'สังศิต' ชี้ 3 จุดอันตรายดันเปิด 'กาสิโน' ข้องใจ ใช้ระบบให้ใบอนุญาตแทนประมูล

'สังศิต' ชี้ 3 จุดอันตรายดันเปิดกาสิโน ข้องใจ ใช้ระบบให้ใบอนุญาตแทนประมูล เตือนเกิดข่าวอื้อฉาว กังขา เขียนล็อคทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน กีดกันคนเข้าร่วมธุรกิจแค่ไม่กี่ราย แนะเปิดแค่ 2 ที่ภายใน 20 ปี ไม่ใช่รอบแรกก็ให้แจกบาคาร่า 10 จังหวัดทั่วไทย

15 ม.ค.2568 - นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย ธุรกิจใต้ดิน มาหลายสิบปีตั้งแต่สมัยเป็นผอ.ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และทำวิจัยเรื่องการเปิดกาสิโนในประเทศไทย ให้ทัศนะต่อการที่ประเทศไทยจะมีกาสิโนหลังคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ว่า แรงจูงใจของรัฐบาลในการให้มีการเปิดกาสิโนก็คือ จะเป็นแหล่งรายได้ที่เป็นเม็ดเงินเป็นเรื่องหลักมากกว่าสิ่งอื่น ส่วนที่มีบางหน่วยงานเช่นคณะกรรมการกฤษฎีกาและสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีข้อทักท้วง-แนะนำรัฐบาลในการทำความเห็นต่อร่างพรบ.ดังกล่าวนั้น คือการเตือนสติรัฐบาลว่าต้องระมัดระวัง อย่างที่กฤษฎีกาบอกว่า เนื้อหาในร่างพรบ.ดังกล่าวไม่ตรงกับคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เพราะว่ารัฐบาลบอกว่าต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่เนื้อหาในร่างกฎหมายกลับเน้นไปที่การเอาเงินใต้ดิน เงินผิดกฎหมายมาไว้บนดิน แม้ทั้งสองเรื่องจะคล้ายกันแต่มันเป็นคนละเรื่อง ส่วนของสภาพัฒน์ฯ ก็มองในมุมเศรษฐศาสตร์ ว่าอยากไปคาดหวังมากว่าเมื่อเปิดกาสิโนแล้วจะช่วยเศรษฐกิจของประเทศได้ เพราะรัฐบาลอาจมองแค่มุมเดียวและมองแต่มุมที่เป็นโอกาสแต่ไม่ได้มองแบบรอบด้านเพียงพอ เป็นการเตือนสติให้รัฐบาลฉุกคิดมากขึ้น

นายสังศิต กล่าวต่อว่า เคยเสนอความเห็นก่อนหน้านี้ว่า กาสิโนจะมีประโยชน์กับประเทศไทย หากมีวัตถุประสงค์เพื่อจะดึงเม็ดเงิน จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีรายได้มาก แต่ผมก็เตือนไว้เสมอตลอด 30 ปีที่มีการคุยกันเรื่องการเปิดกาสิโนว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องระมัดระวัง มีสามเรื่องคือ หนึ่ง เรื่องการมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะหากรัฐบาลเข้าไปมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับกาสิโน จะทำให้ระบบการเมือง ข้าราชการและสังคมเสียหายอย่างรุนแรง อย่างเช่น เรื่องสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เป็นแหล่งการพนันชนิดหนึ่งในเวลานี้ แต่นักการเมืองก็มักใช้อำนาจเอาผลประโยชน์ในกองสลากมาเป็นของตัวเองอยู่เสมอ แม้กระทั่งทุกวันนี้ แต่รายได้ที่มาจากสำนักงานสลากฯ มันเทียบไม่ได้กับที่จะเกิดจากกาสิโน เพราะว่าสลากกินแบ่งฯ สองสัปดาห์ได้เงินหนึ่งรอบ แต่กาสิโนได้กันทุกนาที เม็ดเงินจึงมโหฬารต่างกับกองสลากฯมาก ซึ่งหากฝ่ายการเมืองไม่ระมัดระวัง ไม่ควบคุมตัวเองไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะอย่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลทุกวันนี้ ให้ห้ามยังไง ก็ห้ามไม่สำเร็จ

"ดังนั้น หากนักการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวประเทศจะเสียหายมาก เพราะเรื่องกาสิโน อำนาจการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องได้ง่ายและทำได้ง่ายและมากกว่าสลากกินแบ่งฯ เพราะรัฐบาลเป็นคนร่างกฎหมายเอง "

สอง การจะให้ไปเปิดกาสิโนที่ไหน ต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ด้วย ที่จะให้เปิดกัน 10 แห่ง ไม่ว่าจะเปิดที่ไหน ต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ว่าเขาอยากได้กาสิโนไปเปิดหรือไม่ อย่างภูเก็ต ที่ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมของโลก ประชาชนที่ภูเก็ตไม่ต้องการกาสิโน แต่รัฐบาลก็บอกจะให้ไปเปิด หากรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน จะเกิดความขัดแย้งในสังคม

เรื่องที่สาม คือการบังคับใช้กฎหมาย เพราะก่อนที่จะทำกาสิโน ต้องปฏิรูปตำรวจให้สุจริตก่อน เพราะทุกวันนี้ บ่อนการพนันที่ผิดกฎหมาย ตำรวจก็ปราบไม่ได้ เอาชนะไม่ได้ บ่อนการพนันเทียบกับกาสิโนไม่ได้เลย ขนาดเงินแค่นั้น ยังปราบไม่ได้ แล้วมาเป็นกาสิโน จะทำให้บังคับใช้กฎหมายโดยถูกต้องได้อย่างไร

“ แล้วจะกลายเป็นแหล่งที่เงินสีเทาหรือเงินสีดำ เข้ามาฟอกผ่านกาสิโนได้ เพราะอย่างประเทศที่จะให้เปิดกาสิโนได้อย่างที่สิงคโปร์หรือมาเก๊า เขาต้องทำระบบตำรวจให้สุจริตก่อน เพราะหากไปเปิดกาสิโนก่อน โดยไม่ทำเรื่องของเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกาสิโนให้สุจริตก่อน ประเทศเหมือนตกนรกเลย”นายสังศิต ระบุ

นายสังศิต กล่าวอีกว่า การที่ประเทศไทยจะใช้ระบบการให้ใบอนุญาตเปิดสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน ไม่ได้ใช้ระบบการประมูล นั้นเห็นว่า หากต้องการให้บริษัทต่างๆ ทั่วโลกเข้ามาแข่งขันทำธุรกิจ ก็ต้องทำให้มีการประมูลที่โปร่งใส ถ้าไม่เริ่มต้นทำให้โปร่งใสแล้วจะคาดหวังว่าในอนาคตจะใสสะอาดก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะเริ่มต้นจากความไม่สุจริต เพราะคนที่อยากเข้ามาทำ แต่ระบบกลับไม่ให้ใช้ระบบที่แข่งขันกันทางธุรกิจ แต่ใช้วิธีมาขอใบอนุญาต ที่มันเป็นวิธีทางการเมือง ที่มันไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้เกิดข่าวอื้อฉาวทางการเมือง แล้วรัฐบาลจะเสียหาย ประเทศก็เสียหาย

เมื่อถามว่า การให้ใช้ระบบขอใบอนุญาต เปิดช่องให้มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะได้ นายสังศิต กล่าวว่า มากกว่าการเปิดประมูล ที่ผ่านมา ได้ย้ำเสมอว่าเรื่องการเปิดกาสิโน ต้องเริ่มต้นให้สุจริตโปร่งใส หากไม่โปร่งใส ประเทศจะเสียหายมาก

นายสังศิต กล่าวอีกว่า การที่มีการเขียนไว้ในร่างพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรว่า บริษัทที่จะทำธุรกิจดังกล่าวได้ต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนซึ่งมีทุนชำระแล้ว ไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท มองว่า การล็อคไว้แบบนี้ ก็เป็นการจำกัดคนที่จะเข้ามา คิดดูว่านักธุรกิจเมืองไทย ที่มีเงินหมื่นล้านแรกจะมีกี่คน กี่ตระกูลที่จะทำได้ วิธีการแบบนี้ ทำให้นักธุรกิจไทยที่พอจะทำอะไรได้ เขาไม่มีโอกาสเลย มันเหมือนกับคล้าย ๆไปกำหนดสเปกให้คนไม่กี่คนได้ใบอนุญาตยิ่งการไม่ให้มีการประมูลแข่งขันด้วยแล้ว ก็ทำให้ยิ่งหมดโอกาส ส่วนว่ากลุ่มทุนต่างชาติที่ทำธุรกิจกาสิโนในต่างประเทศจะเข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรในไทยหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า ประเทศไทยเป็นที่สนใจของกลุ่มบริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจกาสิโนเกือบทั้งโลก เพราะเขาเห็นศักยภาพมานานแล้วว่าหากไทยทำ เราน่าจะชนะกลุ่มประเทศในอาเซียนที่มีกาสิโนได้ทั้งหมด แต่ว่ามันต้องโปร่งใสและสุจริต

นายสังศิต ยังมองด้วยว่า การที่จะให้มีการเปิดกาสิโนได้ถึงสิบแห่ง หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ ตามข้อเสนอจากบางฝ่ายนั้น สิบแห่งถือว่าเยอะเกินไป เพราะไทยเรายังไม่มีประสบการณ์ในการเปิดกาสิโน จึงต้องดูด้วยว่าเมื่อเปิดแล้วมีผลกระทบด้านลบกับสังคมอย่างไรบ้าง เพราะยังไง มันก็ต้องมีผลกระทบเกิดขึ้นแน่ จึงต้องมาทำการเขียนระเบียบต่างๆ ป้องกันปัญหา แต่ถ้าให้เปิดกาสิโนทีเดียวสิบแห่งพร้อมกันหมด มันจะเกิดโกลาหลกันทั้งประเทศ คิดว่าอย่างมากที่สุดควรให้เปิดแค่ไม่เกินสองแห่งภายในยี่สิบปี เพราะกาสิโนไม่ได้อยู่ได้ตลอดไป ตอนหลังคนที่ไปเล่นจะน้อยลง คนจะเล่นผ่านออนไลน์มากขึ้น หากไปให้เปิดเยอะแยะ จะกลายเป็นกาสิโนร้างได้ เวลาผ่านไปสิบปี-ยี่สิบปี พฤติกรรมคนมันเปลี่ยนแปลงได้ ไปดูได้ อย่างตอนนี้ กาสิโน หลายแห่งในยุโรปคนไม่เข้าไปเล่นในกาสิโนเหมือนเดิมแล้ว

“ผมคิดว่ารัฐบาลต้องเปิดใจ เปิดหู รับฟังเสียงสะท้อนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในเรื่องนี้ด้วยความตั้งใจ อย่าไปเห็นว่าเป็นแค่เสียงนกเสียงกาเพราะทุกคนเป็นเจ้าของประเทศเหมือนกัน หากเขาไม่เห็นด้วย รัฐบาลก็ควรรับฟัง ซึ่งอะไรปรับแก้ได้ก็ควรปรับแก้ เช่นเรื่องการไม่ให้มีการเปิดประมูลอย่างโปร่งใส แต่กลับให้ใช้เป็นการออกใบอนุญาต ระบบนี้มันเป็นระบบโบราณ มันไม่โปร่งใส อย่าทำเลย” นายสังศิตกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.สังศิต' แพร่บทความ เบื้องหลังความสำเร็จของ 'Deepseek' ที่ไม่มีใครบอก

รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)เผยแพร่บทความเรื่อง เบื้องหลังความสำเร็จของ Deepseek ที่ไม่มีใครบอก มีเนื้อหาดังนี้

‘สังศิต’ แพร่บทความ ‘อย่าปลุกปีศาจการพนันให้ตื่น’

นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย เผยแพร่บทความเรื่อง “อย่าปลุกปีศาจการพนันให้ตื่น”

'ลุงป้อม' นั่งหัวโต๊ะ พปชร. ค้านกาสิโน 'ปิยะ' ชำแหละหมกเม็ดให้อำนาจบอร์ดมากเกิน

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรค พปชร. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการคัดค้านการให้ใบอนุญาตการมีบ่อนกาสิโน

'ดร.สังศิต' แพร่บทความ 'ปีศาจพนันแห่งเมืองฟ้าอมร' ตามหลอกหลอนถึงไทยแล้ว

รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย ธุรกิจใต้ดิน มาหลายสิบปีตั้งแต่สมัยเป็นผอ.ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และทำวิจัยเรื่องการเปิดกาสิโนในประเทศไทย เพยแพร่บทความ เรื่อง ปีศาจพนันแห่งเมืองฟ้าอมร มีเนื้อหาดังนี้

อดีตสว. ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแก้ปัญหาอัลไพน์ เตือนจ่ายเยียวยาอาจผิดจริยธรรม

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เขียน จดหมายเปิดผนึกถึง นายกรัฐมนตรี (ฉบับที่4) เรื่อง ข้อเสนอแก้ปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์และหมู่บ้านจัดสรร โอนคืนวัดธรรมิการามเพื่อเป็นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย และการจ่ายเงินเยียวยาที่อาจเข้าข่ายประโยชน์ทับซ้อนหรือผิดกฎหมาย

ทนไหวหรือไม่! 'จตุพร' ถามใจพี่น้องคนไทยเอาไง เมื่อสมุนทักษิณเร่งดันบ่อนกาสิโน

คนไทยเอาไง! ทนไหวหรือไม่ เมื่อสมุน“ทักษิณ”คนกร่าง เร่งตีปี๊บตั้งบ่อนคาสิโน ดันพนันออนไลน์ถูก กม. ทำไทยเป็นแหล่งธุรกิจสีเทาฟอกเงิน หวังฮุบผลประโยชน์มหาศาล “จตุพร” ลั่นคนไทยควรสำแดงพลังต้าน เริ่มที่แพทยสภาเล่นงานป่วยทิพย์ ปปช.ขานรับไต่สวนชั้น 14 เชื่อ