29 เมษายน 2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความในรูปแบบถาม-ตอบ เรื่อง อำนาจศาลยุติธรรม ใน "คดีไต่สวนชั้น 14" มีเนื้อหาดังนี้
ถาม วันที่ ๓๐ เมษายน นี้ ศาลยุติธรรมจะทำอะไรกับคดีชั้น ๑๔ ของทักษิณ
ตอบ กรมราชทัณฑ์ ได้รับหมายจากศาลให้จำคุกทักษิณ ๑ ปี วันที่ ๓๐ นั้นเป็นวันที่ศาลจะสั่งคำร้องของคุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่ร้องต่อศาลว่าทักษิณไม่ได้ติดคุกจริงตามหมายศาล แม้คำร้องนี้จะไม่มีกฎหมายรองรับสิทธิคุณชาญชัยก็ตาม แต่ถ้าศาลเห็นด้วยว่ามีมูล ศาลก็เห็นสมควรสั่งไต่สวนได้เองตามอำนาจที่มีอยู่แล้ว
ถาม ในกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาผมไม่เห็นมีบทบัญญัติรองรับอำนาจไต่สวนนี้ของศาลเลยครับ
ตอบ นี่คือปัญหากฎหมายข้อแรก ที่ศาลจะต้องอธิบาย ซึ่งผมเห็นว่าเมื่อการจำคุกทำโดยอำนาจศาล ศาลย่อมมีอำนาจตรวจสอบว่าได้มีการทำตามหมายของศาลหรือไม่ หากผิดพลาดศาลก็มีอำนาจสั่งราชทัณฑ์ให้ทำให้ถูกต้องได้เสมอ
ถาม ในการตรวจสอบครั้งนี้ศาลจะยึดกฎหมายฉบับใดเป็นฐาน จะยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ( ป.วิอาญา ) หรือตามกฎหมายราชทัณฑ์ครับ
ตอบ ศาลต้องยึดทุกอย่างที่เป็นกฎหมาย ถ้ากฎหมายทั้งสองขัดแย้งกันในเรื่องใด ศาลก็ต้องวินิจฉัยเองว่ากฎหมายใดใช้บังคับได้ ดังปรากฏข้อพิจารณาไปโดยลำดับ ดังนี้
ปัญหาการนับระยะเวลาคุมขัง
ถาม นักโทษเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลนอกเรือนจำ อย่างกรณีทักษิณนอนชั้น ๑๔ รพ.ตำรวจนี้ ถ้าศาลออกหมายขัง ๑ ปี แล้วทักษิณนอนมาหกเดือนแล้ว ขอถามว่าเวลานอนป่วย ๖ เดือนนี้ เราจะนับเป็นเวลาคุมขังหรือไม่ครับ
คำตอบจากกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ตอบ ปี ๒๕๕๐ รัฐสภาตรากฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๔๖ ระบุไว้ว่า
มาตรา ๒๔๖ เมื่อจำเลย สามี ภริยา ญาติของจำเลย พนักงาานอัยการผู้บัญชําการเรือนจำ หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจำคุกร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป ในกรณีต่อไปนี้
(๑) เมื่อจำเลยวิกลจริต
(๒) เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
(๓) ถ้ําจำเลยมีครรภ์
(๔) ถ้ําจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงสามปี และจำเลยต้องเลี้ยงดูบุตรนั้น
ในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้นศาลจะมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวอยู่ในความควบคุมในสถานที่อันควรนอกจากเรือนจำหรือสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมายจำคุกก็ได้ และให้ศาลกำหนดให้เจ้ําพนักงานผู้มีหน้าที่ จัดการตามหมายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่และรับผิดชอบในการดำเนินการตามคำสั่ง
ลักษณะของสถานที่อันควรตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องกำหนดวิธีการควบคุมและบำบัดรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของจำเลย และมาตรการเพื่อป้องกันการหลบหนี หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นด้วย
เมื่อศาลมีคำสั่งตามวรรคหนึ่งแล้ว หากภายหลังจำเลยไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือมาตรการตามวรรคสาม หรือพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้ศาลมีอำนาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งหรือให้ดำเนินการตามหมายจำคุกได้ ให้หักจำนวนวันที่จำเลยอยู่ในความควบคุมตามมาตรานี้ ออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา
ด้วยความตามมาตราข้างต้น การนำนักโทษไปรักษาตัวนอกเรือนจำต้องทำโดยคำสั่งศาล และจะถือระยะเวลานี้เป็นเวลาที่ถูกคุมขังไม่ได้ เพราะเป็นเพียงการทุเลาไม่บังคับตามหมายด้วยเหตุเจ็บป่วยเท่านั้น
ถาม หมายความว่า หาก ผบ.เรือนจำกับ รพ.ตำรวจ เห็นว่าต้องรับตัวทักษิณไว้รักษา ด้วยเหตุจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ก็ต้องรับไว้ให้นอนโรงพยาบาลก่อน แล้วรีบขอคำสั่งศาลให้อนุมัติและทุเลาการลงโทษใช่ไหมครับ
ตอบ ครับ พอศาลสั่งแล้ว ทักษิณก็นอนต่อไปตามเดิม แต่การนับโทษจะหยุดนับทันที หายดีเมื่อไหร่ก็กลับเข้าเรือนจำแล้วเริ่มนับโทษที่เหลือต่อไป
ถาม หากถือหลักว่านักโทษติดคุก “ต้องติดจริงๆและติดให้ครบ”อย่างนี้แล้ว ในเมื่อวันนี้ทักษิณยังไม่ติดคุกเลย ศาลก็ต้องจัดการให้กลับไปติดให้ครบ ๑ ปี ใช่ไหมครับ ส่วนเรื่องป่วยจริงหรือไม่นั้น ก็ไม่ใช่ประเด็นในคดีอีกต่อไป
ตอบ ยังไม่แน่ครับ เพราะวันนี้ยังมี พรบ.ราชทัณฑ์ ให้คำตอบไว้อีกอย่าง
คำตอบจาก พรบ.ราชทัณฑ์ ๒๕๖๐
มาตรา ๕๕ พรบ.ราชทัณฑ์ ๒๕๖๐
ในกรณีที่ผู้ต้องขังป่วย มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต หรือเป็นโรคติดต่อ ให้ผู้บัญชาการเรือนจำดำเนินการให้ผู้ต้องขังได้รับการตรวจจากแพทยโดยเร็ว หากผู้ต้องขังนั้นต้องได้รับการบำบัดรักษาเฉพาะด้าน หรือถ้าคงรักษาพยาบาลอยู่ในเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ส่งตัวผู้ต้องขังดังกล่าวไปยังสถานบำบัดรักษาสำหรับโรคชนิดนั้นโดยเฉพาะ โรงพยาบาล หรือสถานบำบัดรักษาทางสุขภาพจิต นอกเรือนจำต่อไป ทั้งนี้หลักเกณฑและวิธีการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ระยะเวลาการรักษาตัว รวมทั้งผู้มีอำนาจอนุญาต ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ
ในกรณีที่ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำตามวรรคสอง มิให้ถือว่าผู้ต้องขังนั้นพ้นจากการคุมขัง และถ้าผู้ต้องขังไปเสียจากสถานที่ที่รับผู้ต้องขังไว้รักษาตัว ให้ถือว่ามีความผิดฐานหลบหนี ที่คุมขังตามประมวลกฎหมายอาญา
ถาม แสดงว่า กฎหมายราชทัณฑ์ มาตรา ๕๕ วรรคสอง ถือว่าการรักษาตัวของทักษิณที่ชั้น ๑๔ นั้นมีฐานะเป็นการคุมขัง ดังนั้นเวลา ๖ เดือนที่นอนชั้น ๑๔ จึงนับว่าทักษิณได้ต้องโทษมา ๖ เดือนแล้ว อย่างนั้นหรือ
ตอบ เป็นเช่นนั้นครับ เห็นได้เลยครับว่า เรื่องนับเวลานี้ทั้ง ป.วิอาญา และ พรบ.ราชทัณฑ์บัญญัติขัดกันชัดเจน และต่างก็เป็นกฎหมายระดับ พรบ.เหมือนกัน มีศักดิ์เท่ากัน เสียด้วย กรณีจึงเกิดปัญหาว่าเราจะต้องใช้กฎหมายใดเป็นฐานในคดีนี้
สำหรับผมเองเห็นว่า พรบ.ราชทัณฑ์ บัญญัติขึ้นมาภายหลัง ดังนั้นต้องถือว่ารัฐสภาได้ยกเลิก มาตรา ๒๔๖ แห่ง ป.วิอาญาไปแล้ว ถ้ามองอย่างนี้ ศาลอาจถือมาตรา ๕๕ นี้เป็นฐานกฎหมายในคดีก็ได้
ถาม ถ้าคิดจะเอามาตรา ๕๕ เป็นหลัก องค์คณะผู้ไต่สวนอาจต้องขอให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตัดสินปัญหานี้ก่อนหรือไม่
ตอบ เป็นไปได้อย่างยิ่ง
