15 มิ.ย.2567- นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า ฝากถึง “เศรษฐา” ถ้าไปไม่รอด ยุบสภาดีกว่าลาออก
เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาสัมภาษณ์ยืนยันว่า จะไม่ชิงลาออก-ยุบสภาฯ หนีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญคดีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และย้ำว่าไม่คิดใช้วิธีพิศดารในการหนี พร้อมรับคำตัดสินนั้น
ผมเห็นด้วยกับวิถีคิดของนายเศรษฐา เพราะตามวิถีทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เมื่อการเมืองเดินเข้าสู่ทางตัน ทางออกของบ้านเมืองในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นั่นก็คือนายกรัฐมนตรี ลาออก หรือประกาศยุบสภา
ถ้าหากการเมืองของประเทศเข้าสู่ทางตันจริงๆ ก็อยากให้นายเศรษฐาได้ใช้วิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย อย่าดื้อรั้นจนมีอำนาจนอกระบบเข้ามาควบคุมการบริหารประเทศ ด้วยการรัฐประหาร ซึ่งทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลอง และการรัฐประหารก็ไม่ใช่คำตอบของประเทศ
สำหรับสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ ถ้าหากนายเศรษฐา จะตัดสินใจทางการเมืองด้วยการลาออก หรือยุบสภานั้น ส่วนตัวสนับสนุนให้นายเศรษฐา ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนดีกว่าการลาออก ด้วยเหตุผล คือ
1.เป็นการคืนอำนาจให้กับประชาชนได้ตัดสินใจ เลือกตัวแทนและพรรคการเมือง เข้ามาบริหารประเทศใหม่
2.การยุบสภาเป็นแนวทางตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อคืนอำนาจให้ประชาชนแล้ว ป้องกันตัดตอนอำนาจแฝง หรืออำนาจนอกระบบ เข้ามาแทรกแซงการเมืองของประเทศได้
3.การเลือกตั้งแต่ละครั้ง จะมีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจช่วงเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปในตัว
4.จะแก้ปัญหาพรรคการเมือง และนักการเมืองที่ซื้อเสียงได้ระดับหนึ่ง เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคการเมืองใช้เงินในการหาเสียงกันอย่างมโหฬาร บางพรรคใช้หลักพันล้านถึงหมื่นล้าน ถ้ามีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ อาจจะมีพรรคการเมืองที่ยังถอนทุนคืนไม่ทัน อาจทุ่มเงินในการเลือกตั้งน้อยลง
5.เป็นการสลายขั้วทางการเมืองเก่าไป เป็นการล้างไพ่ใหม่ หลังเลือกตั้งเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองจับขั้วกันใหม่
6.หลังการเลือกตั้งจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่มีสมาชิกวุฒิสภาเข้ามาร่วมโหวต รัฐบาลใหม่จึงมาจากการโหวตเลือกของส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง
การตัดสินใจทางการเมืองใดๆในตอนนี้ อำนาจสูงสุดอยู่ที่นายเศรษฐาเพียงคนเดียว มีอำนาจเบ็ดเสร็จ จึงทำให้นายเศรษฐาถือไพ่เหนือกว่าคนอื่นทุกคน ถ้าหากถูกบีบคั้นทางการเมืองมากๆ และการเมืองเดินไปสู่ทางตัน ขอให้ใช้วีธีการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเป็นการดีที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม
พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า
สถานการณ์แรงงานข้ามชาติปี 2568 จับตาพรรคการเมืองปั่นกระแส บิดเบือนข้อมูลเพื่อโจมตีทางการเมือง
เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังกำลังจะผ่านพ้นไปแล้วสำหรับปี 2568 หลายภาคส่วนมีการวิเคราะห์-สรุปสถานการณ์ในด้าน”การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม-เทคโนโลยี
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ บทบาทใหม่ บนถนนการเมือง หวั่นใช้ทุนเทาซื้อเสียงเลือกตั้ง!
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง ประเทศไทย"กรุงเทพมหานคร"เป็นอีกหนึ่งสนามเลือกตั้งที่คนทั้งประเทศจับตามองกันว่าผลการเลือกตั้ง 8 ก.พ.2569 "พรรคประชาชน"
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
'เพื่อไทย' ต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร สส. 3 เขตโคราช
ที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
🛑LIVE ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน | อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
ย้อน 2568 ปีปิดเกม #หยุดกร้าวเด็กก้าวไกล #ดับอหังการ์‘ทักษิณ’ #เด็ดปีกเจ้าเล่ห์ฮุนเซน อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ.2568

