'ก้าวไกล' ยื่นแล้วร่างพรบ.นิรโทษกรรมทุกฝ่าย นับตั้งแต่พันธมิตรฯชุมนุมวันแรก

5 ต.ค.2566 - ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสส. ของพรรคก้าวไกล แถลงยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดอันเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฏร เป็นผู้รับ

โดยนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ก่อนอื่นตนต้องขอแสดงความยินดีกับนายชัยธวัช ที่ได้รับการเลือกตั้งจากพรรคก้าวไกลให้เป็นผู้นำพรรค และจะได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำหน้าที่ร่วมกันเพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน สำหรับร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่ได้รับมานี้ ตนจะนำไปตรวจความเรียบร้อย ทั้งรายชื่อสส. และระเบียบที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีการรายงานความคืบหน้าพร้อมส่งกลับภายใน 7 วัน

ด้านนายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิด อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยมีสาเหตุที่สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้ออย่างต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่การชุมนุมครั้งแรกของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 49 ซึ่งภายหลังก็ได้ลุกลามบานปลายจนในที่สุดก็เกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต่อมาก็ยังมีการรัฐประหารซ้ำอีกครั้ง เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งตลอดระยะเวลาตั้งแต่การชุมนุมครั้งแรกของกลุ่มพันธมิตรฯ มาจนถึงปัจจุบัน มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการชุมนุม หรือการแสดงออกทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ และมีพี่น้องประชาชนจำนวนกว่าหลายพันคนถูกดำเนินคดี ตั้งแต่คดีเล็กๆ น้อยๆ จนไปถึงคดีข้อกล่าวหาร้ายแรงอย่างคดีความมั่นคง ซึ่งการดำเนินคดีต่างๆ เหล่านี้ ก็ยังดำเนินการมาถึงปัจจุบัน และยังไม่มีท่าทีที่จะยุติการดำเนินคดีแต่อย่างใด

จากสถานการณ์ดังกล่าว พรรคก้าวไกลเห็นว่า การจะทำให้สังคมไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติสุข เกิดความสุข ความสามัคคีกันในสังคมได้ พี่น้องประชาชนที่ได้ถูกดำเนินคดี หรือมีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ต่างก็มีความเห็นว่า รัฐของเราไม่มีความเคารพความเห็นต่างทางการเมือง ไม่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่า เพื่อให้สังคมไทยได้กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ เราจำเป็นต้องยุติการใช้นิติสงครามต่อพี่น้องประชาชน ให้พี่น้องประชาชนที่เคยแสดงออกทางการเมือง โดยมีเหตุจุงใจจากความขัดแย้งทางการเมือง ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ได้หลุดพ้นจากการถูกดำเนินคดี

“การจะถอนฟืนออกจากกองไฟ ต้องหยุด และยุตินิติสงคราม เพื่อเป็นก้าวแรกในการเริ่มต้นการสร้างความยุติธรรม และความปรองดองที่ยั่งยืนในสังคมไทยต่อไป” นายชัยธวัช กล่าว

สำหรับเนื้อหาสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่พรรคก้าวไกลเสนอ มีดังนี้ 1.กำหนดให้บรรดาการกระทำใดๆ ของบุคคลผู้เข้าร่วมเดินขบวน และชุมนุมประท้วงทางการเมือง ตลอดจนการกระทำทางกายภาพ หรือการแสดงความคิดเห็นใดๆ ที่เป็นความผิดตามกฏหมายในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. 49 หรือวันแรกของการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ จนถึงวันที่พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับนี้ได้มีผลบังคับใช้ หากการกระทำดังกล่าวมีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองนั้น ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิด และความรับผิดโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดกับพันธะกรณีตามกฏหมายระหว่างประเทศ


2.การนิรโทษกรรมจะไม่ครอบคลุมถึงการกระทำของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม ซึ่งมีการกระทำเกินสมควรแก่เหตุ ตลอดจนไม่นิรโทษกรรมการกระทำความผิดต่อชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา และไม่นิรโทษกรรมการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113

