ทุ่ม 7.7 พันล้านผุดโครงการที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของรัฐ

ครม.เห็นชอบโครงการที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของรัฐ วงเงิน 7,718.94 ล้านบาท ช่วยผู้มีรายได้น้อยที่ถูกไล่รื้อกว่า 2.7 หมื่นครัวเรือน

15 มี.ค.2566 - น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มี.ค.นั้น ครม.ได้เห็นชอบหลักการโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง วงเงิน 7,718.94 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566 -2570 ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ เพื่อรองรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ

โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง 2.เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อย และ 3.เพื่อพัฒนาการจัดการพื้นที่ร่วมกันระหว่างชุมชน ท้องถิ่น และหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม กลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ ชุมชนผู้มีรายได้น้อย ฐานะยากจน ไม่มีเงินออม และถูกไล่รื้อหรือต้องรื้อย้ายเพื่อเตรียมพื้นที่ในการก่อสร้างระบบราง ในพื้นที่ 35 จังหวัด 300 ชุมชน จำนวน 27,084 ครัวเรือน

สำหรับรูปแบบการพัฒนามีแนวทาง ดังนี้ 1.สร้างความมั่นคงในที่ดิน โดยทำสัญญาเช่าระยะยาวในที่ดินเดิมหรือที่ดินใหม่กับเจ้าของที่ดิน เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมธนารักษ์ ภาคเอกชน หรือการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างชุมชนใหม่นอกพื้นที่ชุมชนเดิม 2.พัฒนาความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย โดยกำหนดรูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย เช่น อาคารชุด บ้านเดี่ยว ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและบริบทของชุมชน และ 3.พัฒนาความมั่นคงของชุมชนด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีแผนงานในการพัฒนาทั้งด้านสังคม อาชีพ การอยู่ร่วมกัน การจัดการด้านการเงิน และการจัดระบบสวัสดิการดูแลสมาชิกและผู้ด้อยโอกาสในชุมชน

สำหรับงบประมาณโครงการ 7,718.94 ล้านบาท จะใช้เป็นค่าใช้จ่าย ดังนี้ 1.งบสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค อุดหนุนที่อยู่อาศัยเฉลี่ยครัวเรือนละ 80,000 บาท เพื่อใช้ดำเนินการด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการที่จำเป็นของชุมชน 2.งบสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบเฉลี่ยครัวเรือนละ 80,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการที่อยู่อาศัยชั่วคราวหรือเช่าบ้านหอพักระหว่างการรอปลูกสร้างบ้านถาวร การรื้อถอน ขนย้ายสิ่งของอุปกรณ์ระหว่างรอที่อยู่อาศัยมายังที่อยู่อาศัยชั่วคราว ค่าขนส่งวัสดุ และการย้ายเข้าในที่อยู่อาศัยที่พัฒนาใหม่ และ 3.งบสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสาหรับสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ซื้อที่ดินใหม่พร้อมสร้างที่อยู่อาศัยใหม่เฉลี่ยไม่เกินครัวเรือนละ 250,000 บาท ส่วนแหล่งที่มาของบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จะใช้จ่ายจากเงินทุนหมุนเวียนของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ปีงบประมาณ 2567 -2570 จะเสนอขอรับการอุดหนุนจากงบประมาณประจำปี 50% และเงินทุนหมุนเวียนของ พอช. 50%

น.ส.รัชดากล่าวด้วยว่า โครงการนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้ชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรัฐ มีความมั่นคงในชีวิตและที่อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาชุมชนแออัดและสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ของเมืองและชุมชนได้ อีกทั้ง ยังเป็นการลดผลกระทบและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานด้านที่อยู่อาศัย และเปลี่ยนสถานะจากผู้บุกรุกที่ดินของรัฐเป็นสถานะผู้อยู่อาศัยในชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วราวุธ' ชี้ปมน้องไนซ์เชื่อมจิต ส่งทีมประเมินสภาพจิตใจ ยึดพรบ.คุ้มครองเด็ก

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีความคืบหน้า กระทรวง พม. กับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ. ) ดำเนินการตรวจสอบเรื่องน้องไนซ์เชื่อมจิ

14 พ.ค.ได้ลุ้น คกก.ค่าจ้างฯ ถกค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

'คารม' ย้ำขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พิจารณาอย่างเหมาะสมและรอบคอบ เผย 14 พ.ค.นี้ คกก.ค่าจ้างฯ เตรียมประชุมพิจารณาค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ

รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!

รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน

ไฟเขียวเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ไม่ถือเป็นวันลา!

รัฐบาลร่วมแสดงความจงรักภักดี และถวายพระราชกุศล เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจ ลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ โดยไม่ถือเป็นวันลา

รัฐบาลห่วงยอดโควิดพุ่ง แต่ขอให้มั่นใจโรงพยาบาลพร้อมรับมือ!

'เกณิกา' เผยรัฐบาลห่วงใยยอดโควิดยังพุ่งหลังสงกรานต์ ขอให้ประชาชนมั่นใจโรงพยาบาลทุกแห่งมีความพร้อมรับมือผู้ป่วยโควิด แนะใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด รีบตรวจ ATK หากมีอาการคล้ายหวัด