สัญญาณแรง!ตำรวจเพิ่มมาตรการเข้มขันสกัดม็อบ 3 นิ้ว


เพิ่มเพื่อน    

16 ต.ค.63 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร.แถลงการณ์กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ว่า ขอชี้แจงให้ประชานทำความเข้าใจ ประการที่ 1. พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตาม ม.9 และ 11 เนื้อหาใจความสำคัญคือ ห้ามมีการจับกลุ่มมั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพฯ ห้ามมีการเสนอข่าวจำหน่ายทำให้แพร่หลายสิ่งพิมพ์ หรือสิ่งอื่นใดทั้งข้อมูลอิเล็คทรอนิคก์ทำให้เกิดความหวาดกลัว ยุงยงส่งเสริมให้เกิดการชุมนุมหรือความรุนแรงในสถานการณ์ ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ โดยเฉพาะช่วงเย็นวานนี้ (15 ต.ค.) ยังมีการฝ่าฝืนกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ด้วยความเรียบร้อย ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการใช้กฎหมายแบบเต็มรูปแบบ

ประการที่ 2.การควบคุมสถานที่ที่คาดว่าจะมีการชุมนุม ขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในวันนี้เราได้มีการควบคุมพื้นที่การจราจรบางเสน้ทางเพื่อป้องกันเหตุตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ที่รับผิดชอบเรื่องจราจรเปิดเผยเพิ่มเติมว่า เพื่อความปลอดภัยและความาเป็นระเบียบของการเดินทางของประชาชนทั่วไป จึงต้องมีการปิดการจราจร 3 เส้นทาง ตั้งบแต่เวลา 14.00 น. เส้นทางที่1.คือถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชดำริ-แยกประตูน้ำ เส้นทางที่ 2.ถนนเพลินจิตตั้งแต่แยกชิดชม-แยกราชประสงค์ เส้นทางที่3.ถนนพระราม1 จากแยกราชประสงค์-แยกเฉลิมเผ่า ผู้ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องมีการปรับเวลาการใช้ยานพาหนะหรือการเดินทาง หรือถ้าต้องการสอบถามเส้นทางการจราจรสามารถสอบถามได้ที่ 1197 ตลอด 24 ชม.

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เผยต่อว่า ส่วนประการที่3.คือการใช้สื่อโซเชี่ยล หรือสื่ออิเล็คทรอนิคก์  ต้องระมัดระวังอาจตกเป็นผู้กระทำความผิดได้ โดย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง บผก.ปอท.ได้ขยายความว่า การโพสต์หรือการส่งต่อข้อมูลสามารถทำได้เพียงปลายมือ เมื่อมีข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฝากไปยังประชาชน นักเรียนนักศึกษา โดยเฉพาะข้อ 2.ห้ามเสนอข่าวจำหน่ายหรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือสิ่งพิมพ์และสื่ออื่นใดตลอดทั้งข้อมูลอิเล็กทรอนิคก์ที่อาจมีข้อความทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชนทั่วราชอาณาจัก เพราะฉะนั้นการแสดงความคิดเห็นการส่งต่อข้อมูล หรือแสดงความคิดเห็นเข้าข่ายการกระทำความผิดเรื่องความั่นคงอาจถูกดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40.000 บาท นอกจากนั้นกฎหมายที่มีอยู่แล้ว พ.ร.บ.คอมฯฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 นำเข้าข้อมูลที่มีลักษณะเป็นความผิดต่อความมั่นคงต่อราชอาณาจักอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100.000 บาท การแสดงความคิดเห็น การโพสต์ขอให้ใช้วิจารณญาณเป็นพิเศษ ฝากความห่วงใยไปยังผู้ปกครองดูแลบุตรหลานที่อาจเข้าถึงสื่อและแสดงความคิดเห็นอาจผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า ขอส่งสารไปยังใครก็ตามที่พยายามจะจับกลุ่มเพื่อดำเนินการชุมนุม ตำรวจทำตามหน้าที่ ปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกมาห้วงเวลาเฉพาะ จะจัดการชุมนุมไม่ได้โดยเด็ดขาด เราจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหากพบการกระทำความผิด ตามหลักสิทธิมนุษยชนตารมหลักสากล มั่นใจว่าความรุนแรงไม่เกิดขึ้นถ้ามีการเคารพกติกา ต่อไปนี้มาตรการบังคับบใช้กฎหมายจะเข้มข้นขึ้นเพื่อไม่ให้มีการชุมนุมและความรุนแรงเกิดขึ้น แต่การบังคับใช้กฎหมายกับการชุมนุมไม่เหมือนกับการบังคับบใช้กฎหมายคดีอาญาทั่วไป เพราะผู้มาชุมนุมมีทั้งเยาวชน การบังคับใช้กฎหมายต้องดูสภาพแวดล้อมเป็นหลัก ต้องดูความจำเป็นผลที่จะได้ตามมา แต่ยืนยันว่าจัดการชุมนุมไม่ได้อย่างเด็ดขาด  หลังจากนนี้จะส่งข้อมูลไปยังกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นหน่วยร่วม กอร.ฉ.สื่อสารไปยัง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"