5 ปมการเมืองร้อน หลังเอเปกเส้นทาง“บิ๊กตู่”อีกนานถึงชัด อยู่พปชร.หรือแยกวง”พี่ป้อม”

หลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปก การเมืองไทยกลับเข้าสู่โหมดปกติ ที่พบว่า มีประเด็นการเมือง 5 เรื่องสำคัญที่ต้องติดตาม นับจากนี้ ประกอบด้วย

1.การตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์

ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ ส่งสัญญาณการเมือง ขอให้จบเอเปกก่อน จะให้ความชัดเจนเรื่องการเมือง

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ เลือกที่จะเดินต่อทางการเมืองแน่นอน เพียงแต่จะอยู่บนเส้นทางไหน ระหว่าง อยู่ที่”พลังประชารัฐ”เพื่อให้ 3 ป.ผนึกกำลังกันเหนียวแน่น หรือเลือกที่จะไป”พรรครวมไทยสร้างชาติ”เพื่อสร้างฐานที่มั่นการเมืองของตัวเอง เพราะอึดอัดใจที่จะอยู่พลังประชารัฐ แล้วต้องอยู่ใต้เงา “พี่ป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” ต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงเป็นการแยกวง ตามยุทธศาสตร์ “แยกกันเดิน รวมกันหลังเลือกตั้ง”ของ 3 ป. 

กระนั้น  คาดว่า บิ๊กตู่ คงไม่รีบตัดสินใจอนาคตทางการเมืองทันที เพราะเหลือเวลาพอสมควร โดยอาจรอดูไทม์มิ่งการเมืองอีกสักระยะก่อนตัดสินใจ เช่น ผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต่อร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส.ว่าด้วยสูตรหาร 100 ปาร์ตี้ลิสต์ วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้  

2.การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีร่างพรบ.พรรคการเมืองฯ

ที่พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภาพร้อมคณะเข้าชื่อกันยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยว่าร่างดังกล่าวที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา มีเนื้อหาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ซึ่งศาลนัดลงมติวินิจฉัยคดี พุธที่ 23 พฤศจิกายน  

โดยประเด็นที่ยื่นให้ตีความมีเช่น การลดคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ที่เดิมกำหนดห้ามบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกเป็นสมาชิกพรรคการเมือง  แต่ร่างพ.ร.บพรรคการเมืองฯ แก้ไขให้บุคคลที่มีมลทินสามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้ จึงน่าจะขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญที่ป้องกันผู้ที่มีมลทินเข้าสู่การเมือง รวมถึงกรณีที่มีการแก้ไขเรื่อง การทำไพรมารี่โหวตของพรรคการเมืองในการส่งคนลงเลือกตั้ง

3.คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส. เรื่องสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์  100 หาร

อันเป็นคำร้องที่นพ.ระวี มาศฉมาดล จากพรรคพลังธรรมใหม่กับพวก ยื่นคำร้อง โดยศาลนัดลงมติวินิจฉัยพุธที่ 30 พฤศจิกายน  

พบว่าประเด็นที่ยื่นตีความ มี 2 ประเด็นคือขอให้ศาลวินิจฉัยว่า สูตรคำนวณ ส.ส.ด้วยการหาร 100 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และกระบวนการตราร่างพรบ.ดังกล่าว ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยยกประเด็นว่า มีการถ่วงเวลาไม่ยอมพิจารณาร่างพรบ.เลือกตั้งของคณะกรรมาธิการ ฯ  ด้วยการทำให้การประชุมรัฐสภาล่มถึง 4 ครั้ง จนพิจารณาไม่ทัน 180 วัน เพื่อให้กลับมาใช้100 หาร

ผลคำวินิจฉัยที่ออกมา ถ้าศาลไฟเขียวร่างกฎหมายลูกทั้งสองฉบับ พลเอกประยุทธ์ ก็เตรียมนำร่างขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป และเมื่อมีการประกาศใช้เป็นกฎหมาย เท่ากับมีกฎหมายรองรับการเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์ สามารถ”ยุบสภาฯ ได้ทุกเมื่อ

และหลังจากนั้น เชื่อว่า จะเกิดความเคลื่อนไหวการเมืองต่างๆ ตามมาทันที เช่นการ”เจรจา-ควบรวมพรรค”ที่เปิดดีลกันแล้วหลายกลุ่ม แต่ที่ผ่านมาไม่คืบหน้า เพราะรอเรื่องนี้ แต่หากกติกาเลือกตั้งชัด จะทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นทันที 

แต่หากเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น  ศาลชี้ว่า เนื้อหาในร่างพรบ.ฉบับใดฉบับหนึ่งมีปัญหา ถ้าออกมาแบบนี้ ยุ่งแน่ และต้องดูว่า รัฐสภาจะหาทางออกอย่างไร  

4.การปรับคณะรัฐมนตรีรอบสุดท้าย

โดยหากไม่มีอะไรพลิกโผ คือ พลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ส่งชื่อคนในพลังประชารัฐให้พลเอกประยุทธ์ ตั้งเป็นรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่สองตำแหน่ง

จะทำให้ การปรับครม.รอบสุดท้าย พลเอกประยุทธ์ คงแค่ เสนอชื่อ นริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ประชาธิปัตย์ เป็นรมช.มหาดไทย คนใหม่ ตามมติพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งชื่อมาให้พลเอกประยุทธ์ตั้งแต่ 12  ตุลาคม ที่ตอนนี้ผ่านไปเดือนเศษ โดยหากช้าไปกว่านี้ ประชาธิปัตย์คงควันออกหู   

5.ร่างพรบ.กัญชาฯ ระเบิดเวลาพรรคร่วมรัฐบาล

ที่ล่าสุด วิปรัฐบาลกำหนดให้ร่างพรบ.กัญชาฯที่มีพรรคภูมิใจไทย เป็นโต้โผใหญ่ เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ 7 ธันวาคม

โดยพบว่า ถึงตอนนี้ แกนนำและส.ส.ของทั้งภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ ยังเปิดศึกกันเอง เรื่องกฎหมายกัญชาแบบ ดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร

ฝ่ายประชาธิปัตย์ ทิ่มหนักๆ บอกหากร่างพรบ.กัญชา ออกมาเป็นกฎหมาย จะทำให้เกิดกัญชาเสรีสุดขั้วในประเทศไทย  

ภูมิใจไทย เลยสวนยับ ประชาธิปัตย์ เล่นเกมการเมือง เตะตัดขา สกัดกฎหมาย เพื่อไม่ให้ภูมิใจไทยมีผลงาน

ร่างพรบ.กัญชา จึงเป็น ระเบิดเวลาพรรคร่วมรัฐบาลและในสภาฯ ที่รอจุดชนวน เมื่อร่างเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต้นเดือนหน้า

ทั้งหมดคือ 5 เรื่องร้อนการเมืองที่ต้องติดตามกันหลังจากการเมืองกลับเข้าสู่โหมดปกติ  

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของไทยโพสต์ได้ทุกช่องทางที่

Website : https://www.thaipost.net/

Youtube : https://www.youtube.com/c/ThaipostTV

Facebook : https://www.facebook.com/thaipost

Twitter : https://twitter.com/thaipost

Instagram : https://www.instagram.com/thaipost_ig/  

Line : https://lin.ee/ukteb32

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

๑ หมื่น 'ไม่ลื่นคอ' นะจ๊ะ

ปกติจ้อจน "จ๋อลพบุรี" ตกต้นไม้ แต่พอถึงเรื่อง "เงินแจก ๑ หมื่น" ชาวบ้านที่ไม่ต่างแมวถูกเศรษฐาเอาปลาย่างทาจมูก ต่างรอฟังผลประชุม ครม.ตกลงจะเคาะแจกวันไหน?