่งคําร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ ดังนี้ อ่านทั้งหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'ศาสตราจารย์' จำนวน 11 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งศาสตราจารย์
ฟันธง! คดี 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ ผลเฉพาะตัวไม่กระทบเลือกตั้งใหม่
'นายกสมาคมทนายความ' ฟันธงคดีหุ้นสื่อ 'พิธา' มีผลเฉพาะตัว กรณีวินิจฉัยเป็นลบไม่กระทบต้องเลือกตั้งใหม่
'แรมโบ้' ฟาดเดือด! 'โรม' น้ำลายหกระวังตกเก้าอี้
'แรมโบ้' ซัดกลับ 'รังสิมันต์' ไล่ไปจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อน ค่อยบอก 'บิ๊กตู่' เก็บของ อยากเป็น รบ.จนตัวสั่น ระวังฝันค้างกลางวัน บอกการเมืองใหม่ ที่แท้น้ำเน่าชัดๆ
นายกฯ ติดตามความคืบหน้าการเจรจา 'CEPA' เชื่อมั่น สรุปผลได้ภายใน 6 เดือน ช่วยเพิ่ม GDP ไทย
นายกฯ ติดตามความคืบหน้าการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ CEPA เชื่อมั่น สรุปผลได้ภายใน 6 เดือน ช่วยเพิ่ม GDP ไทย
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศมหาดไทย เสียสัญชาติไทย 75 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การเสียสัญชาติไทย
'ทิพานัน' ชู 'ลุงตู่' ผู้นำความเจริญ 'มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี' สร้างแล้วกว่า 90%
'ทิพานัน' ชู 'พล.อ.ประยุทธ์' ผู้นำสร้างความเจริญให้กับประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม อัปเดตมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ใกล้แล้วเสร็จกว่า 90% แล้ว