15 เม.ย.2566 - เวลา 10.39 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์ ณ หอพระสุราลัยพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ หอพระธาตุมณเฑียร และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงหอพระสุราลัยพิมาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย สรงพระพุทธรูปสำคัญต่าง ๆ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ และทรงสรงพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระสยามเทวาธิราช ทรงกราบ
แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังหอพระธาตุมณเฑียร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศถวายราชสักการะ ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ทรงสรงน้ำพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ทั่วทุกพระโกศ ทรงกราบที่พระแท่นหน้าเครื่องราชสักการะ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 9 ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบ พระสงฆ์ถวายศีลและถวายพรพระ จบแล้ว
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่พนมข้าวบิณฑ์หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารแด่ประธานสงฆ์ ปิ่นโตภัตตาหารนอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทรงประเคน และประเคนพระสงฆ์รูปต่อไปตามลำดับ
เสร็จแล้ว เจ้าพนักงานเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ และพระโกศพระอัฐิ ออกประดิษฐานบนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และบนพระที่นั่งกง พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ
แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าคู่ถวายพระสงฆ์ จำนวน 3 เที่ยว เที่ยวละ 18 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 1 – รัชกาลที่ 9
ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบพระบรมอัฐิ และพระอัฐิที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยุดความแร้นแค้น'บ้านกูแบสีรา' ด้วยโครงการพระราชดำริในหลวง
จากน้ำท่วมขังในฤดูฝนไร่นาเสียหายเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ตามฤดูกาล สัตว์เลี้ยงตายยกคอก ราษฎรไร้ที่อยู่อาศัย ถนนหนทางภายในหมู่บ้านถูกตัดขาด ยามแล้งก็ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ วันนี้บ้านกูแบสีรา หมู่บ้านเล็กๆใน ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี กลายเป็นพื้นดินสม
ในหลวง พระราชินี ทรงเปิดศาลหลักเมือง-ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศาลหลักเมืองประจำจังหวัดนราธิวาส บริเวณลานวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังเก่า) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลโคกเคียน และทรงเปิดศาลากลางจังหวัดนราธิวาส (หลังใหม่) ถนนศูนย์ราชการ ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
ในหลวง พระราชทานรางวัลการทดสอบอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ที่มัสยิดกลางปัตตานี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปพระราชทานรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ครั้งที่ 16 ประจำปี 2566 ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี และเสด็จฯ ไปพระราชทานโล่เกียรติคุณและเงินรางวัลแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด
ครม. ประกาศให้วันคล้ายวันสวรรคตในหลวง ร.9 วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นชื่อ 'วันนวมินทรมหาราช'
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุม ครม.รับทราบและนำประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องพระราชทานชื่อวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
ในหลวง พระราชทานพระพุทธรูปแก่ชาวพุทธในประเทศอินเดีย จำนวน 72 องค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระพุทธรูป ถวายหัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล เพื่อมอบให้แก่ชาวพุทธอินเดีย เมืองกัลกัตต้า สาธารณรัฐอินเดีย จำนวน 72 องค์
‘ในหลวง-พระราชินี’ ทรงวางพวงมาลา เนื่องในวันมหิดล
เวลา 17.16 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง