ขับเคลื่อนคุ้มครองผู้บริโภคในโลกออนไลน์ สสส.ผนึก19ภาคีและเอกชนจับมือเซ็นMOU

 ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับผู้บริโภคไทยในยุคดิจิทัล เมื่อสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ และภาคีเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคทั้งภาครัฐและเอกชน มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการในตลาดออนไลน์เมื่อวันที่15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

เพราะต้องยอมรับว่าตลาดสินค้าออนไลน์ในบ้านเรานั้นเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด โดยมีการสำรวจตลาดอีคอมเมิร์ซไทยพบว่าปี 2020 เติบโต 81% มูลค่า 294,000 ล้านบาทสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 220,000 ล้านบาท โดยเหตุผลการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยที่พุ่งแรงกว่าที่เคยคาดการณ์มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผลักดันให้คนไทยหันมาช้อปออนไลน์จนกลายเป็นความคุ้นเคย

เมื่อคนไทยช้อปปิ้งอยู่ในโลกออนไลน์หรือใช้ธุรกรรมทางคอมพิวเตอร์มากขึ้น การลงนามในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ จึงนับเป็นก้าวสำคัญของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ในการยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคไทยไปสู่มาตรฐานสากล

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)กล่าวว่า การทำธุรกิจออนไลน์เป็นการทำตลาดตรงกับผู้บริโภค ดังนั้นรูปแบบการสื่อสาร การโฆษณาชวนเชื่อ จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้บริโภค และผู้บริโภคไม่สามารถเห็นหรือสัมผัสสินค้าได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ที่สำคัญผู้ซื้อไม่สามารถรู้ตัวตนที่แท้จริงของผู้ขาย ถือเป็นความเสี่ยงของผู้บริโภคที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย การลงนามในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสสส. ซึ่งร่วมลงนามในฐานะพยาน1ใน8องค์กร เปิดเผยว่า ปัญหาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นอันตรายและการใช้ที่ไม่เหมาะสมจากการได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากการโฆษณาเกินจริง ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล ส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อขายผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านตลาดออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลสถานการณ์การคุ้มครองผู้บริโภคปี2562 โดยศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคผู้บริโภคด้านสุขภาพ พบผู้บริโภค มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพทางออนไลน์ถึงร้อยละ21.6โดยซื้อเครื่องสำอางมากที่สุด ร้อยละ78.0 รองลงมาคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ร้อยละ47.2 ที่สำคัญพบมีการสั่งซื้อยาที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาแผนปัจจุบัน ยาลดความอ้วน ยานอนหลับ มากถึงร้อยละ15.9 ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติยาพ.ศ.2510 เนื่องจากเป็นการซื้อขายยานอกสถานปฏิบัติการ ถือเป็นปัญหาที่นำไปสู่การผลกระทบต่อสุขภาพและสูญเสียค่าใช้จ่ายของประชาชน

ดร.สุปรีดาตอกย้ำว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการในตลาดออนไลน์ครั้งนี้ ถือเป็นพันธสัญญาความร่วมมือในการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาที่เกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นอันตรายในตลาดออนไลน์ โดย สสส. มุ่งเป้าพัฒนาระบบที่ทำให้ประชาชนซื้อขายสินค้าที่ปลอดภัย มีแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการในตลาดออนไลน์ อาทิ ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ต้องไม่ยินยอมให้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรืออาหารที่ไม่ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ที่เคยถูกยกเลิก หรือเพิกถอนทะเบียน หรือสั่งห้ามจำหน่าย พร้อมประกาศเตือนภัยผู้บริโภค เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีประวัติกระทำผิดซ้ำ รวมถึงจัดให้มีช่องทางการรับแจ้งกรณีพบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ปลอดภัยในตลาดออนไลน์ และดำเนินการปิดกั้นไม่ให้เกิดการซื้อขายสินค้าไม่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดกลไกประชาชนดูแลประชาชน มุ่งให้ประชาชนสามารถปกป้องตัวเองและสังคมได้

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า การร่วมกันทำข้อตกลงความร่วมมือการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการในตลาดออนไลน์ฉบับนี้มี21ข้อ อาทิ ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ปฏิบัติต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม โดยจัดทำระบบตรวจสอบร้านค้า สินค้า หรือบริการ ก่อนยินยอมให้มีการขายสินค้าหรือบริการนั้น ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ให้ความสำคัญกับการร้องเรียนของผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคสำหรับการซื้อ-ขายทางของออนไลน์ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ รวมถึงความปลอดภัยทางเศรษฐกิจดิจิตอลในอนาคตและช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว

นางสาวอภิญญา ตันทวีวงศ์ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ องค์กรด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและองค์กรภาคเอกชน ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์และหน่วยงานของรัฐด้านการคุ้มครองผู้บริโภค จะมาร่วมมือกันในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการETDA กล่าวว่า ภารกิจสำคัญที่ ETDA คือส่งเสริมให้การทำธุรกรรมทางออนไลน์ของประเทศมีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ ผู้ใช้บริการเกิดความเชื่อมั่น ผลักดันให้เกิดร่าง พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. …จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCCพร้อมจัดทำแนวปฏิบัติการกำกับดูแลกันเองระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ประกอบการที่ใช้ตลาดออนไลน์ เพื่อป้องกันปัญหาและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคได้อย่างทันสถานการณ์มากที่สุด ซึ่งได้จากการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน จนนำมาสู่การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการแจ้งร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ โฆษณาเกินจริง สอบถามได้ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 084-652-4607,089-788-9152หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เว็บไซต์ www.consumerthai.org หรือแจ้งปัญหาการซื้อขายออนไลน์ สายด่วนโทร.1212 และเว็บไซต์ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ www.1212occ.com

 

 

        บันทึกข้อตกลง 21 ข้อเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคทางออนไลน

  1. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะปฏิบัติต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม
  2. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะยึดมั่นความรับผิดชอบที่มีต่อผู้บริโภค
  3. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  4. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะปฏิบัติตามมาตรฐานของประเทศที่จำหน่ายสินค้าและบริการ
  5. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะยึดมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าและบริการ
  6. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะสื่อสารด้วยความซื่อสัตย์และตรงตามความเป็นจริง
  7. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะแสดงราคาอย่างโปร่งใส
  8. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะบันทึกประวัติการซื้อขายอย่างเหมาะสม
  9. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะมีทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถยกเลิกการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ
  10. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะให้ความสำคัญกับการร้องเรียนของผู้บริโภค
  11. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
  12. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะดูแลให้การชำระเงินออนไลน์มีความปลอดภัย
  13. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะหลีกเลี่ยงการส่งสแปมออนไลน์
  14. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะไม่สร้างรีวิวปลอม
  15. ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความเสี่ยงในการซื้อสินค้าออนไลน์
  16. สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตกลงที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จัดทำแนวปฏิบัติที่ดีหรือมีกลไกในการกำกับดูแลตนเองที่เหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจอันดีและเป็นที่ยอมรับร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ ผู้บริโภค และหรือหน่วยงานของรัฐ
  17. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และสภาองค์กรของผู้บริโภค ตกลงที่จะให้ความร่วมมือกับผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสินค้าหรือบริการออนไลน์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานรัฐด้านการคุ้มครองผู้บริโภค และผู้ให้บริการตลาดออนไลน์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค
  18. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และสภาองค์กรของผู้บริโภค จะติดตามผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ และหน่วยงาน เพื่อให้ดำเนินการตามที่กำหนดในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ต่อผู้บริโภคและต่อสังคม
  19. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ตกลงที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ให้บริการตลาดออนไลน์
  20. สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ให้ความร่วมมือในการประสานงานแก่สมาชิกและหน่วยงาน ช่วยประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับบริการออนไลน์ที่ประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมทั้งการให้ความร่วมมือในการติดตามและประเมินผลทุก ๖ เดือน ในบันทึกข้อตกลงความร่วมนี้
  21. หน่วยงานของรัฐด้านการคุ้มครองผู้บริโภค “พยาน” ตกลงที่จะให้คำปรึกษา ให้การสนับสนุน และบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวข้างต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด็กไทย 1 ใน 10 น้ำหนัก/ส่วนสูงหลุดเกณฑ์ กระทบสมอง เสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต ป่วย NCDs

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของไทย ปี 2566 โดยกรมอนามัย

วิจัยพบสังคมไทยเหลื่อมล้ำทุกมิติ สื่อสารในครอบครัวลดช่องว่างได้

ผลสำรวจเด็กและเยาวชนไทยปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์ รั้งท้ายโลกเป็นอันดับที่ 29 เหนือกว่าอุรุกวัยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบ 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2022

กทม.เนรมิตเมือง 15 นาทีเป็นจริง สร้างพื้นที่สีเขียวอิ่มเอมใจทั่วกรุง

กทม.ทวีความรุนแรง เมืองจมฝุ่น การจราจรติดขัด ขาดแหล่งอาหาร สำรวจคนกรุงเผชิญรถติดเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง หรือใน 1 ปีชีวิตติดหนึบอยู่บนรถเท่ากับ

ไขคำตอบ..ออกกำลังกายเป็นนิจ ตัวช่วยอายุยืนยาวห่างไกล NCDs

อุบัติการณ์โรคในยุคนี้ปรากฏว่า "โรคไม่ติดต่อ (NCDs)" กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คิดเป็น 75% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด หรือเกือบ 4 แสนคนต่อปี

เปิดผลสำรวจวัยโจ๋ ขีดเส้นสนามกีฬาฟุตซอล ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน

เครือข่ายงดเหล้า และสสส. ส่งเสริมกีฬาเยาวชนจัดฟุตซอล No-L ชิงถ้วยพระราชทานฯ รร. ราชวินิต มัธยม คว้าแชมป์ไปครองสมัยที่ 2 ด้วยสกอร์ 6:0 ในขณะที่ผลสำรวจร้อยละ 90 ต้องการให้สนามแข่งไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน และร้อยละ 84.8 คิดว่ากีฬาฟุตซอลทำให้เยาวชนเห็นคุณค่าของตัวเอง