6 ก.พ.2567 - นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่าภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. และพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งการขออายัดตัวนายทักษิณ เนื่องจากคดีคงค้างเดิม ซึ่งตนได้รับการยืนยันจาก ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำนายทักษิณเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา
นายสหการณ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีหนังสือตอบกลับจากตำรวจ ปอท. ไปยังผู้ร้องเมื่อวันที่ 18 ต.ค.66 นั้น อาจจะเพราะว่าในตอนนั้นพนักงานอัยการยังไม่ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีระหว่างการอายัดตัวผู้ต้องขังทาง ผบ.เรือนจำฯ จะไม่ได้มีการรายงานมาที่กรมราชทัณฑ์ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจและอัยการเจ้าของคดีในการสอบสวนปากคำ อีกทั้งหนังสือขออายัดตัวผู้ต้องขังถือเป็นเรื่องปกติเป็นเรื่องของข้อตกลงระหว่างตำรวจและกรมราชทัณฑ์
นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกศาลมีคำพิพากษาตัดสินคดีไปเรียบร้อยแล้ว และถ้าในระหว่างนั้นยังมีการพิจารณาในคดีอื่น ทางตำรวจก็จะแจ้งการอายัดขอตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำฯ เพื่อให้เรือนจำฯ รู้ว่าถ้าครบวันจะปล่อยตัวผู้ต้องหาหรือได้รับการพักโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรู้ก่อน ซึ่งทางเรือนจำฯ จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปรับตัวผู้ต้องหานำส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการในคดีที่ขออายัดตัว ส่วนหากจะมีการขอประกันตัวใดๆ ก็เป็นไปตามกระบวนการ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าเรื่องพิจารณารายชื่อผู้ต้องขังที่ผ่านเกณฑ์โครงการพักการลงโทษทั้งในกรณีปกติและกรณีมีเหตุพิเศษ นายสหการณ์ กล่าวว่า เรื่องรายชื่อผู้ต้องขังทั่วประเทศที่เข้าเกณฑ์จะได้รับการพักการลงโทษไม่ว่ากรณีปกติ หรือกรณีมีเหตุพิเศษ ทราบว่าได้มีการประชุมไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้รับจำนวนรายชื่อผู้ต้องขังหลายพันราย จากทั้งหมด 143 เรือนจำทั่วประเทศ ขณะนี้รายชื่อทั้งหมดอยู่ในชั้นของกรมราชทัณฑ์ เพื่อเตรียมเสนอไปยังคณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษ จากนั้นจึงจะนำเสนอไปยังชั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งแต่ละขั้นตอนค่อนข้างมีความละเอียด เพราะต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้ต้องขังให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ควรได้รับ
นายสหการณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยังไม่สามารถให้คำยืนยันได้ว่ารายชื่อของนายทักษิณ อยู่ในเกณฑ์ผ่านเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษหรือไม่ เนื่องจากยังต้องรอให้ผ่านกระบวนการของคณะกรรมการฯ แต่หากพูดตามหลักการ อดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นผู้ต้องขังสูงวัย มีอาการเจ็บป่วย และรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 แต่อย่างไรคณะกรรมการฯ ก็จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และถ้ารายชื่อได้รับการรับทราบในชั้นกระทรวงยุติธรรม ก็จะต้องมีการแจ้งไปยังตำรวจ ปอท. เพื่อให้ดำเนินการเข้าอายัดตัวผู้ต้องหาในสถานที่คุมขังได้
เมื่อถามว่ารายชื่อของผู้ต้องขังทั้งหมดที่จะได้รับสิทธิพักโทษ ทางกรมราชทัณฑ์จะดำเนินการตรวจสอบแล้วเสร็จและส่งไปยังคณะกรรมการพักการลงโทษเพื่อพิจารณา จะเสร็จสิ้นทันภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้หรือไม่ นายสหการณ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่น่าจะใช้เวลานานมากเพราะจะต้องคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขังที่ควรได้รับ ซึ่งหากครบกำหนดโทษในวันใดก็ควรได้รับการปล่อยตัวในวันถัดไปจากวันครบกำหนดคุมขัง ส่วนกรณีที่แวดวงทางการเมืองมีการวิเคราะห์ว่าวันที่ 18 ก.พ. หรือวันที่ 22 ก.พ. จะเป็นวันที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะได้รับการปล่อยตัวเพราะผ่านเข้าโครงการพักโทษนั้น โดยปกติแล้ว เรือนจำและทัณฑสถาน จะมีการพิจารณาล่วงหน้าก่อนที่จะเข้าโครงการพักการลงโทษได้ถึง 3 เดือน เพราะเราต้องการให้ผู้ต้องขังไม่เสียประโยชน์ในการที่เขาจะได้พักโทษ และพอครบเวลาคุมขังแล้ว วันถัดไปก็สามารถปล่อยตัวเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษโดยกรมคุมประพฤติจะต้องรับไปดูแลต่อ
ส่วนเรื่องการติดกำไล EM ผู้ต้องขังระหว่างพักโทษ ตนทราบว่ากรมคุมประพฤติจะมีข้อปฏิบัติหลายประเด็นที่จะต้องประเมิน เช่น ถ้าผู้ต้องขังเจ็บป่วยร้ายแรง และดูแล้วไม่อยู่ในภาวะที่จะไปก่อความผิด หรือเป็นผู้สูงอายุ ที่ดูแล้วไม่สามารถไปสร้างปัญหาได้ ก็อาจเป็นข้อยกเว้นไม่ให้มีการติดกำไล EM แต่ในเรื่องการกำหนดรัศมีการเดินทางของผู้ต้องขัง กรมคุมประพฤติ จะเป็นผู้กำหนดเงื่อนใด และแน่นอนว่าผู้ต้องขังจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ในช่วงระหว่างการพักโทษ
ส่วนในเรื่องการเดินทางข้ามจังหวัด กรมคุมประพฤติก็จะเป็นผู้กำหนด โดยต้องควบคุมไม่ให้เกิดปัญหา และต้องกำหนดสิ่งที่ผู้ต้องขังต้องปฏิบัติ ส่วนถ้าหากผู้ต้องขังจะไปออกรายการใด ๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรหรือไม่ กรมคุมประพฤติต้องไปประเมิน แต่ผู้ต้องขังจะต้องขออนุญาตก่อน เพราะแม้ได้รับการพักโทษ ก็ยังเป็นผู้ต้องขังตามคำพิพากษาของศาล และห้วงเวลาเสร็จสิ้นการพักโทษก็ให้นับไปจนถึงวันที่ผู้ต้องขังจะพ้นโทษ เช่น อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 จากนั้นได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ 1 ปี และได้รับการคุมขังมาแล้ว 6 เดือน ที่เหลือหลังจากนี้ก็จะเป็นระยะเวลาที่ต้องใช้คำนวณในการพักโทษที่เหลือ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
ครอบครัวชินวัตร โชว์ภาพเยี่ยม 'ทักษิณ' แบบใกล้ชิดที่สุด โอกาสพิเศษช่วงปีใหม่
ครอบครัวชินวัตรเยี่ยม “ทักษิณ” ครั้งที่ 20 แบบใกล้ชิดในโอกาสพิเศษช่วงปีใหม่ที่คลองเปรม "อิ๊งค์-โอ๊ค"อุ้มภาพร่วมเฟรมพ่อในชุดนักโทษ โชว์สุขภาพสดใส ระบุได้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกัน 2 ชั่วโมงเต็ม ทั้งก๋วยจั๊บ–แฮมเบอร์เกอร์ พร้อมพูดคุยยาวเรื่องน้ำท่วมภาคใต้


