ร้อง 'เศรษฐา-พีระพันธุ์' ยกเลิกพักโทษ 'นช.ทักษิณ' ดูอิ่มเอิบสุขสบาย

23 ก.พ.2567 - ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ผ่านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้เพิกถอนการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร

นายวัชระ กล่าวว่า ตามที่กรมราชทัณฑ์ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2567 กรณีการปล่อยตัวพักการลงโทษนายทักษิณ ชินวัตร หมายเลขทะเบียนนักโทษ 6650102668 จัดอยู่ในกลุ่มผู้มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปโดยมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ทั่วไปครบตามที่กำหนดไว้ในประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ลงวันที่ 28 ต.ค. 2563 คือ เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของกำหนดโทษแล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2567 นายแก้วสรร อติโพธิ ทำจดหมายเปิดผนึกถึง ป.ป.ช. เรื่องขอแจ้งเค้ามูลการพักโทษนายทักษิณชินวัตร โดยผิดกฎหมาย มีสาระสำคัญข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้ 1 . ข้อกฎหมาย ตามหลักเกณฑ์การพักโทษของกรมราชทัณฑ์ได้วางหลักเกณฑ์ไว้เป็นองค์ประกอบ 3 ประการประกอบกัน คือ 1.1 นักโทษอายุ 70 ปีขึ้นไป

1.2 รับโทษมาแล้วเป็นเวลา 6 เดือนหรือ 1 ใน 3 ของโทษตามกฎหมาย แจ้งโทษอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วแต่ว่าเงื่อนเวลาใดจะยากกว่ากัน 1.3 นักโทษนั้นต้องอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย 2.ข้อเท็จจริง ข่าวกรมราชทัณฑ์ลงวันที่ 18 ก.พ. 2567 ระบุแต่เพียงเงื่อนไขทางอายุและเวลาที่ต้องโทษเท่านั้น มิได้ยืนยันระบุให้เห็นว่านายทักษิณมีสมรรถภาพช่วยเหลือตัวเองได้เพียงใด มีหลักฐานตามใบประเมินของกรมอนามัยมาแสดงโดยได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 11 คะแนน ตามที่กำหนดไว้ในประกาศหรือไม่อย่างไร

นายวัชระ กล่าวว่าเรื่องนี้ได้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่านายทักษิณเข้าหลักเกณฑ์ข้อ 4 (1) ตามประกาศกรมราชทัณฑ์เรื่องหลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ลงวันที่ 28 ต.ค. 2563 หรือไม่ และคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ พิจารณาชอบด้วยกฎหมายและประกาศกรมราชทัณฑ์หรือไม่ เนื่องจากภาพที่ปรากฏตามสื่อมวลชนนายทักษิณยังช่วยตัวเองได้ นั่งริมสระน้ำได้ ร่วมรับประทานอาหารกับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฮุนเซนได้ จนมีการตั้งกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรกับพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในประเด็นดังกล่าวอภิปรายในสภาฯ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี ก็ยอมรับว่าได้คะแนนประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ตามข่าวที่ปรากฎ

นายวัชระ กล่าวต่อว่าแต่ความจริงที่ปรากฏ น.ช.ทักษิณดูอิ่มเอิบสุขสบาย ไม่ใช่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่อย่างใด ดังนั้นขอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลโปรดสั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ท่านกำกับดูแลและมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดำเนินการ ดังนี้ 1.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ กระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า อนุมัติให้พักโทษถูกต้องตามกฎหมายและข้อเท็จจริงหรือไม่ ตามเหตุผลสำคัญในหนังสือร้องเรียนของนายแก้วสรร อติโพธิ อนึ่งทราบข่าวว่าอนุกรรมการฯ ลาออกไป 2 คน และอธิบดีไปทำกันเองภายในกับเจ้าหน้าที่ที่กระทรวงจริงหรือไม่

2.ยกเลิกการอนุมัติพักโทษนายทักษิณ เนื่องจากมิได้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศกรมราชทัณฑ์จริง เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แก้วสรร' แพร่บทความปอกเปลือก ทักษิโณมิคส์ บวก X กลายเป็นโครงการแจกเงินดิจิทัล

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง "ทักษิโณมิคส์ + X = โครงการแจกเงินดิจิตอล" มีเนื้อหาดังนี้ เมื่อคราวแรกเริ่มครองอำนาจในปี ๒๕๔๖ ของพรรคทักษิณ ที่พลิกมิติการปกครองไทยด้วยชุดนโยบายการเงินที่โหมอัดฉีดประชานิยมชนิดเข้มข้นต่างๆนานา

'ราเมศ' อัดราชทัณฑ์แจง 5 ข้อ ตอกย้ำให้เห็นกระบวนการอุ้ม 'ทักษิณ' ป่วยทิพย์

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ต้องเข้าเรือนจและรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า กรมราชทัณฑ์ต้องระลึกว่าทุกคำตอบคือหลักฐานสำคัญ