แฟ้มภาพ
22 ธ.ค.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้( 22 ธ.ค.) เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคำร้อง กรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6)จากกรณีเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2538 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา
เป็นกรณีที่ นายสิระ เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ทำให้เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6)
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามมาตรา 82 วรรคสองและมีคำสั่งยกคำขอให้นายสิระ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ต่อมาผู้ร้องยื่นคำชี้แจง แก้ข้อกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไว้ในสำนวน และให้หน่วยงานและพยานที่เกี่ยวข้องชี้แจงตามที่ศาลกำหนด พร้อมจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง
มีรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้มีการพิจารณาสำนวนกรณีขอให้กกต.ตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัยว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6)จากเหตุเคยต้องคำพิพากษาเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2538 คดีหมายเลขแดงที่ 2218/2538 กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา หลังจากประชุมกกต. ให้ทางสำนักงานฯไปตรวจสอบว่าก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของส.ส.ฝ่ายค้านขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในวันที่ 22 ธ.ค.นั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งทางสำนักงานฯได้ยืนยันในที่ประชุมกกต.ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีการอ่านคำวินิจฉัยประเด็นดังกล่าวในวันที่ 22 ธ.ค.
ที่ประชุมกกต. จึงเห็นว่าควรรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กรต้องปฏิบัติ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านายสิระ มีลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งแล้วทำให้สมาชิกสภาพส.ส.สิ้นสุดลง กกต.ก็จะมีการพิจารณาดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา151ฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งแต่ยังลงสมัครซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทนายแย้งตำรวจปอศ. บุกจับ ‘นานา’ ทั้งที่พามารอมอบตัวก่อนแล้ว
ทนาย “สายหยุด เพ็งบุญชู” โพสต์โชว์เอกสารยืนยันพา “เวย์-นานา” มารอประสานมอบตัวตั้งแต่ 1 ธ.ค. แต่ไร้การรับเรื่อง ขณะที่ ปอศ. นำกำลังเข้าจับกุม “นานา” เช้าวันนี้ตามหมายคดีฉ้อโกงและ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินฯ
‘สุรเดช’ รับคำสั่ง ‘ลุงป้อม’ คุมภาคเหนือ ลั่นสู้ศึกเลือกตั้งด้วยผู้สมัครเกรด A
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ภาคเหนือว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ดูแล
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
‘ลุงป้อม’ไปต่อ! พปชร.ปรับทัพ ตรีนุชนั่งเลขาฯ
พปชร.ปรับทัพใหม่สู้เลือกตั้ง ดัน “ตรีนุช” นั่งเลขาธิการพรรค เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ 3
พปชร.จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้ง 'บิ๊กป้อม' ให้ถาม 70 ล้านคน ยังอยากให้เล่นการเมืองหรือไม่
ประชุมใหญ่ พปชร. ปรับโครงสร้างพรรค ลุยศึกเลือกตั้ง เลือก “ตรีนุช เทียนทอง” เป็นเลขาฯ พร้อมเปิดรับชื่อ 3 แคนดิเดตนายกฯ ก่อน 8 ธ.ค. “บิ๊กป้อม” ปล่อยหมัดถามประชาชน 70 ล้านคน ยังอยากให้ตัวเองอยู่การเมืองต่อหรือไม่