ถาม ถ้าในที่สุดก็ลงเอยกันที่มาตรา ๕๕ อย่างนี้ ศาลก็ต้องไต่สวนต่อไปว่าป่วยจริงหรือไม่ ใช่ไหมครับ
ตอบ ครับ ต้องตรวจสอบหมด ว่ากระบวนการอนุญาตผ่านขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ ทั้งการตรวจและให้ความเห็นของหมอราชทัณฑ์ในชั้นส่งตัว ทั้งการตรวจและให้ความเห็นของหมอโรงพยาบาลตำรวจว่าจำเป็นต้องรับไว้รักษา จนมาถึงคำสั่งอนุญาตของ ผบ.เรือนจำในที่สุด
ถาม ถ้าพบว่าไม่ถูกต้อง ไม่มีการตรวจและให้ความเห็นเช่นที่ควร คือหน้าด้านส่งไปนอนดู NETFIX บนชั้น ๑๔ กันดื้อๆเลย เช่นนี้ผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร
ตอบ ก็หมายความว่า เวลา ๖ เดือนที่อยู่ชั้น ๑๔ นั้น จะนับเป็นเวลารักษาตัวนอกเรือนจำตามมาตรา ๕๕ วรรคแรกไม่ได้ เมื่อเข้าวรรคแรกไม่ได้ก็ถือเป็นเวลาคุมขังตามวรรคสองไม่ได้ กรณีจึงสรุปได้ว่าทักษิณไม่เคยติดคุกตามหมายศาลเลย ศาลต้องสั่งให้จับตัวไปคุมขังจริงๆต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่มีหน้าที่ทำตามหมายศาล ก็โดนละเมิดอำนาจศาลตามไปด้วยอีกคำสั่งหนึ่ง
ถาม แล้วความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ล่ะครับ
ตอบ ทางอาญาก็เป็นเรื่องของ ปปช. ทางจรรยาแพทย์ก็เป็นเรื่องของแพทยสภา ว่ากันตามช่องทางต่างๆของกฎหมายต่อไป
ถาม ถ้าจบลงอย่างนี้ ภายหน้าควรมีการแก้ไขกฎหมายอย่างไรหรือไม่ครับ
ตอบ สภาควรยกเลิก ป.วิอาญา มาตรา ๒๔๖ ให้ชัดเจนไปเลยว่าใช้บังคับไม่ได้แล้ว แล้วเพิ่มเติมลงไปในกฏกระทรวงด้วยว่า ทุกครั้งที่มีการรักษานักโทษนอกเรือนจำแบบนี้ ให้กรมราชทัณฑ์รายงานพร้อมหลักฐาน ให้ศาลผู้ออกหมายจำคุกได้ทราบและมีอำนาจสอบถามไต่สวนได้ทุกครั้งด้วย ราษฎรธรรมดาจะได้ไม่ต้องสวมบทพลเมืองดี มาดิ้นรนกระเสือกกระสนร้องศาลกันเองแบบนี้อีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สมศักดิ์' ระวัง! ไม่อยากติดคุก อ่านข้อบังคับแพทยสภาให้ดี
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "คุณสมศักดิ์ต้องอ่านถ้าไม่อยากติดคุก" โดยระบุว่า ผมอยากให้คุณสมศักดิ์
ศาลสั่งเบรก‘ทวี’ ‘ทักษิณ’กระอัก!
หากเปรียบเป็นสงครามตัวแทนระหว่าง สีแดง และ สีน้ำเงิน โดยมีคดีฮั้ว สว.เป็นเดิมพัน สถานการณ์ฝั่งพรรคภูมิใจไทยเหมือนจะเสียท่าพรรคเพื่อไทย เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเกมรุก ติดหมายเรียก 53 สว. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้ว สว.
“อิสรภาพ ... ด้วยปัญญา” เนื่องในวิสาขบูชาโลกที่นครปูเน่ อินเดีย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. การเกิดมาได้ฐานะอันสามารถพัฒนาให้เข้าถึงความประเสริฐได้ นับเป็นสาระอันยิ่งใหญ่ ด้วยเป็นสิ่งที่ได้โดยยาก ดังคำกล่าวที่ว่า.. กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ
'ดิเรกฤทธิ์' ชี้หากราชทัณฑ์ไม่มีหลักฐานชัดๆ ปมชั้น 14 จะมีคนผิดรับโทษหลายคนต่างกรรมต่างวาระ
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย
แก๊งชั้น14ดิ้นยื้อมติแพทยสภา
เทวดาชั้น 14 แผลงฤทธิ์ระนาว “อดีตแพทย์ใหญ่” รพ.ตำรวจร้อนตัวหนักส่งทนายยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม
'นันทิวัฒน์' ย้อนนายกฯ ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว เสียดายโอกาสศาลไม่ให้ 'ทักษิณ' ไปพบ 'ทรัมป์'
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงว่า