26 พ.ค.2566 - อาจารย์เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ หมอพื้นบ้าน ผู้ที่ต่อสู้เรียกร้องให้เอากัญชาออกจากยาเสพติด และทำน้ำมันกัญชาเพื่อการแพทย์ โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ว่า วันนี้นักข่าวเดินทางมาสัมภาษณ์ผมในฐานะหมอพื้นบ้านที่ใช้กัญชา เขาถามว่าถ้ารัฐบาลชุดใหม่เอากัญชาเข้าบัญชียาเสพติดอีก จะทำอย่างไร
ผมเล่าให้เขาฟังว่าเมื่อปี 2562 กัญชายังอยู่ในบัญชียาเสพติด ผมเดินรณรงค์ 20 วัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติด มีผู้มาร่วมเดินด้วยมากมาย
จำได้ว่าคุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็มาร่วมเดินรณรงค์กับผม และได้ปราศรัยกับผู้ร่วมเดินว่าเป็นหนี้บุญคุณกัญชาที่ทำให้หายจากโรคลมชัก จึงเห็นด้วยในการเดินรณรงค์ครั้งนี้
แต่ถ้าปีนี้คุณ พิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเอากัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติดอีก ผมก็จะเดินรณรงค์ เพื่อเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติดอีกครั้ง
และผมเชื่อว่า ครั้งนี้คุณ พิธา คงไม่มาร่วมเดินกับผมอีกอย่างแน่นอน แต่ประชาชนคนไทยที่จะมาเดินกับผม คงมีมากกว่าปี 2562 หลายเท่า ผมเชื่ออย่างนั้น
ก่อนหน้านี้ อาจารย์เดชา โพสต์เฟซบุ๊กว่า MOU ที่ 8 พรรคร่วมกันลงนามไปแล้วนั้น รู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งอยู่สองข้อ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง
ข้อ 10 มาจากนโยบาย"สุราก้าวหน้า" คือให้การผลิตสุราเลิกผูกขาด ผู้ผลิตมีมากขึ้น ผลที่ตามมาคือ การบริโภคสุราในประเทศไทยย่อมเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ข้อ 16 นำกัญชากลับไปอยู๋ในบัญชียาเสพติดเหมือนช่วงปี 2522 ถึง 2565 ผลที่ตามมาคือ ประชาชนไทยที่ต้องการใช้กัญชาเพื่อป้องกัน รักษาโรคจะเข้าถึงยากยิ่ง
มีคำถามง่ายๆให้คนอ่านลองตอบสักสองข้อ
ข้อแรก ระหว่าง สุรากับกัญชา สิ่งใดทำให้เกิดโทษต่อผู้บริโภคมากกว่า
ข้อสอง ระหว่าง สุรากับกัญชา สิ่งใดมีประโยชน์(เช่นรักษาโรค)ต่อผู้บริโภคมากกว่า
ถ้าตอบไม่ได้ก็ไปหาในข้อมูลออนไลน์ได้ง่ายๆเพราะมีการวิจัยทั่วโลกมานานแล้ว เมื่อคำตอบคือ สุรามีโทษมากกว่าและประโยชน์น้อยกว่าอย่างชัดเจน มีเหตุผลอะไรที่ MOU ฉบับนี้จึงมุ่งส่งเสริมสุรา และกีดกันกัญชา เพื่อประโยชน์ของใคร
สุดท้ายนี้ขออธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในประเทศไทยและสากลโลก ขอให้ท่านโปรดดลบันดาลให้ MOU ฉบับนี้จงประสพความล้มเหลว ไม่ว่าจะเกิดจากกลุ่มพรรคการเมืองทั้ง 8 นี้ ไม่ได้เป็นรัฐบาลตั้งแต่แรกหรือมีบางพรรคได้เป็นรัฐบาล แต่ไม่มีนโยบายทั้งสองข้อนี้ในการบริหารประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ค้าน ‘VAT’15% ‘พิธา’ สอน ‘อิ๊งค์’ ต้องปฏิรูปภาษี
"พิธา" แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ ดีกว่าเจาะจงที่แวต ถามตัวเลข 15% มาจากไหนไม่เข้าใจ ด้านประธานหอการค้าขอนแก่นระบุการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรขึ้นไม่เกิน 10%
'พิธา' แนะรัฐบาลปฏิรูปภาษีทั้งระบบ มากกว่าปรับขึ้น VAT 15% สงสัยอยู่ดีๆก็โพล่งมา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวรัฐบาลมีแนวคิดขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ว่า ภาษีในประเทศ มีทั้งภาษีทางตรง
'พิธา' ลุยช่วยหาเสียงเลือกนายก อบจ.อุบลฯ หวังเป็นตาอยู่ ศึก 2 ขั้วใหญ่ชนกันเอง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยนายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี
'เอ็ดดี้ อัษฎางค์' มีคำตอบให้! 'พิธา' ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูเพื่อไทย
เอ็ดดี้-อัษฎางค์ ยมนาค อินฟลูเอ็นเซอร์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่เข้าใจทำไมกลายเป็นศัตรูกับเพื่อไทย อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบให้
'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้
ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก
'พิธา' เย้ยกลับทักษิณอย่าลืมผลเลือกตั้ง 66 ลั่นอุดรฯคือเมืองหลวงประชาธิปไตย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจากพรรคประชาชน