‘จตุพร’ เชื่อกองทัพ-รัฐบาลมีแผนเด็ดผลักดันเขมรรุกล้ำดินแดน ขอประชาชนอดทน

11 ตุลาคม 2568 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเรียกร้องให้ประชาชนอดทนอดกลั้นกับการผลักดันกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยออกไป เพราะเชื่อว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงยังมีน้ำยาทางยุทธการ เพียงรอโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น

"ขอให้ประชาชนมีความอดทนกันพอสมควร เมื่อการขัดใจขัดความรู้สึกเกิดขึ้นในวันนี้ (10 ต.ค.) มากมาย แต่เชื่อว่า สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพพูดไม่ได้นั้น จะไม่คิดอ่านอะไรกัน บ้างครั้ง 100 คำพูดก็ไม่เท่าหนึ่งการกระทำหรอก"

อีกทั้งกล่าวว่า มาตรการผลักดันกัมพูชาออกจากรุกล้ำดินแดนไทยนั้น เชื่อว่าภายใน 7 วันตั้งแต่ 10 ต.ค.นี้ ฝ่ายความมั่นคงเตรียมมาตรการเข้มข้นชนิดเห็นหน้าเห็นหลังไว้ทำยุทธการกันแล้ว เพราะถ้าไม่ทำอะไรประชาชนอาจมีความรู้สึกเชื่อมั่นรัฐบาลและกองทัพลดน้อยลงและจะเป็นปัญหาใหญ่ด้านอารมณ์ของคนไทย

ดังนั้น ถัดจากวันที่ 10 ต.ค.ไป นั้น รัฐบาลจะปล่อยให้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นภาระทางอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนไม่ได้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีอะไรเลย อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆ ที่จะเป็นภารกิจตามแผนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำหนดไว้ภายใน 7 วันต่อไปนี้ หากรัฐบาลไม่ทำอะไร ก็อาจล้มลงชนิดคาดไม่ถึงเช่นกัน

"ขอให้ประชาชนอดทนอดกลั้นกับยุทธการของฝ่ายความมั่นคง และประชาชนอย่าได้เข้าไปร่วมปฏิบัติภารกิจทางการทหาร ส่วนความรู้สึกและการแสดงออกด้วยความรักชาตินั้นเป็นหน้าที่ของประชาชน ของคนไทย ดังนั้น ขอให้ประชาชนแสดงออกทางอารมณ์อยู่ในพื้นที่ของไทย" นายจตุพร ย้ำ

ส่วนการยกเลิก MOU 43-44 นั้น แม้เป็นช่องทางการเจรจากัน แต่ไร้การปฏิบัติแล้วไทยจะกอด MOU 43-44 ไว้ทำไม เมื่อเกิดการละเมิดและไทยไม่สามารถรักษาบูรภาพดินแดนได้ จึงเป็นข้อตกลงที่ล้มเหลว ก็ต้องฉีกข้อตกลงนี้เสีย เพื่อให้เกิดการเจรจากันใหม่กับข้อตกลงใหม่

นายจตุพร กล่าวถึงนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จะไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยว่า ในทางการเมืองกระแสนี้ไม่ใช่โคมลอย และมีความเป็นไปได้สูงถึง 80-90 % ซึ่งเท่ากับยกฐานะการเมืองให้นายวราวุธ ด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้านายสมศักดิ์ เทพสุทิน กับนายสุริยะ จึงรุ้งเรืองกิจ ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้ว นายสุริยะ มีโอกาสเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกคนหนึ่งได้ด้วย แต่ที่ผ่านมาทั้งสองคนนี้มักย้ายไปอยู่พรรคมีโอกาสเป็นรัฐบาลเสมอ

"ถ้าพรรคเพื่อไทยดึงนายวราวุธ (มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ) ไม่ได้สร้างความยิ่งใหญ่ให้พรรค เพียงเป็นสีสรร อีกอย่างบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ นครปฐมจะมาร่วมด้วยหรือไม่ ก็เป็นกระแสการเมืองให้ปั่นเล่นได้อีกแบบหนึ่ง"

