รัฐบาลปัดลักไก่ แจง ‘เบี้ยผู้สูงอายุ’ คนเดิมยังได้อยู่ ขอคนรวยเข้าใจปรับเกณฑ์ใช้งบกับคนที่ลำบาก สร้างความยั่งยืนทางการคลังระยะยาว ตั้งงบปี 67 แตะเก้าหมื่นล้าน
14 ส.ค. 2566 – นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ส.ค 2566 ซึ่งมีสาระหลักเพิ่มเติม คือ เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฏหมายว่าด้วยผู้สูงอายุ ดังนั้น จะต้องมีการออกระเบียบกำหนดรายละเอียดจากนี้อีกโดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพอยู่ก่อนวันที่ระเบียบใช้บังคับ จะยังมีสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไป
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวว่าการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว เป็นเพราะรัฐบาลไม่มีความสามารถในการหาเงินว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจดีขึ้น รัฐบาลจัดเก็บรายได้เพิ่มมากขึ้น มีการจดทะเบียนการค้าบริษัทต่างชาติ การขอการสนับสนุนการลงทุนต่างชาติเพิ่มต่อเนื่อง มีตัวชี้วัดความสามารถจัดหารายได้ ดูจากตัวเลขการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-เม.ย.66) เก็บรายได้สูงกว่าปีก่อน 6.5% สูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 107,101 ล้านบาท หรือ 11.10% ขณะที่ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.4% และสูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 8.9% นี่คือความสามารถของรัฐบาลในการหารายได้
ส่วนประเด็นดราม่าว่าเป็นการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของพลเมืองไทยหรือไม่นั้น นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม มุ่งแก้ปัญหาประชาชนอย่างมุ่งเป้า ใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้ข้อจำกัดของงบประมาณ วันนี้เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะเพิ่มต่อเนื่อง งบประมาณจากเคยตั้งไว้ห้าหมื่นล้านต่อปี เพิ่มเป็นแปดหมื่นล้าน และแตะเก้าหมื่นล้านแล้ว ในปีงบประมาณ 2567 ดังนั้น หากลดการจ่ายเบี้ยฯแก่ผู้สูงอายุเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้สูงหรือผู้สูงอายุที่ร่ำรวย เพราะงบประมาณที่จ่ายให้ไปอาจจะไม่มีความจำเป็น ถือเป็นการใช้นโยบายการคลังที่พุ่งเป้าเพื่อช่วยเหลือไปยังกลุ่มคนที่มีความจำเป็นและเดือดร้อนกว่า อีกทั้งคือการสร้างความยั่งยืนทางการคลังระยะยาว ขอฝ่ายการเมืองอย่ามองเป็นการลักไก่เลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จตุพร’ ชี้คณะก่อการบางฝ่ายเริ่มอึดอัด คนบางคนลำพอง เสี่ยงถูกยึดอำนาจ
‘จตุพร’ ส่งสัญญาณอารมณ์อำนาจ ระบุ ปท.อยู่ท่ามกลางสถานการณ์เปราะบาง ตึงเครียด คณะก่อการบางฝ่ายเริ่มอึดอัด จ่อขยับยึดอำนาจ เหตุรำคาญดีลกลับบ้านที่คนบางคนลำพองผยองอำนาจ อ้างไฟเขียวป่วนทำลายระบบเศรษฐกิจ สังคมและกระบวนการยุติธรรม
แฉเบื้องลึก! ทำไม 'อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย' รุมถล่ม 'แบงก์ชาติ'
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมอุ๊งอิ๊งและเพื่อไทยรุมถล่มธนาคารชาติ
'รัชดา' แนะเพื่อไทยอ่านบทความ IMF จะได้ไม่เขลาเรื่องอิสระของแบงค์ชาติ
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองโฆษกรัฐบาล โพสต์เฟซบุ๊คชวนพรรคเพื่อไทยอ่านบทความจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เด็กภูมิใจไทยจี้ 'กรมปกครองท้องถิ่น' เคลียร์เรื่องการเก็บค่าสมัครสอบ ขรก. 5 แสน
'อาสพลธ์' จี้ กรมปกครองท้องถิ่นฯ แจงด่วน หลังเพจแฉเก็บค่าสมัครสอบครึ่งล้าน ยอมรับเป็นขบวนการใหญ่ทำทั่วประเทศต้องจัดการ ขอ ปชช. อย่าตกเป็นเหยื่อ
เตือนภัยแรงงาน! อย่างหลงเชื่อ รร.สอนภาษาส่งคนไทยไปทำงานแดนกิมจิ
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อโรงเรียนสอนภาษา อ้างส่งคนไทยทำงานเกษตรตามฤดูกาลเกาหลีใต้ด้วยวีซ่า E-8 ย้ำกรมการจัดหางานเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งเท่านั้น ชี้ที่ผ่านมาแรงงานถูกหลอกเสียหายมูลค่ากว่า 26 ล้านบาท
'อนุทิน' ปราศรัยวันแรงงานแห่งชาติในนามรัฐบาล!
อนุทินปราศรัยเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2567 ส่งความปรารถนาดีมายังผู้ใช้แรงงานและครอบครัว ขอบคุณผู้ใช้แรงงานที่เป็นกำลังหลักสร้างความเจริญก้าวหน้าต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศ