'จตุพร'เตือนรัฐบาลอย่าปรามาสม็อบจุดไม่ติด คนไร้สัจจะอย่ามาเสียใจในภายหลังที่ไม่ยอมติดคุกสักวันเดียว

หากคนไร้สัจจะแล้ว อย่ามาเสียใจกับการกระทำในภายหลังที่ไม่ยอมติดคุกสักวันเดียว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของบ้านเมืองที่จะปล่อยให้สภาพอภิสิทธิ์ชนอยู่กันแบบนี้เหรอ ดังนั้นฝ่ายผู้มีอำนาจขอให้เชื่อว่าจุดไม่ติดต่อไปและขอให้นั่งให้ติดก้นด้วย

16 ม.ค.2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ โดยท้าทายว่า ขอให้ฝ่ายอำนาจเชื่อกันต่อไปที่ปรามาสม็อบประชาชนจุดไม่ติด เพราะช่วงการสะสมอารมณ์ปกปักยุติธรรมของบ้านเมืองมักลงท้ายด้วยพลังเติบโตทั้งคุณภาพและปริมาณของประชาชนออกมาหนุนช่วยเสมอ แล้วอำนาจสองมาตรฐานย่อมพังพาบไปตามบทเรียนอำนาจที่เคยเป็นมาแล้ว

นายจตุพร กล่าวว่า ความผิดปกติของบ้านเมืองมีตั้งแต่การตั้งรัฐบาลเพื่อไทยและใช้นโยบายหลักไม่ตรงกับการหาเสียงไว้ ที่สำคัญคำพิพากษาพระบรมราชองค์การไม่มีความหมายอีกต่อไป ดังนั้น ประชาชนไม่ควรปล่อยให้บ้านเมืองอยู่ในสภาพแบบนี้อีกไม่ได้ นอกจากนี้ เมื่อประชาชนรวมตัวชุมนุมความอยุติธรรม ฝ่ายอำนาจกลับดูแคลน ปรามาสเป็นม็อบไม่มีเงิน ไร้เส้น และจุดไม่ติด

อีกอย่างการชุมนุมใหญ่ของประชาชนในอดีตล้วนเกิดจากการปรามาสกันว่าจุดไม่ติดทั้งนั้น เช่นเหตุการณ์ชุมนุม 14 ต.ค. 2516 มาจากถอดชื่อ นศ.ราม 9 คน ต่อมาจับ 13 ผู้เรียกร้อง รธน.แล้วประชาชนออกมาประท้วงครั้งใหญ่ นอกจากนี้การอดอาหารของ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร ก็ถูกปรามาสจุดไม่ติด แต่อีกไมานานประชาชนก็มาร่วมชุมนุมจำนวนมากในเหตุการณ์ พ.ค. 2535 แล้วโค่นล้มทหารยึดอำนาจได้สำเร็จ

และเช่นกัน การชุมนุมต่อต้าน พรบ.สุดซอยเมื่อ ธ.ค. 2556 ใช้เวลาเพียง 4 วันเท่านั้นก็รวมประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เหล่านั้นล้วนมาจากการถูกฝ่ายอำนาจปรามาสว่า จุดไม่ติด ไม่มีเงิน และไร้เส้นหนุนหลังเช่นกัน

นายจตุพร กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เพื่อต่อต้านการทำลายกระบวนการยุติธรรม และนักโทษทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไม่ยอมติดคุกสักวัน โดยไม่มีความแน่ชัดว่า ป่วยนอนรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจมานานกว่า 140 วัน ซึ่งเกินกว่านักโทษจะปฎิบัติได้ แต่กรมราชทัณฑ์ก็ปกป้องให้อยู่กันตามเดิม โดยอ้างเหตุต้องเฝ้าระวังอาการป่วยจะเกิดขึ้นฉับพลัน

“การชุมนุมอยู่ที่ความชอบธรรม และไม่ได้เกี่ยวข้องปริมาณผู้ชุมนุม จึงไม่ได้สนใจกับการว่า จุดติดหรือไม่ แต่ที่เห็นคือความพลาดของฝ่ายอำนาจที่นั่งไม่ติดจึงปรามาสการชุมนุมว่า จุดไม่ติด ขณะที่พวกตัวเองกลับนั่งไม่ติด”
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มสั่งสมความชอบธรรมเป็นลำดับ เกิดการพัฒนาอารมณ์ เมื่อเข้มข้นการชุมนุมจะเติบใหญ่ด้วยอารมณ์พลุกพล่านจะตามมา เพราะความชอบของประชาชนคือ ไม่ยอมรับพวกอภิสิทธิ์ชนและระบบยุติธรรมสองมาตรฐาน

อีกทั้งเชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทยที่ผ่านมานั้น เป็นจุดจบของการต่อสู้ในรหัสสีเสือเหลืองหรือแดงไปแล้ว จากนั้นการต่อสู้ครั้งใหม่ได้ก้าวมาสู่จุดเริ่มใหม่เป็นการต่อสู้เพื่อต่อต้านความอยุติธรรมของอภิสิทธิ์ชน

“ดังนั้นอารมณ์ของประชาชนจึงไม่สนใจว่า ใครจะอยู่สีอะไร ฝ่ายไหน แต่ถูกยกระดับเป็นไม่ยอมรับการกระทำสองมาตรฐานของพวกอภิสิทธิ์ชน ถ้ายอมรับไม่ได้จึงต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยออกมาร่วมชุมนุมหรืออยู่บ้านกับใจที่ไม่รับพวกสองมาตรฐาน”

นายจตุพร กล่าวว่า แม้การชุมนุมครั้งนี้ไม่มีเงิน ไม่มีเส้นมาหนุนช่วย แต่ถ้าชุมนุมด้วยความชอบธรรมของประเทศ เชื่อว่า อีกไม่นานเงินจะตามมาเอง สิ่งสำคัญเมื่อมโนธรรมของสังคมต้องการักษาความถูกต้องดีงามกับบ้านเมืองแล้ว เชื่อว่าไม่นานประชาชนจะออกมาร่วมชุมนุม หากไม่มีเส้นก็จะเติมเส้นให้แข็งแกร่ง เพราะเส้นที่ยิ่งใหญ่คือเส้นของประชาชน

นอกจากนี้ แม้ฝ่ายอำนาจพยายามอ้างนักโทษชั้น 14 ทำถูกตามกฎหมายทุกประการ แต่กฎหมายล้วนปกป้องการทำที่สุจริตที่พิสูจน์ทราบได้ โดยถึงขณะนี้กล้องวงจรปิด รพ.ตำรวจ ที่อ้างว่าเสีย กลับไม่มีการติดตั้งใหม่เพื่อไว้บันทึกภาพเหตุการณ์เป็นหลักฐานของการกระทำที่สุจริต ถูกกฎหมายตามที่พวกหนุนนักโทษชั้น 14 กล่าวอ้างกัน

อีกทั้งหัวหน้าพยาบาล รพ.ตำรวจ บอกไม่ได้เข้าไปดูนักโทษนอนป่วยชั้น 14 เพียงให้ลูกน้องไปดูแลแทน ซึ่งฝืนมโนธรรมการรักษาดูแลผู้ป่วยห้องพิเศษ รวมทั้งบอกญาตินานๆ มาเยี่ยมสักครั้งทั้งที่นักโทษในอดีตเป็นคนสำคัญของพรรคการเมืองรัฐบาลขณะนี้ แต่คนในครอบครัวแทบไม่มาเยี่ยมจึงเป็นสิ่งปกติอย่างยิ่ง

“ถ้าคิดว่าจะเอากันแบบนี้ ก็ทำกันต่อไป อย่าได้เแคร์เพราะคนชุมนุมต่อต้านจุดไม่ติด และเชื่อว่า สว.เปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ม.153 เรื่องสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมกรณีหน่วยงานรัฐกระทำกับนักโทษชั้น 14 จะกลายเป็นหนึ่งในเรื่องหลักที่ถูกยกมาอภิปรายในสภากัน”

ส่วนกรณีดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายจตุพร กล่าวว่า โดยมโนสำนึกของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กดต.) ต้องเล่นงานพรรคเพื่อไทยก่อน เพราะไม่ดำเนินการตามที่หาเสียงกับประชาชนไว้ เนื่องจากบอกว่าไม่กู้มาแจกเงินหมื่นบาทกับประชาชนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป จึงเท่ากับเป็นการประกาศนโยบายหลอกลวงเพื่อหวังคะแนนเสียง

อีกทั้งเชื่อว่า ถ้าในการหาเสียงพรรคเพื่อไทยบอกว่า จะกู้มาแจกให้ประชาชนแบกหนี้ร่วมกัน คงไม่มีใครมาเลือกเป็นรัฐบาลแน่นอน ซึ่งเมื่อเป็นรัฐบาลกลับจะกู้เงินมาแจกประชาชน แต่ กกต.ปล่อยให้ทำแบบนี้ได้อย่างไร ดังนั้น การบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย กกต.ย่อมเข้าข่ายสองมาตรฐาน เอื้อพรรคของพวกอภิสิทธิ์ชนที่ปฎิบัติผิดตามนโยบายหาเสียง โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยหรือ?

นอกจากนี้ยังมีการประกาศทำโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งเป็นโครงการในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำเอาไว้แต่ไม่ผ่านการพิจารณาของสภา สิ่งสำคัญคือ การจะเอาต่างชาติมาลงทุน 100 % ในโครงการนี้ ซึ่งไม่รู้ว่า ประเทศไหนจะมาลงทุน

นายจตุพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจุดเด่นของโครงการนี้เพื่ออำนวยการบริการให้ขนสินค้าขึ้นลงเรือวิ่งตัดผ่านจากฝั่งอ่าวไทยไปทะเลอันดามัน ย่อมเป็นวิธีคิดที่ขาดสติอย่างสิ้นเชิง และยังเป็นการต่อสู้ทางเศรษฐกิจกับสิงคโปร์ย่อมรู้ผลว่า ขาดทุนชัดเจน ดังนั้น ถ้าจะสร้างต้องคิดกันใหม่ทั้งระบบกับโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อชาติบ้านเมือง

รวมทั้งตั้งคำถามถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่มุ่งแต่เดินทางไปต่างประเทศ โดยไม่สงสัยถึงการใช้งบประมาณ 2567 จำนวน 3.48 ล้านล้านบาทที่มีเป้าหมายให้ใช้เพียง 5 เดือนตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย. แต่การทำงานของนายกฯ และรัฐบาลกลับไม่มีความสำเร็จที่หาจับต้องเป็นชิ้นงานได้เลย เอาแต่เปลี่ยนใส่ถุงเท้าหลากสีไม่เว้นวันในการเดินทางไปเจรจาความเมืองกับต่างประเทศนับแต่ได้เป็นนายกฯ มา

นายจตุพร เชื่อว่า อารมณ์ประชาชนจะปะทุขึ้นเข้มข้นนับแต่วันที่ 22 ก.พ.นี้ ที่นักโทษชั้น 14 อยู่ รพ.ตำรวจ ครบ 180 วันเข้าข่ายได้รับการอภัยโทษ สะท้อนถึงพวกอภิสิทธิ์ชนที่กระบวนการยุติธรรมเอื้อสองมาตรฐานเอาเปรียบนักโทษทั่วไปที่ไม่ได้สิทธิ์เท่าเทียมกัน

ไม่เพียงเท่านั้น ในสถานการณ์ถัดกันไป หากยิ่งลักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับไทยตามรอยเท้าของนักโทษทักษิณ ผู้พี่ ถ้าเข้ามาไม่ติดคุก โดยไปอยู่ รพ.ตำรวจเช่นเดียวกันแล้ว แรงปะทุของประชาชนจะก่อหวอดขึ้นได้ง่าย อารมณ์ต่อต้านสองมาตรฐานคงจุดติดและฝ่ายอำนาจอาจนั่งตัวสั่นด้วยเส้นการชุมนุมของประชาชนออกมาหนุนช่วยปกป้องชอบธรรมของบ้านเมือง

“หากคนไร้สัจจะแล้ว อย่ามาเสียใจกับการกระทำในภายหลังที่ไม่ยอมติดคุกสักวันเดียว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของบ้านเมืองที่จะปล่อยให้สภาพอภิสิทธิ์ชนอยู่กันแบบนี้เหรอ ดังนั้นฝ่ายผู้มีอำนาจขอให้เชื่อว่าจุดไม่ติดต่อไปและขอให้นั่งให้ติดก้นด้วย”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต

‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้

คปท.นัด 30 เม.ย.บุกยื่นหนังสือ กกต. ‘พิชิต’ ขาดคุณสมบัติ เร่งส่งศาลรธน.พิจารณา

วันอังคารที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 10.30 น. คปท.จะไปยื่นหนังสือการขาดคุณสมบัติของคณะรัฐมนตรีต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ กกต.ยื่นต่อยังศาลรัฐธรรมนูญ  ต่อไป

มึน! 'อุ๊งอิ๊ง' ชวนคนทั้งโลกมาสาดน้ำช่วงสงกรานต์ แต่ตัวเองไปเที่ยวฮ่องกง

'ตู่' มึน 'อุ๊งอิ๊ง' ชวนคนทั้งโลกมาสาดน้ำ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 21 วัน แต่ตัวเองไปเที่ยวฮ่องกง งง ทำไปทำไม ติงควรมีดีเอ็นเอรับผิดชอบ อย่ายึดตัวตน

'ทักษิณ' เริงร่า เล่นน้ำยกดัมเบล เลี้ยงหลาน เย้ยดีลกลับบ้าน ไม่ตื่นเต้นคำขู่

'จตุพร' อ่านไต๋ 'ทักษิณ' เริ่งร่า เล่นน้ำยกดัมเบล เลี้ยงหลานสุดคึกคัก ส่งนัยเย้ยดีลกลับบ้าน ไม่ตื่นเต้นคำขู่ จับตา! 10 เม.ย. ตัดสินฟ้องหรือไม่ คดี 112 ระบุเป็นจุดเริ่มเปลี่ยนชะตาคน