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยถ้าจะยกเครื่องพรรคใหม่กันจริงๆ แล้ว ไม่ควรออกมาเปิดตัวด้วยสภาพทำนองนี้ และโพเดียมพูดของหัวหน้าพรรคก็เป็นแค่กระถางต้นไม้สมัยใหม่เท่านั้น หากต้องการยกเครื่องกันจริงก็ต้องเปลี่ยนตั้งแต่หัวหน้าพรรคเลย เพราะอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นำพรรคไปสู่ความเสียหาย

"ถ้าจะยกเครื่องจริง อุ๊งอิ๊งต้องขอโทษประชาชนกรณีตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว และบริหารประเทศก็นำนโยบายหาเสียงมาปฏิบัติไม่ได้จริง จนกระทั่งมาถึงเรื่องไทย-กัมพูชา ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องขอโทษประชาชน ส่วนเรื่องกับคนเสื้อแดงนั้น อะไรที่ประกาศแล้วทำไม่เป็นจริงต้องขอโทษเป็นที่สุด เพราะพวกเขาไปต่อสู้ให้ จนตาย บาดเจ็บ ติดคุกเป็นจำนวนมาก"

อีกทั้งกล่าวว่า ในทางการเมืองนับต่อนี้ไป พรรคเพื่อไทยไม่ง่ายที่จะกลับมายิ่งใหญ่ได้รับเลือกเป็นพรรคอันดับได้แล้ว โดยเชื่อว่า เลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อไทยจะได้รับเลือกน้อยลงกว่าเท่าตัวที่มีอยู่ขณะนี้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยอาจจะได้เสียง สส.เติบโตไปเป็นเท่าตัวเช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับไต๋กัมพูชาวางแผนลึก จ้องขยับหลักเขตแดนสุดท้ายทางบก หวังฮุบทรัพยากรพลังงานใต้ทะเล

‘พีระพันธุ์-พล.ท.กนก’ จับไต๋กัมพูชาวางแผนลึก จ้องขยับ ‘หลัก 73’ เปลี่ยนแนวเส้นเขตแดน หวังฮุบทรัพยากรพลังงานใต้ทะเล หนุนไทยเปิดเกมรุกตอบโต้อย่างเด็ดขาด ย้ำอธิปไตยชาติสำคัญกว่าทุกสิ่ง ยิ่งปล่อยยืดเยื้อยิ่งเจอศึกหนัก!

กังขา ‘อันวาร์-ประธานอาเซียน’ วางบทบาทเป็นกลางจริงหรือไม่

ฝ่ายปกครอง-ความมั่นคงกระทุ่มแบน ออกตรวจพื้นที่ช่วงตีสอง เจอสายปั่นมีพิรุธก่อนพบยาบ้า 186 เม็ดในกระเป๋า ขยายผลบุกค้นบ้านเจอซุกอีก 7,780 เม็ด ผู้ต้องหาหน้าถอดสี ยอมรับทั้งหมดเป็นของตนเอง

‘จตุพร’ ชี้การเดินสายพูดของ ‘บิ๊กกุ้ง’ ยังจำเป็นต่อการปลุกกระแสรักชาติ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเปราะบาง

ผบ.ทบ. เยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิดเขมรลอบวางที่ห้วยตามาเรีย

ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของหน่วยป้องกันชายแดนในพื้นที่ของกองทภ. 2 พร้อมเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ของหน่วยในพื้นที่

ทบ. ตรวจพบทุ่นระเบิด 'ช่องอานม้า' เพิ่มอีก 2 ทุ่น แบบ PMN-2 สภาพใหม่

ทบ. เผยยังคงตรวจพบทุ่นระเบิดต่อเนื่อง ล่าสุดในพื้นที่ช่องอานม้า พบอีก 2 ทุ่น ยืนยันเดินหน้ากวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนในเขตอธิปไตยไทย เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน