วัดใจ 'อัยการสูงสุด' ชี้ปมทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างปกครอง หลังคณะทำงานชงไม่มีพฤติการณ์

‘ชูศักดิ์’ ดอดเข้าให้ถ้อยคำคดี ทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ต่ออัยการสูงสุด หลังสั่งสอบเพิ่มจากที่คณะทำงานชงยุติเรื่อง ชี้ไม่มีพฤติการณ์ล้มล้างฯ เรื่องครอบงำพรรคหรือไม่เป็นอำนาจ กกต. เตรียมเเจงต่อศาล รธน.ทันครบกำหนด15 วัน บิ๊กอัยการสั่งกำชับห้ามให้ข่าวคดีนี้กับสื่อ

6 พ.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงพรรคเพื่อไทยเชิญมาให้ถ้อยคำ กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความได้ยื่นคำร้องขอต่ออัยการสูงสุดขอให้ยื่นคำร้องต่อ ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิบไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 49 แห่งรัฐธรรมนูญ

คณะทำงานพิจารณากรณีมีผู้ขอให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเเล้วมีความประสงค์ทราบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาของอัยการสูงสุด

อาศัยอำนาจตามมาตรา 16 แห่ง พรบ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 จึงขอเชิญให้ท่านไปให้ถ้อยคำพร้อมมอบพยานหลักฐาน (ถ้ามี) ต่อพนักงานอัยการ ในวันที่ 30 ต.ค.เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร หากขัดข้องประการใดโปรดแจ้งให้ทราบด้วย

มีรายงานว่าวันนี้ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นมือกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปให้ถ้อยคำต่อพนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญมีเผยแพร่เอกสาร การพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า"นายทักษิณ ชินวัตร"(ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งจะครบกำหนดตามวันที่ศาลรัฐธรรมนูญร้องขอประมาณในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย.นี้เเล้ว

มีรายงานว่าเมื่อตอนที่ได้รับคำร้องจาก นายธีรยุทธ ได้มีการส่งเรื่องไปยังสำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีคณะทำงานที่มีรองอัยการสูงสุดเป็นประธานคณะทำงานพิจารณาก่อนส่งไปยังอัยการสูงสุดพิจารณามีคำสั่ง

โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่าคณะทำงานมีความเห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีมูลให้ยุติเรื่อง โดยให้เหตุว่า 2 ข้อเเรกที่เป็นข้อพาดพิงสถาบันฯ การกระทำของผู้ถูกร้องไม่มีมูลพฤติการณ์ ส่งผลให้เกิดการเซาะกร่อน บ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันฯ

ส่วนคำร้องข้อ 3-6 ซึ่งเป็นเรื่องการครอบงำพรรคการเมืองเป็นอำนาจวินิจฉัยของ กกต. ทางคณะทำงานจึงมีความเห็นเสนอควรยุติเรื่องไปยังอัยการสูงสุด

หลังจากนั้นทางอัยการสูงสุดได้พิจารณาเเล้วเห็นควรสั่งสอบสวนเพิ่มเติมจากทางฝั่งผู้ร้องเเละผู้ถูกร้อง จนนายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าให้ถ้อยคำต่ออัยการสำนักงานการสอบสวนเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา

รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับเรื่องนี้ทางผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีการกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องห้ามให้ข่าวเรื่องนี้ต่อสื่อมวลชน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทักษิณ' สื่อสารถึง 'สนธิ' : 'การทำอย่างเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิม'

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ตีตก 7 คำร้อง ขอให้วินิจฉัยเลือก สว. ไม่ชอบ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับ 7 คำร้องที่มีการร้องขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วยคำร้องของนายสมบูรณ์ ทองบุราณ,นายวัฒนา ชมเชย ,ว่าที่ร.ต.วิชชุกร คำจันทร์ นายจิรัฎฐ์ แจ่มสว่าง,นายปรีชา เดชาเลิศ,นางฤติมา กันใจมา,