'บิ๊กตู่' แขวะบางคนชอบพูดแต่ปาก ถ้าง่ายอย่างนั้นคงทำไปนานแล้ว ไม่ต้องมีหนีคดีติดคุก

นายกฯ แขวะบางคนชอบพูดแต่ปาก ถ้าง่ายอย่างนั้นคงทำไปนานแล้ว ไม่มีต้องหนีคดีติดคุก ลั่น ต้องการให้ประเทศไทยเกิดความยั่งยืน ไม่ใช่ประเทศที่แตกแยก ทะเลาะเบาะแว้ง ตรงไหนเขารบกันก็ไปรบกับเขาด้วย

25 ก.พ.2565 - ที่ห้องภิรัชฮอลล์ 1-3 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เขตบางนา กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 1 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล” โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง แต่วันนี้เจอสถานการณ์โควิด 19 แม้ว่าไม่มีสถานการณ์โควิด รัฐบาลก็ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ตนต้องการให้ประเทศไทยเกิดความยั่งยืน ไม่ใช่ประเทศที่แตกแยก ไม่ใช่ประเทศแห่งความทะเลาะเบาะแว้ง ถ้าเป็นแบบนั้นจะแก้ไขอะไรไม่ได้สักอย่าง ตรงไหนเขารบกันก็ไปรบกับเขาด้วย ตรงไหนทะเลาะกัน ก็ไปทะเลาะกับเขาด้วย

"ถามว่าจะอยู่แบบนี้หรือ ขอให้ทุกคนคิดกันเสียบ้าง และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาด ผลกระทบของโรค บางส่วนถูกเลิกจ้าง ถูกหักเงินเดือน แม้รัฐบาลจะมีโครงการต่างๆเข้ามาช่วยเหลือ แล้วต้องถามว่าต้องใช้เงินชดเชยอีกเท่าไหร่ ไม่มีก็ต้องหาเงินให้จนมี แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือบอกว่ารัฐบาลไม่ดูแล ผมไม่เข้าใจหลักคิดของคนบางคนคืออะไร" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการผู้กู้เงินกยศ.ที่ไม่คืนเงิน ต้องไปดูว่ายืมมากี่ปี แล้วเพราะอะไรถึงไม่ชำระ มีปัญหาก็ต้องช่วยเหลือแก้ปัญหาให้แล้วคนที่ไม่มีปัญหาไม่ชำระไปหาตัวมาให้ดีก็แล้วกัน เงินทั้งหมดในวันนี้ไม่ใช่เงินของรัฐบาล เป็นเงินของประชาชนส่วนหนึ่งด้วย ต้องปรับกติกาให้ประชาชนใช้ได้ ไม่ว่าจะบริษัท รัฐวิสาหกิจอะไรต่างๆ ทุกคนต้องดูศึกษาด้วย คนบางคนพูดแต่ปาก และประชาชนก็เชื่อเขาไป อย่าไปเชื่อเขานัก ถ้าง่ายอย่างนั้นคงทำไปนานแล้ว ทำได้ไปนานแล้ว คงไม่มีต้องหนีคดีติดคุก

นายกฯกล่าวอีกว่า วันนี้เป็นมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ เพื่อลดการฟ้องร้อง ไอ้ประเภทฟ้องแล้วฟ้องอีกอยู่เนี่ย กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ฟ้องแล้วฟ้องอีก ประกันแล้วประกันอีก มันอะไรกัน ฟังกันอยู่ทำไม เจ้าหน้าที่เขาทำงานกันแทบตาย และเราต้องกลับมาดูสิ่งเก่าๆ หนี้สินปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาเหล่านี้มักจะมีปัญหาทุกครั้งกับการทำงานในแนวใหม่ ตนไม่ทราบว่าสาเหตุคืออะไร ต้องการกลับไปอยู่ในวังวนเดิมๆหรือเปล่า เพราะง่ายต่อการสร้างความชื่นชอบส่วนตัวทางการเมืองหรือเปล่า อย่าทำร้ายประชาชนอีกต่อไป

ก่อนที่จะหันไปถามนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ว่าเครียดเหมือนตนหรือไม่ ไม่ต้องมาเครียดกับตน ตนเครียดทุกเช้า สิ่งที่ตนพูดคือต้องพูดเสียบ้าง ถึงแม้ว่าใครจะให้เกียรติหรือไม่ให้เกียรติตน ตนไม่ชอบคำพูดว่า"โว" อะไรที่ดีและชี้แจงออกมาแต่ก็หาว่าโว โวคืออะไร คือขี้โม้ขี้คุยหรือไง เขาพูดเขาชี้แจงก็ฟังเสียงบ้าง ไม่เคยมีประเทศไหนที่สื่อไม่ให้เกียรติผู้นำอย่างประเทศนี้ ก่อนที่จะหันไปพูดกับพระสงฆ์ด้านหน้าว่า ตนขออนุโมทนาสาธุ และกำลังใช้ธรรมะข่มใจอยู่

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าในการกล่าวปาฐกถาครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างมีอารมณ์ และใช้เสียงดังเป็นระยะ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง