
งานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ประจำปี 2565 กลับมาจัดในสถานที่จริงอย่างเต็มรูปแบบที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้และความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ ภายใต้แนวคิด“เพื่อนไม่ทิ้งกัน ในยามยาก”ภายในงานฯ มีการถอดแบบโครงสร้าง “อาคารมหินทรเดชานุวัฒน์” ที่ตั้งสำนักงานแห่งใหม่ของมูลนิธิฯ มาไว้ในงาน แสดงถึงการยกระดับการทำงานของมูลนิธิฯ ในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 ในปีนี้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการเป็นเลิศด้านการบรรเทาทุกข์ และจัดการภัยพิบัติอันเกิดจากอุทกภัย ตามพระนโยบายของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประธานกรรมการมูลนิธิฯ

นิทรรศการปีนี้พบกับการจัดแสดงภาพรวมภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างครบวงจรและยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและนวัตกรรมการทำงานของมูลนิธิฯ ตั้งแต่การเฝ้าระวังก่อนเกิดอุทกภัย ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย การบรรเทาทุกข์ระหว่างเกิดอุทกภัย เป็นภารกิจหลักที่มูลนิธิฯ ดำเนินการ และการฟื้นฟูหลังเกิดอุทกภัย เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข และมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน

ศ.พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน “เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ประจำปี 2565” กล่าวว่า มูลนิธิฯ ก่อตั้งจากพระดำริพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ภารกิจหลักเป็นการบรรเทาทุกข์ เมื่อเกิดอุทกภัยหรือภัยพิบัติรุนแรง การช่วยเหลือระยะสั้นจะแจกถุงยังชีพ ตั้งโรงครัวพระราชทาน ทำอาหารเลี้ยงประชาชน ล่าสุดเกิดอุทกภัยที่อยุธยาและชัยภูมินานนับเดือน มูลนิธิลงพื้นที่ช่วยเหลือต่อเนื่อง
“ ถุงยังชีพพระราชทานของมูลนิธิ ฯ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเลือกของใส่ถุงยังชีพฯ ด้วยพระองค์เอง ทรงทดสอบคุณภาพ ทรงมีวิธีจัดถุงยังชีพเพื่อป้องกันสิ่งของเสียหายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาทรงบรรจุถุงยังชีพด้วยพระองค์เอง ส่วนกองทัพบกและภาคเอกชนทำหน้าที่ชนส่งให้ถึงประชาชนเร็วที่สุด จากวิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลให้ไทยประสบอุทกภัยมากขึ้น ทุกภาคท่วมหนัก และเกิดขึ้นตลอดปี เคยแจกถุงยังชีพฯ มากกว่า 40,000 ถุงต่อปี “ ศ.พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ กล่าว

ศ.พิเศษ ดร.สุรเกียรติ์ กล่าวด้วยว่า องค์ประธานกรรมการรับสั่งว่า ถ้าภัยน้อยลงจะบรรเทาทุกข์น้อยลง นำมาสู่ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิฯ กับ 8 หน่วยงาน เพื่อดำเนินการติดตั้งสถานีโทรมาตรบนพื้นที่ต้นน้ำ มีแผนจะติดตั้ง 510 สถานี ปัจจุบันติดตั้งแล้ว 160 สถานี มีการเตือนภัยประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่น นอกจากเทคโนโลยีแล้ว ต้องฝึกอบรมชาวบ้านในพื้นที่ เกิดชุมชนเตือนภัยเพื่อนพึ่ง(ภา) ช่วยลดความสูญเสีย ส่วนการฟื้นฟูองค์ประธานกรรมการทรงมีพระราชดำริส่งเสริมอาชีพ เช่น จ.สกลนคร ประสบพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ไร่ครามเสียหายนับ 100 ไร่ นำมาสู่การหนุนเทคโนโลยีย้อมครามและออกแบบลวดลาย รวมถึงมอบโลโกเพื่อนพึ่ง(ภา) เพิ่มโอกาสทางการตลาด นอกจากนี้ มีการพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างฝาย ขุดลอกตะกอน เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่หลังภัยพิบัติ

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองประธานกรรมการอำนวยการจัดงานฯ กล่าวว่า งานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 11 ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ชมและช้อปสินค้าจากร้านค้าในโครงการส่วนพระองค์และร้านพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ากิตติมศักดิ์และร้านเครือข่ายที่มาร่วมออกร้านกว่า 100 ร้าน ประชาชนที่มาเที่ยวงานมักนึกถึงอาหารและขนม ไม่ว่าจะขนมจากกลุ่มชมรมอนุรักษ์ขนมไทย ขนมจากวังเลอดิส ขนมจากวังรื่นฤดี ขนมจากมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ชวนมาอิ่มอร่อย และเรียนรู้เรื่อวราวประวัติศาสตร์ขนมไทยจากวังต่างๆ และยังมีตลาดย้อนยุค โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดังมาเพิ่มสีสันให้กับงาน
“ สินค้าจากร้านพึ่งพา มีทั้งขนมและผลิตภัณฑ์ยั่งยืนจากชุมชนที่ประสบอุทกภัย อย่าง ผ้าไหมพื้นเมืองจากชัยภูมิ เสื้อมัดย้อมจากสกลนคร นอกจากนี้ จะมีสินค้าที่ระลึกที่เปิดตัวในงานนี้เป็นครั้งแรก ได้แก่ ชุดน้ำชา (Snack Tray) ลายกล้วยไม้โสมสวลี อีกทั้งมาช้อปและชิมผลิตภัณฑ์ของร้าน “PAfé สุขที่ได้แบ่งปัน” เราจำลองบรรยากาศมาให้ได้สัมผัสที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ “ วีระศักดิ์ กล่าว


ทั้งนี้ งานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) 2565 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 2-11 ธ.ค. เวลา 9.00-20.00 น. พิธีเปิดงานฯ อย่างเป็นทางการวันที่ 2 ธ.ค. ในแต่ละวันยังมีการปรุงอาหารจากรถประกอบอาหาร “รถเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ช่วยด้วยใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ที่นำเมนูสูตรประทานนายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพมาเปิดโอกาสให้ได้ชิมและร่วมบริจาคสมทบมูลนิธิฯ ตลอดจนการสาธิตช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากทีมเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) อาสา ปฏิบัติการภัยพิบัติ ชมการแสดงดนตรีในสวนของนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่สับเปลี่ยนมาจัดแสดงสร้างความสุข


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘Doi Kham Living Green’ ชูจัดการขยะตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ
ปัญหาขยะไม่ควรมองข้ามและควรให้ความสำคัญจริงจัง บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด นำโดยพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ จับมือกรุงเทพมหานคร และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม “Doi Kham Living Green”
'ในหลวง พระราชินี' ทรงเปิดงาน 'โครงการหลวง 54' เฉลิมพระเกียรติพระพันปีหลวง 91 พรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน "โครงการหลวง 54 " ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมีพลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวงประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน
ดอยคำ รุกตลาดไอศกรีม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ICE POP”
บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้นำตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมอันดับหนึ่งในไทย บุกตลาดไอศกรีม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ICE POP”
ไทยจับมือลาวลดภัยพิบัติน้ำท่วม
16 พ.ย.2565 - มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โดยศาสตราจารย์พิเศษ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองประธานกรรมการที่ปรึกษา และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) โดยนางบุนคำ วอละจิด รัฐมนตรีว่าการฯ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วย“ความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร เพื่อการเฝ้าระวัง การเตือนภัย
'ฝายดอยคำ’ ชะลอน้ำ ลดภัยพิบัติชุมชน
ชาวบ้านบ้านยาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดอยคำ และเหล่าเยาวชนหัวใจจิตอาสาร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายชะลอน้ำ หรือ”ฝายดอยคำ” จากไม้ไผ่เพื่อขวางกั้นทางเดินของน้ำในลำธารบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ เป็นระยะๆ
เพลินวัฒนธรรม’จีนยูนนาน’ชุมชนบ้านยาง
การเรียนรู้จากชุมชนโดยรอบบ้านยางที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านวิถี ความเป็นอยู่ อาหารการกิน ความเชื่อ ตลอดจนอาคารสถาปัตยกรรมของชุมชน เป็นกิจกรรมที่บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด และมูลนิธิโครงการหลวงโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) ส่งเสริมให้เกิดในพื้นที่ชุมชนบ้านยาง