3.กลไกในการนิรโทษกรรม กำหนดให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำความผิดเพื่อการนิรโทษกรรม โดยในร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ชุดนี้ของพรรคก้าวไกลได้เสนอให้มีจำนวน 9 คน โดยให้อำนาจประธานรัฐสภาเป็นผู้แต่งตั้ง ประกอบด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้าน บุคคลที่ได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) บุคคลที่สส. เลือกอีก 2 คน แบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล 1 คน และฝ่ายค้าน 1 คน นอกจากนี้ เพื่อให้มีความรอบคอบมากขึ้นจะมีองค์ประกอบที่มาจากผู้พิพากษา หรืออดีตผู้พิพากษาในศาลยุติธรรม จำนวน 1 คน ซึ่งมาจากการเสนอในที่ประชุมใหญ่ของประธานศาลฎีกา และมาจากตุลาการ หรืออดีตตุลาการในศาลปกครองอีก 1 คน มาจากพนักงานอัยการหรืออดีตพนักงานอัยการอีก 1 คน ซึ่งต้องมาจากการนำเสนอของศาลปกครองและอัยการเอง และส่วนสุดท้ายคือเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

4.กำหนดสิทธิผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือเสียหายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อันเนื่องมาจากระเบียบ ประกาศ คำสั่ง คำวินิจฉัย มติ หรือการกระทำของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำผิด เพื่อการนิรโทษกรรมตามพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับนี้ ให้มีสิทธิ์สามารถฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้เอง

นายชัยธวัช กล่าวย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือการคืนชีวิตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนที่โดนนิติสงคราม เข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง หรือแสดงออกในทางการเมืองใดๆ แล้วถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งพี่น้องประชาชนจำนวนมากรู้สึกว่า สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของตัวเองในการเสริมสร้างบ้านเมืองโดยสันติ ได้รับการกระทบกระเทือน หรือการละเมิด เราเชื่อว่าการนิรโทษกรรมนี้ เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้ หากพรรคการเมืองต่างๆ มีเจตจำนงร่วมกัน ที่จะผลักดัน และหากเราพิจารณาให้ดีเราจะพบว่า พรรคการเมืองต่างๆ ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ หรือไม่ได้ปฏิเสธการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแต่อย่างใด

หลังจากนี้พรรคก้าวไกลจะใช้โอกาสนี้ในการพูดคุยกับทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกสี ที่เคยมีความขัดแย้งกันในอดีตให้สำเร็จ เราเชื่อว่าแม้ประชาชนคนไทยอาจจะไม่ได้มีความคิดเห็นทางการเมืองตรงกันทั้งหมด แต่ตนก็เชื่อว่าประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ต่างได้มาแสดงออกทางการเมือง และขัดแย้งกัน โดยยืนอยู่บนพื้นฐานที่ตัวเองอยากจะผลักดันให้สังคมเป็นสังคมที่ดีตามความคิดความเชื่อของตัวเอง ดังนั้น เราเชื่อว่า การยุติการต่อสู้ การยุติการดำเนินคดี การยุตินิติสงครามกับประชาชนไม่ว่าฝ่ายไหน จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนทุกฝ่ายได้ใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยโดยสันติ หันหน้าเข้ามาหากัน เพื่อแสวงหาฉันทามติครั้งใหม่ของสังคมอีกครั้งในอนาคต

