12 ก.ย.2566- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ออนไลน์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “แหกตา”ว่า หลายนโยบายรัฐบาลตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน แถลงต่อรัฐสภานั้น มีความแตกต่างจากที่เคยสัญญาไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จึงสะท้อนถึงนโยบายแหกตาประชาชน เพราะไม่ตรงปกตามที่ประกาศไว้
นายจตุพร กล่าวว่า ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวบรวมนโยบายที่พรรคเพื่อไทยรับปากประชาชนไว้ช่วงหาเสียง แต่เมื่อแถลงนโยบายรัฐบาลกลับไม่ทำตามสัญญา โดยหลายนโยบายสำคัญเขียนไม่ชัดเจน ขาดเป้าหมายการก่อประโยชน์ให้ประชนอย่างเป็นรูปธรรม
อีกทั้งระบุถึง ศิริกัญญา สรุปนโยบายรัฐบาลไม่ตรงปกตามที่ประกาศหาเสียงไว้ เช่น ช่วงหาเสียงจะพักหนี้เกษตรกร 3 ปีมีรายได้เพิ่ม 3 เท่า แต่เมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลกลับเขียนเป็นพักหนี้เกษตรกรตามความเหมาะสมและมีรายได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ เท่ากับขาดความชัดเจน ประชาชนย่อมหวังได้ยากยิ่ง
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีกรณีการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บ.ต่อวัน และปริญญาตรีได้เงินเดือน 25,000 บาท ส่วนนโยบายรัฐบาลระบุไว้อย่างเป็นนามธรรมว่า ค่าแรงขึ้นและปริญญาตรีได้เงินเดือนอย่างเป็นธรรมเท่านั้น
รวมทั้งเพื่อไทยหาเสียงไว้จะลดความเหลื่อมล้ำ โดยทุกครัวเรือนมีรายได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนบาท แต่ในนโยบายรัฐบาลเขียนไว้แค่ทุกครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้รับปากประชาชนจะลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้มทันที แต่บรรจุว้ในนโยบายรัฐบาลว่า บริหารจัดการในระดับที่เหมาะสม ส่วนนโยบายหาเสียงลดค่ารถไฟฟ้า 20 บ.ตลอดสายกลับไม่บรรจุในนโยบายรัฐบาลเลย เป็นต้น
“สิ่งนี้เป็นปฏิบัติการแหกตาประชาชน โดยแหกตั้งแต่หาเสียงว่า ถ้าเข้ามาเป็นรัฐบาลไม่จับมือกับพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ จะปิดสวิตซ์ สว. กับ 3 ป. พร้อมขยายคำพูดว่า จะไปจับมือคนที่เอาปืนมายึดอำนาจตัวเองได้อย่างไร พร้อมเน้นสัญญามีลุง ไม่มีผม แล้ว สว.ที่ตัวเองจะปิดสวิตซ์ได้มาโหวตให้เท่ากับเป็นการส่งมอบมรดกนายกฯ ให้นายเศรษฐา”
นายจตุพร กล่าวว่า เพื่อไทยทำผิดตั้งแต่การหาเสียงเข้ามาเป็นรัฐบาล เมื่อนโยบายรัฐบาลเป็นการใช้คำที่แตกต่างกับสัญญาที่หาเสียงกับประชาชนไว้ อีกอย่างการอธิบายก็เป็นคนละความหมาย แล้วอย่างนี้จะไว้เนื้อเชื่อใจได้อย่างไรกัน ซึ่งประชาชนคงได้เห็นในอนาคต
พร้อมกล่าวว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตตามที่ประกาศหาเสียงต้องการให้ทำที โดยตนหวาดหวั่นจะไม่ทำตามประกาศไว้ เพราะแค่ภาษาเขียนยังทุจริตในนโยบายของรัฐแล้ว อีกอย่างตัวหนังสือที่ใช้จึงฟ้องถึงการหาเสียงเป็นการหลอกลวงกันทั้งสิ้น
“ตอนหาเสียงนั้น ประกาศว่า มีอยู่พรรคเดียวที่คิดใหญ่ ทำเป็น แล้วกลับมาทำเล็ก ย่อนโยบายรัฐบาลหมดจึงไม่เหลือตามที่รับปากไว้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้น โครงการอะไรก็ตามถ้าประชาชนได้ประโยชน์จะไม่มีปัญหาเลย แต่เกรงจะเกิดการทุจริตเหมือนการรับจำนำข้าวที่เกิดประโยชน์ทับซ้อน ชาวบ้านได้เพียงเศษเงิน ส่วนตัวการเอาไปอย่างมโหฬารเลย”
นายจตุพร กล่าวว่า ใครคิดทุจริตฉ้อฉล อย่ามาเอากับโครงการคนจนที่ยากลำบาก เพราะโครงการที่รัฐบาลทำให้ประชาชนจะเป็นความหวังเดียวของประชาชน ถ้าคนจนล้มย่อมฟื้นได้ยาก ดังนั้น เมื่อห้ามการทุจริตไม่ได้ ก็ขออย่าไปคิดโกงของคนจนเลย อย่าซ้ำเติมความทุกข์ของคนจนอีกเลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ศิริกัญญา' มอง 'ขุนคลังคนใหม่' ทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องแบ่งเวลามาเป็นเซลส์แมนประเทศ
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในส่วนของกระทรวงการคลัง ว่า ปรากฎว่ามีรัฐมนตรีในกระทรวงการคลังถึง 4 คน ซึ่งน่าจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อันที่จริงกรมในกระทรวงก็มีไม่ได้มากคงแบ่งกันดูแลคนละกรมครึ่ง
'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน
'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.
พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'
'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.
'อนุทิน' ชื่นชมสปิริต 'ปานปรีย์' พร้อมให้กำลังใจ
'อนุทิน' เชื่อดรามาปรับ ครม. ไม่กระทบภาพลักษณ์รัฐบาล โทรให้กำลังใจ 'ปานปรีย์' พร้อมชื่นชมสปิริต ลาออก ดีกว่ากล้ำกลืนทำงาน
‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว
‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน
‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต
‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้