'เทพไท' ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษ ตามรอย 'ทักษิณ'

22 ก.ย. 2566 – นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ น้องชายนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี คดีทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2565 โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “เทพไท ใช้สิทธิทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษ เหมือนทักษิณ”

โดยระบุว่า “ผมได้ไปเยี่ยมคุณเทพไท ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันก่อน คุณเทพไทได้แจ้งให้ผมทราบว่า เขาได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล เช่นเดียวกับคุณทักษิณแล้ว โดยอธิบายเหตุผลให้ฟังว่า

เดิมทีตั้งแต่เข้าสู่เรือนจำวันแรก มีหลายคนแนะนำให้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล ซึ่งตอนนั้นคิดว่า เรามีโทษจำคุกเพียง2 ปี ก็ควรยอมรับชะตากรรม ไม่อยากทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ ให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จึงไม่ได้ดำเนินการใดๆ นับตั้งแต่วันเริ่มเข้าสู่ประตูเรือนจำ

แต่เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม คุณทักษิณได้เดินทางกลับประเทศไทย โดยมีข้ออ้างว่า ต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อต้องการรับโทษจำคุก 10 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ไม่ได้จำคุกจริง หลังจากอยู่ในเรือนจำได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 โดยอ้างเหตุผลของการเจ็บป่วย และหลังจากนั้น ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ขออภัยโทษในวันที่ 31 สิงหาคม โดยเหตุผล 4 ข้อ คือ

1.ได้ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ

2.มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

3.เคารพและยอมรับกระบวนการยุติธรรม

4.เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว

ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากเหตุผล ในการทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษ ของคุณทักษิณแล้ว คุณเทพไทกล่าวกับผมว่า เขามีคุณสมบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษได้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณทักษิณเลย กล่าวคือ

1.ได้เป็นสมาชิกสภาแทนราษฎรมา 4 สมัย ทำงานรับใช้ประชาชน และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากมาย มาร่วม 20 ปี

2.มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ประจักษ์ เคยเป็นพิธีกรรายการสายล่อฟ้า ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จากการจาบจ้วงของระบอบทักษิณ (ตามเหตุผลการยึดอำนาจ ของคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) และไม่เคยต้องคดีตามมาตรา 112 แต่อย่างใด

3.ยอมรับกระบวนการยุติธรรมด้วยความเต็มใจ เมื่อถูกศาลฎีกาตัดสินให้รับโทษจำคุก 2 ปี ก็ไม่ได้หลบหนีคดีแต่อย่างใด

4.ตอนนี้อายุ 62 ปี เป็นผู้สูงวัยเช่นเดียวกันและมีโรคประจำตัวหลายโรค ระหว่างถูกจำคุกในเรือนจำ ต้องเบิกตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

5.ได้รับโทษจำคุกมาเป็นเวลา 14 เดือน กำลังจะเข้าข่ายเงื่อนไขการจำคุก 2 ใน 3 ของโทษตามคำพิพากษา แต่ไม่เคยได้รับการลดโทษเลย

6.ได้ต้องโทษจำคุก จากการกระทำผิด พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ข้อหาจัดเลี้ยงและร่วมงานเลี้ยงกินข้าวกับกลุ่มกำนันผู้ใหญ่ ไม่ใช่การแจกเงินซื้อเสียง) แต่กรณีของคุณทักษิณ ต้องโทษคดีทุจริตต่อประเทศชาติ

ดังนั้นคุณเทพไท จึงได้สิทธิ์ตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ เหมือนกับนักโทษทั่วไป ที่ไม่ใช่นักโทษเทวดาทุกประการ

สำหรับเรื่องนี้ ถ้าหากมีความคืบหน้าประการใด ผมจะนำมารายงานให้ได้รับทราบในโอกาสต่อไป”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘รองโฆษกปชป.’ จี้รบ.เร่งช่วย 4 ลูกเรือ แนะเจรจาพื้นที่ทับซ้อนเพื่อชาวประมงสองฝั่ง

รัฐบาลไทยควรจะ 1.เร่งรัดนำชาวประมงไทยและเรือประมงไทยกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว และ 2. รัฐบาลไทยควรที่จะเจรจาร่วมกันในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่พิพาทอยู่

กระตุกจิตสำนึก 'นายกฯอิ๊งค์' อย่าทำตัวเป็นคุณหนู จนไม่สัมผัสความเดือดร้อน ปชช.

ขอให้นางสาวแพรทองธาร เอาเยี่ยงอย่างนายเศรษฐา อย่าทำตัวเป็นคุณหนูจนไม่ยอมสัมผัสความเดือดร้อนของประชาชน ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นข้าราชการทางการเมือง ไม่ใช่ข้าราชการประจำ ที่ต้องหยุดทำงานในวันเสาร์อาทิตย์

ประสบการณ์ตรง 'เทพไท' จี้ราชทัณฑ์แก้ปัญหานักโทษให้ตรงจุด

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก 'เทพไท – คุยการเมือง' ระบุว่า กรมราชทัณฑ์ : แก้ปัญหาให้ถูกจุด เกาให้ถูกที่คัน

'ราชทัณฑ์' แจงปล่อยตัว 'เสี่ยเปี๋ยง' เข้าเงื่อนไขพิเศษป่วยหนักต้องเปลี่ยนไต

นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ยุติธรรม พร้อม ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงประเด็นการปล่อยตัว พักการลงโทษของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์

'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ฟาด 'กรมคุก' ใหญ่กว่าศาล ตัดสินจำคุก 48 ปี แต่ปล่อยตัวหลังติด 7 ปี

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ติดตะรางเรื่องเล็ก