
8 ก.ค. 2568- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำให้ประเทศตกอยู่สถานการณ์แย่ ๆ รอบด้านทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และล่าสุดต้องเผชิญหน้าภาวะแย่ๆ กับกำแพงภาษีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เรียกเก็บจากไทย 36 % ตามเดิม เพราะส่งทีมไทยแลนด์ภายใต้การนำของนายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ไปเจรจาไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร กล่าวถึงสถานการณ์รายรอบรัฐบาล โดยเชื่อว่า ถ้ามีเหตุการณ์ทำให้นายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ไปต่อไม่ได้ และไม่คิดจะคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการยุบสภา ดังนั้น เขาต้องคิดยื้ออำนาจต่อไป โดยคงถึงคิวนายชัยเกษม นิติสิริ ตัวเลือกนายกฯ คนที่สามของพรรคเพื่อไทย ซึ่งโชว์ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ สุขภาพแข็งแรง โรคภัยที่เคยเจ็บออดๆ แอดๆ หายเป็นปริทิ้ง พร้อมประกาศจะเป็นนายกฯ ยึดความถูกต้อง ไม่อยู่ใต้คำสั่งหรือการครอบงำของใครที่ให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“การเปิดตัวยิ่งใหญ่ของนายชัยเกษม มี 2 อย่างคือ รู้ว่าจะไม่ได้เป็นนายกฯ หรือมีคนบอกให้พูดแบบนี้ เพราะอยู่ดีๆ มาพูดทายท้าแบบนี้แสดงว่า ไม่ประสงค์จะเป็นนายกฯ เลย หรือมีใครบอกให้มาแสดงตีบทให้แตก ถึงกับบอกไม่มีใตรสั่งได้ พูดจริงหรือเปล่า ถ้าพูดได้ขนาดนี้แล้วได้เป็นนายกฯ ก็สงสัยเลย”
อีกทั้งกล่าวว่า ในอนาคตอุ๊งอิ๊งต้องเผชิญกับวิกฤต 2 คดีของทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อ คือ ศาลฎีกานักการเมืองไต่สวนคดีชั้น 14 ถ้าส่อแนวโน้มจะมีคำสั่งเป็นลบแล้ว และหากศาลสั่งให้กลับไปอยู่เรือนจำหรือหนีออกนอกประเทศอีก ย่อมสะท้อนถึงอำนาจการเมืองของอุ๊งอิ๊งคงสิ้นสุดลงเช่นกัน
นายจตุพร กล่าวว่า การไต่สวนของศาลนักการเมืองนั้น ยิ่งซักถามพยาบาลเวรในเรือนจำ และได้รับคำชี้แจงว่า ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงเพื่อรอส่งทักษิณ ที่มีอาการป่วยกำเริบ แน่นหน้าอก หายในลำบากไป รพ.ตำรวจ โดยไม่ยอมส่งตัวไป รพ.ราชทัณฑ์ อยู่ใกล้กันก่อน จึงแสดงถึงความผิดปกติอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ทักษิณยังมีคดี ม.112 ในศาลอาญาอีก 4 นัดที่พยานฝ่ายจำเลยขึ้นให้ปากคำ เพราะซักพยานฝ่ายโจทก์เสร็จแล้ว ดังนั้น ยิ่งทำให้เกิดแรงกดดันในแต่ละสถานการณ์เต็มไปหมด ซึ่งประชาชนคงเฝ้าจับตา เพื่อรักษาศาลสถิตยุติธรรมไว้ให้เป็นหลัก เป็นที่พึ่งของบ้านเมือง
ส่วน พรบ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือบ่อนกาสิโน โดยพรรคเพื่อไทยจะถอนออกจากการพิจารณาของสภานั้น นายจตุพร กล่าวว่า เวลาอยากได้ก็โหมโฆษณาเอาจริงเอาจัง แต่เวลาจะถอนก็ไม่คิดชีวิตเหมือนกัน และเป็นอาการไม่แตกต่างจากกรณีกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยเช่นกัน
