อดีตรมว.คลังเผยข่าวดี สหรัฐกับจีนสามารถตกลงกันได้ ในเรื่องภาษีทรัมป์

13 พ.ค.2568- นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า ข่าวดีดีลภาษี สหรัฐกับจีนสามารถตกลงกันได้ ในเรื่องภาษีทรัมป์

ในห้วงเวลา 90 วัน ภาษีที่สหรัฐคิดจากจีน จาก 145% จะลดเหลือ 30% ภาษีที่จีนคิดจากสหรัฐ จาก 125% จะลดเหลือ 10%
และจีนจะพิจารณาลดมาตรการตอบโต้ ที่จีนประกาศตั้งแต่ 2 เม.ย.

ตรงนี้ ไม่แน่ชัดว่า จะมีการผ่อนคลาย การส่งออกแร่หายาก rare earth หรือไม่ และยังไม่มีข้อมูล เรื่องเก็บภาษีสำหรับพัสดุมูลค่าต่ำ de minimis package

ข่าวนี้ โลกหายใจโล่งอก เพราะกำแพงภาษีเดิม 145% กับ 125% กำลังจะกดดันเศรษฐกิจอันดับหนึ่ง และอันดับสอง ให้อ่อนลง
ซึ่งย่อมจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลก ชะลอตัวลงไปด้วย

หมากนี้เป็นการแสดงพลังของจีน ไม่ยอมถูกบีบ และชี้ชัดว่า เศรษฐกิจสหรัฐต้องพึ่งจีนอย่างมาก

ในด้านซัพพลายเชน ถ้าเจรจากันไม่ได้ การผลิตหลายอุตสาหกรรมในสหรัฐจะสะดุด ในด้านสินค้าคอนซูเมอร์ ถ้าเจรจากันไม่ได้ สินค้าจะขาดตลาด ชั้นในร้านค้าปลีกจะว่าง ราคาจะสูงขึ้น ทั้งสองกรณี จะกระทบฐานเสียงของพรรครีปับลิกัน ในเลือกตั้ง mid term ปลายปีหน้าสำหรับจีน ปัญหาก็เบาลง โรงงานที่ต้องปิดตัว คนที่ต้องตกงาน จะมีน้อยลง แต่จะมีผลต่อหมากการเมืองโลกด้วย

เดิมทรัมป์ขู่หลายครั้ง ใครซื้อน้ำมันจากอิหร่าน และจากเวเนซูเอลา จะโดนภาษีนำเข้าอย่างหนัก ซึ่งจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ จากทั้งสองประเทศเช่นเดียวกับคำขู่ว่า ประเทศใดเป็นปฏิปักษ์ ถ้าหาทางแยกออกจากการใช้ดอลลาร์ จะโดนภาษีนำเข้าอย่างหนัก ซึ่งจีนได้พัฒนาระบบชำระเงิน ดิจิทัลหยวน

ต่อไปนี้ คำขู่ของทรัมป์ในเรื่องนี้ คงจะต้องเก็บเอาไว้ก่อน รูปข้างล่าง แสดงชัดเจนว่า ตลาดจีนมีความสำคัญเพียงใด บริษัทใน S&P 500 มีรายได้จากจีนปีละ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ เทียบกับสหรัฐขาดดุลการค้า 3 แสนล้าน รายได้คิดเป็น 4 เท่าของขาดดุลการค้า ดังนั้น ถ้าการค้าสองประเทศเดินหนีจากกัน ตลาดหุ้นสหรัฐจะถูกกระทบ

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ข้อตกลงครั้งนี้ เป็นข่าวดีต่อตลาดหุ้น รวมทั้งข่าวดีที่จะตามมาอีก ในเรื่องเครื่องบินโบอิ้ง การซื้อถั่วเหลือง การซื้อเนื้อหมู
แต่ก็มีความเสี่ยงต่อตลาดทุน รออยู่ในเดือน มิ.ย./ก.ค. ด้วยปัจจัยต่อไปนี้

1 ภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับทุกประเทศ และสูงกว่านั้นสำหรับบางประเทศ บวกกับ 30% สำหรับจีน ย่อมทำให้เศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลกชะลอลง

2 ประเทศต่างๆจะเกินดุลการค้าน้อยลง ดังนั้น ดอลลาร์จะอยู่ในมือประเทศเหล่านี้น้อยลง ในขณะที่สหรัฐต้อง rollover พันธบัตรมากกว่า 8 ล้านล้านดอลล่าร์ ต่างชาติจะมีกำลังซื้อน้อยลง

3 เมื่อต่างชาติซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐน้อยลง ดอกเบี้ยระยะยาวจะขยับสูงขึ้น จะกดดันราคาหุ้นนางฟ้า 7

4 ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องภาษีสำหรับพัสดุมูลค่าต่ำ de minimis package ปริมาณธุรกิจด้านนี้จะหายไปเกือบหมด

5 เมื่อปริมาณธุรกิจหายไป พ่อค้ารายย่อยในสหรัฐ ที่ขายสินค้าจากพัสดุมูลค่าต่ำ de minimis package ก็อยู่ไม่ได้ จะต้องปลดคนงาน

6 การโฆษณาเพื่อขายออนไลน์ ที่มีสินค้าจากพัสดุมูลค่าต่ำ de minimis package เป็นแกน ก็จะหยุดลง จะกระทบรายได้ของนางฟ้า

7ดังนั้น นักลงทุนจึงจำเป็นต้องวางแผนรอบคอบ.