เมื่อถามว่า การละเว้นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 113 หมายรวมถึงการรัฐประหารด้วยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ใช่ จะไม่เข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรม ส่วนคดีอื่นๆ นอกจากที่ได้ยกเว้นเอาไว้ ก็ต้องอยู่ในการวินิจฉัยของคณะกรรมการที่จะเสนอให้ตั้งขึ้น เนื่องจากการแสดงออกทางการเมืองในการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา มีคดีที่ถูกทำให้เหมือนคดีอาญาปกติจำนวนมาก และถูกนำไปดำเนินคดีกับประชาชนด้วย ดังนั้น ก็จะอาจจะมีปัญหา ถ้าเราไประบุฐานความผิดเฉพาะรายมาตรา เพราะบางมาตราอย่างคดีความสะอาด หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) หาดจะนิรโทษกรรมทั้งหมด ก็จะมีปัญหา เพราะจะมีทั้งกรณีที่เกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้อง กับความขัดแย้งทางการเมืองด้วย ดังนั้น เราคิดว่าการใช้รูปแบบของคณะกรรมการนิรโทษกรรมน่าจะดีที่สุด ซึ่งเป็นรูปแบบที่สังคมไทยเคยใช้มาแล้วในปี 2488

เมื่อถามว่า รวมถึงการนิรโทษกรรมมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ ต้องอยู่ในการวินิจฉัยของคณะกรรมการ


ถามอีกว่า จากกรณีที่เคยมีข้อขัดแย้งในมาตรา 112 กังวลหรือไม่หากนำเรื่องนี้ไปพูดกับพรรคการเมืองอื่นอีก จะไม่สำเร็จเหมือนการพูดคุยเมื่อครั้งการจัดตั้งรัฐบาลครั้งก่อน นายขัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เงื่อนไขของการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา จริงๆต้องบอกว่าจากประสบการณ์ของตน เราได้เคยแลกเปลี่ยนหารือกับคนในพรรคการเมืองหลายพรรค แม้กระทั่งสมาชิกวุฒิสภาหลายคนก็เห็นด้วย เพียงแต่เราอาจจะมีความเห็นแตกต่างกันในรายละเอียด ในส่วนของกระบวนการว่าควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสส. และสว. เท่านั้น แต่เสียงส่วนใหญ่น่าจะเห็นประโยชน์ร่วมกันจากการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ตนคิดว่าประชาชนหลายกลุ่ม ทั้งประชาชนทั่วไป และประชาชนที่เคยสังกัดกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่เคยมีส่วนร่วมในการแสดงออก และขัดแย้งกันเองนั้น ก็น่าจะยินดีที่จะเริ่มต้นกันใหม่ ตนคิดว่ามีแนวโน้มไปในทางบวก ทั้งนี้ คาดหวังว่าเมื่อเราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับพรรคการเมืองต่างๆ แล้ว ซึ่งเรายินดีหากถ้าพรรคการเมืองต่างๆ เหล่านั้น อาจจะเสนอร่างของตัวเองมาประกบร่างของพรรคก้าวไกล และเราจะได้มีความเห็นร่วมกันในการหยิบยกทุกร่างมาพิจารณาร่วมกันในในสภา

ถามด้วยว่า หากติดเงื่อนไขการนิรโทษกรรมมาตรา 112 มั่นใจใช่หรือไม่ว่า จะสามารถโน้มน้าวพรรคการเมืองอื่นให้เห็นด้วยได้ นายชัยธวัช กล่าวว่าตนคิดว่าเรื่องนี้สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ และใช้กระบวนการทางนิติบัญญัติเพื่อหาข้อสรุปที่ยอมรับร่วมกันได้

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การยกเว้นการนิรโทษกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมที่มีการกระทำที่เกินกว่าเหตุเท่านั้น ถือเป็นหลักการสำคัญที่เราควรจะสนับสนุนหลักนิติรัฐ และเจ้าหน้าที่รัฐควรมีเป้าหมายการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในชีวิตร่างกายของพี่น้องประชาชน ไม่ควรจะสนับสนุนการกระทำการลอยนวลให้พ้นผิดจากการใช้อำนาจรัฐต่อประชาชน

เมื่อถามว่า หลายคนอาจจะกังวลถึงการนิรโทษกรรมคดีความที่ร้ายแรงต่างๆ เหมาะที่จะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนอยากจะย้ำเตือนว่าพรุ่งนี้เป็นวันที่ 6 ต.ค. 21 ซึ่งเหตุการณ์นี้ที่รัฐบาลได้ทำให้เป็นเงื่อนไขสำคัญ จนนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง คือการนิรโทษกรรมเหตุการณ์ 6 ต.ค. 21 รวมถึงการออกคำสั่ง 66/23 ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ ล้วนแต่เป็นโทษร้ายแรงทั้งสิ้น โดยเฉพาะ 66/23 เป็นการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ใช้อาวุธลุกขึ้นสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ และมีส่วนทำให้เจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิตจำนวนมาก เรายังสามารถเปิดให้กับคนที่กระทำผิดร้ายแรงเข้าสู่สังคม ได้พูดคุย และร่วมใช้ชีวิตปกติในสังคมอีกครั้ง และตั้งใจที่จะเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับนี้ ในวันนี้ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันที่ 6 ต.ค. จึงหวังว่าพรรคการเมืองจะให้ความสนใจ และเห็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งถ้าเห็นพ้องก็อาจจะเสนอเลื่อนขึ้นมาพิจารณาเร็วขึ้น

ถามย้ำว่าจะนิรโทษกรรมให้กับคดี 112 ด้วยใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนที่นิรโทษกรรมให้กับเหตุการณ์ 6 ต.ค. ก็เป็นเรื่องความผิดมาตรา 112 เป็นหลัก และยังมีคดีกบฏ ล้มล้างการปกครอง และเปิดให้คนที่เข้าร่วมต่อสู้ด้วยอาวุธ เราสามารถที่จะอภัย เพื่อทำให้การเมืองไทยเดินหน้าไปได้ จึงคิดว่าหากไม่มีอคติจนเกินไป ทุกฝ่ายควรจะร่วมกัน เพราะรู้สึกเสียดายที่คณะกรรมการสมานฉันท์ ซึ่งตั้งโดยนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร ทำรายงานเสร็จแล้ว แต่เสร็จในปลายสมัย จึงไม่มีโอกาสได้นำเสนอในสภา ซึ่งคณะกรรมการสมานฉันท์ชุดต่างๆ ก็มีข้อเสนอในลักษณะนี้เช่นเดียวกับในเรื่องการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘นิพิฏฐ์’ มองมุมการเมือง หรือ ‘ก้าวไกล’ จะก้าวพลาด กรณี ‘บุ้ง เนติพร’

ความตายที่มนุษย์ยอมรับ และ ให้เกียรติกัน คือ'ความตายในสงคราม' หากความตายของบุ้ง เป็นความตายในสงครามแห่งความเชื่อ เราก็ควรเคารพดวงวิญญาณของเธอ

ก้าวไกลโหมหนัก การเมืองบทใหม่ ฉันทามติระหว่างชนชั้นนำ กับปชช.

ก้าวไกลประกาศเป็นสะพานเชื่อมแห่งยุคสมัย “ชัยธวัช’ ยก ปรากฏการณ์ ‘เลือกตั้ง 66’ เป็นข้อบ่งชี้ ไทยกำลังเดินเข้าสู่บทที่สิ่งเก่ากำลังจะตาย-สิ่งใหม่กำลังจะเกิด

ผุด 'กรรมการนิรโทษกรรม' ผ่าทางตัน ล้างผิด 112 เข้าทางก้าวไกลเป๊ะ

จับตาผุดโมเดล”กรรมการนิรโทษกรรม”ผ่าทางตัน ล้างผิด 112 ตั้ง 13 อรหันต์ พิจารณาคดีแรงจูงใจทางการเมืองในรอบ 20 ปี 2548-2568 พบตรงกับกฎหมายนิรโทษฯของก้าวไกล

อดีตบิ๊กข่าวกรอง ขอคนไทยร่วมกันส่งเสียงคัดค้าน ‘นิรโทษคดี112’

นักการเมือง นักโกงเมือง กำลังจับมือกัน เกี๊ยะเซียะกันทางการเมือง ออกกฏหมายนิรโทษกรรม พวกหนึ่งคดีโกงบ้านกินเมืองให้ไม่ผิด ยกโทษให้พวกคิดล้มล้างสถาบัน