“แม้ประธานวิปรัฐบาลแถลงจะถอน (กฎหมายบ่อนกาสิโน) ออกจากสภาวันที่ 9 ก.ค.นี้ แต่เชื่อไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยหลอกมาตลอด จนไม่เหลืออะไรให้เชื่อถือแล้ว ทั้งที่กระทรวงการคลังเพิ่งจัดงานอีเวนต์ หมดเงินไปทำไม เวลาจะเอาก็เลื่อนมาพิจารณาวาระหนึ่งให้ได้ ใครขวางว่าอย่างไงก็ไม่ยอม แต่เวลาถอยก็ไม่เป็นท่าอีก”
พร้อมทั้งกล่าวว่า พรบ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยล้วงหน้าไปเปิดประตูให้เป็นสถานที่ทำบ่อนกาสิโนได้ ดังนั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยถอนกฎหมายบ่อนกาสิโน แล้วจะแก้ไขกฎหมายท่าเรือฯ ในชั้นกรรมาธิการไม่ให้นำไปทำภาระกิจอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการท่าเรือหรือไม่ หากไม่แก้ไขอาจคิดวางแผนนำไปทำกิจการอื่นอีก นอกจากนี้โครงการแลนด์บริดจ์ ที่ให้นักลงทุนเช่าที่ดิน 3 แสนไร่จะเอาอย่างไงต่อด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการที่ประชาชนไม่สบายใจทั้งหลายนั้น พรรคเพื่อไทยจะประกาศถอนออกไปทั้งหมดหรือไม่ ไม่เพียงเท่านั้น โครงการต่างๆ ที่เคยหาเสียงไว้จะทำทันที จะทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะโครงการหนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟพาวเวอร์ รมว.ยุติธรรมคนใหม่จะเอาอย่างไร และงบประมาณ 5 พันล้านที่ใช้หายไปกับซอฟพาวเวอร์แล้ว ต้องอธิบายมาว่า เอาไปทำอะไรบ้าง
“เงิน 5 พันล้านมันเยอะมาก และควรทำอะไรที่ประชาชนเห็นได้ด้วยตาเปล่า แล้วมีความรู้สึกว่า ใช้เงินจำนวนดังกล่าวได้คุ้มค่า แต่ไม่เห็นเลย หรือการจะเติมเงินให้ครอบครัวเดือนละ 2 หมื่นก็ไม่เห็น ส่วนทำทันทีทั้งน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้าก็ไม่ได้ทำ และค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำได้ 2 สายที่มีลักษณะเอื้อเอกชนด้วย สิ่งเหล่านี้มีผลประโยชน์ที่น่าสงสัยกันอย่างยิ่ง”
นอกจากนี้ แจกเงินหมื่นบาทคงไม่มีอนาคตแล้ว ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 ในปี 70 ก็คงไม่มีวันจะไปถึง รวมถึงเงินปริญญาตรีจบใหม่ 25,000 บาทต่อเดือน โอกาสที่จะทำได้ก็ยากกับเวลากินเปล่าช่วงที่ผ่านมา ซึ่งล้วนหลอกประชาชนในช่วงหาเสียงทั้งสิ้น
ส่วนกำแพงภาษีทรัมป์นั้น บางประเทศเจรจาเป็นที่ยุติแล้ว แต่ไทยไปเจรจาเพื่อสรุปจะนัดเจรจากันต่อไป ทั้งที่จ้างล็อบบี้ยิสต์เป็นเงินร้อยล้านบาท แล้วผลลัพธ์คืออะไร (ล่าสุดทรัมป์โชว์จดหมายแจ้งกำแพงภาษีไทย 36% ตามเดิม มีผลตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้) แต่ประเทศอื่นทำไมเจรจาได้เป็นผลดีให้กับประทศของเขา
“ดังนั้น ทุกเรื่องของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงเต็มไปด้วยปัญหา สิ่งสำคัญ รมว.ยุติธรรมยังเกร็งถึงขั้นยังไม่ส่งมอบคืนวัตถุโบราณของกัมพูชา ทั้งที่ต้องคืนเพราะเป็นของที่ถูกโจรกรรมมา (แล้วไทยจับกุมได้) ก็ต้องคืนเขาไป”
นายจตุพร กล่าวถึงการแก้ รธน. 60 ว่า ข้อเสนอเดิมของพรรคประชาชนที่คิดการใหญ่ไว้แต่เดิมให้ตั้งสมาชิกสภาร่าง รธน. (สสร.) และทำประชามติ แต่ระหว่างทางกลับยื่นแก้ไขศาล รธน.และองค์กรอิสระ ให้มีที่มาจากรัฐสภา หรือมาจากนักการเมือง ดังนั้นคงอธิบายถึงความอิสระไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าแก้โดยตั้้ง สสร.แล้ว การยื่นแก้ไขเป็นรายมาตราคงต้องถูกทำใหม่อยู่ดี
อีกทั้งกล่าวว่า สภาพการณ์ของประเทศยังอยู่ในช่วงชุลมุน และไม่ได้อยู่ในการเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างถูกต้อง เพราะยังเดินตามระบบที่ล้มเหลว แต่สิ่งที่ต้องการจะเห็นคือ การกล้าตัดสินใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมาก่อนเป็นเรื่องๆ ไป เช่น ปราบคอร์รัปชั่น ดังนั้น ถ้าทำแต่ละเรื่อง คิดให้ตรงกับข้อเท็จจริงของแต่ละสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลาแล้ว จะยกระดับให้ประเทศแข็งแรงขึ้นตามวิถีทางที่ถูกต้องได้
นายจตุพร กล่าวถึงทักษิณ จะโชว์วิสัยทัศน์ซอฟพาวเวอร์ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ว่า ถ้าทักษิณ จะผ่าทางตันประเทศไทยแล้ว ต้องผ่าทางตันตัวเองให้รอดเสียก่อน เพราะตัวเองคือปัญหาของประเทศ และต้องรอดูว่า เมื่อพูดแล้วจะเป็นทางตันของประเทศหรือทางตันของทักษิณ
“การโชว์ผ่าทางตันประเทศในช่วงนี้ มันไม่ใช่ เหมือนเรือกำลังจะจมต่อให้แต่งตัวดีอย่างไรก็ตามคงฟื้นยาก ไม่รู้ว่าหลังจากพูดครั้งนี้แล้วจะเกิดผลสะท้อนกลับอะไรตามมา อย่างไรก็ตาม เราควรได้ยินเสียงผ่าทางตันของเขา (ว่าจะผ่าอย่างไรอีก)”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เอาแล้ว 'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้าน ระวังทำรัฐบาลพัง
'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้านระวังทำรัฐบาลพัง แนะน้ำท่วมใต้จากพายุชื่อเหมือนกันต้องเป็นธรรม ชดเชยเท่ากัน อย่าคิดแบบเขลาๆ แถเอาแต่สถานการณ์ฉุกเฉินมาอ้าง จะเกิดเหตุไม่พอใจ ลุกลามไปกันใหญ่
'จตุพร' แนะ แก้รธน.ต้องกินทีละคำอย่าเหลี่ยมคูกินทีละกะละมัง สุ่มเสี่ยงถูกคว่ำล้มครืนลง
'จตุพร' แนะการเมืองยึดมติ กมธ. ปมผ่านแก้ รธน.วาระสอง เตือนอย่าชิงเหลี่ยมคู ขอให้กินทีละคำอย่าโลภอยากกินทีละกะละมัง หวั่นถูกคว่ำจบเห่ ย้ำฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ดีกว่าซักฟอก 151 ชี้เวลาเหมาะอภิปรายช่วงสัปดาห์สุดท้าย มกรา 69 พูดเสร็จได้ยุบสภาเลย
'น้ำท่วมหาดใหญ่' เพิ่มเงื่อนไขซักฟอก 'อนุทิน'
นายเทพไท เสนพงศ์ โพสต์คลิปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า น้ำท่วมหาดใหญ่ เพิ่มเงื่อนไขซักฟอกอนุทิน
SCB EIC ชี้ปี69อุตฯอาหารทะเลไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงทั้งภาษีทรัมป์-แข่งขันรุนแรง
SCB EIC มองอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยในปี 2569 มีแนวโน้มเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านลบสูงขึ้น ทั้งจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ภาษีทรัมป์ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น


