พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 ผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมผู้นำสมาชิกอาเซียน ชู 3 ข้อ เร่งขับเคลื่อนความร่วมมือในช่วงสถานการณ์โควิด
26 ต.ค.2564 – ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 นี้ ซึ่งที่ประชุมมีประเด็นหลักที่หยิบยกขึ้นหารือหลักๆ ได้แก่ การรับมือกับความท้าทายสำคัญ โควิด – 19 โดยบรูไนในฐานะประธานได้กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดและผลกระทบของโควิด – 19 ซึ่งได้ติดตามความคืบหน้าและพัฒนาการที่สำคัญของประชาคมอาเซียนด้วย ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมเห็นว่าการต่อสู้กับโควิด – 19 สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของภูมิภาคต่อภัยคุกคาม ดังนั้น นอกจากเราจะต้องร่วมมือกันแก้ไขเรื่องการแพร่ระบาดและผลกระทบของโควิด – 19 แล้ว ควรถอดบทเรียนจากโควิด – 19 มาใช้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ประชาคมอาเซียนพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ในอนาคต
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้เสนอประเด็นที่อาเซียนควรให้ความสำคัญ 3 ประการ คือ ประการแรก ต้องดำเนินการตามข้อริเริ่มในกรอบอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพ นายกรัฐมนตรียินดีที่มีความคืบหน้ากรณีการเงินจากกองทุนอาเซียนจัดซื้อวัคซีนโควิด – 19 และหวังว่าประเทศสมาชิกจะได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงโดยเร็ว ทั้งนี้ ไทยได้แจ้งรายการสิ่งของที่บริจาคแก่คลังสำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์อาเซียนฯ แล้ว หวังว่าจะมีการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ซึ่งอาเซียนควรเสริมสร้างความพร้อมในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่และเสริมสร้างความมั่นคงทางสาธารณสุขในระยะยาว ส่งเสริมความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ซึ่งไทยกำลังพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ และยินดีร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนในเรื่องนี้ต่อไป
ประการที่สอง นายกรัฐมนตรีเห็นควรเริ่มเปิดภูมิภาคและส่งเสริมการเดินทางไปมาหาสู่กันอย่างปลอดภัย ใช้ประโยชน์จากกรอบการจัดทำระเบียงการเดินทางของอาเซียน และควรจัดทำแนวทางการรับรองวัคซีนระหว่างกัน เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้เปิดพื้นที่นำร่องต้อนรับนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสไปแล้ว และจะเริ่มเปิดประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าต้องหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้ายสินค้า เพื่อรักษาความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน และใช้ประโยชน์จากตลาดภายในอาเซียนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่าเพื่อส่งเสริมสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการค้าการลงทุน ความตกลง RCEP จะมีผลใช้บังคับตามเป้าหมาย และจะเดินหน้าการเจรจา FTA อาเซียน-แคนาดาได้โดยเร็ว และประการที่สาม โควิด – 19 ตลอดจนภัยธรรมชาติอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อุทกภัย ไฟป่า และหมอกควันข้ามพรมแดน สะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนของแนวทางการพัฒนาในปัจจุบันที่เน้นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยละเลยผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นที่มาของวิกฤตต่าง ๆ ที่รุนแรง ดังนั้น ถึงเวลาที่จะต้องปรับกระบวนทัศน์ในการใช้ชีวิตทุกด้าน เพื่อสร้างความสมดุล ทำให้การฟื้นฟูและพัฒนาอาเซียนเป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่ไทยดำเนินการอยู่
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เห็นว่าวาระสีเขียวของอาเซียนควรเป็นแนวทางของภูมิภาคในอนาคตเพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนเป็นมิตรกับโลก โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสีเขียวเข้ามาช่วยสนับสนุน และต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงจากทุกภาคส่วน อาทิ
1.การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
2.การใช้ทรัพยากรทั้งในดินและในทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาค
3.การส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสู่เป้าหมาย “Digital ASEAN”
4.การพัฒนาเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน ให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีสวัสดิภาพและมีคุณภาพชีวิต
และ 5.การเงินสีเขียว สนับสนุนการลุงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนและส่งเสริมการรวมตัวของภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อให้อาเซียนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของโลก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทนายมือหนึ่ง' เผยคนฝากให้กำลังใจนายกฯเยอะ หลังถูก 'บิ๊กโจ๊ก' เอาคืน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อเป็นรัฐมนตรี ว่า วันนี้ต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนต
จะเอาให้ได้! 'เศรษฐา' เรียก 4 แบงก์ยักษเข้าทำเนียบฯ คุยลดดอกเบี้ย หลังธปท.ไม่เล่นด้วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เรียก 4 ธนาคารเข้าพบ
'เศรษฐา' กล่าวเปิดงาน ASEAN Future Forum 2024 ทุกคนต้องรับผิดชอบการกำหนดอนาคตของอาเซียน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดงาน ASEAN Future Forum 202
เขย่าโผปรับครม. สะพัด! 'เศรษฐา' เก้าอี้หด เหลือแค่ตำแหน่งนายกฯ
ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ต้องการให้จบเร็วภายในสิ้นเดือ
ไร้ถกปรับครม.! ‘รทสช.’ ระบุนายกฯคุยพรรคร่วม ช่วยตีปี๊บดิจิทัลฯเรื่องเดียว
รทสช. ยัน นายกฯเรียกคุยพรรคร่วมรัฐบาลให้ช่วยตีปี๊บดิจิทัลวอลเล็ต ไร้ถกปรับครม. ยันยังไม่มีสัญญาณ
ทำเนียบฯคึก! นายกฯ เรียกพรรคร่วมฯคุย ‘แก้รธน.-ดิจิทัลฯ’ จับตาถกปรับ ครม.
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง เรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า