ก้าวต่อไป'รถอีวี' ปัญหาอุปสรรคที่ต้องทลายกำแพง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำโดย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(สกสว.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเช่น บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) บริษัทพนัส แอสเซมบลีย์ จํากัด บริษัท อีซียู ช็อป 1 จำกัด และบริษัท อีวี คาร์(ไทยแลนด์) จำกัด และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เป็นต้น สถาบันเทคโนโลยีไทยญี่ปุ่น ศูนย์เชี่ยวชาญยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง อีอีซี และศูนย์วิจัยเเละพัฒนา มูลนิธิสถาบัน พลังงานทางเลือกเเห่งประเทศไทย เป็นต้น ร่วมกับ คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง และระบบกักเก็บพลังงานและคณะอนุกรรมาธิการการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เรื่องยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง โดรนและชลยานไร้คนขับเพื่อการพัฒนา และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร  จัดนิทรรศการแสดงยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง และจัดการสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็น ครั้งที่ 2 เรื่อง“ข้อเสนอแนวทางการสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง (EV Conversion)เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงของประเทศไทย” เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ณห้องประชุมสัมมนา บี 1-2 ชั้นบี 1 อาคารรัฐสภา  

นายธนาคาร วงษ์ดีไทย เลขานุการและอนุกรรมาธิการคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ  ได้นำเสนอถึงปัญหาอุปสรรคและความท้าทายสำคัญที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงจะเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหา แบ่งออกเป็น 9 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) วิกฤติค่าพลังงานเชื้อเพลิงราคาสูงหากมีการดัดแปลงรถยนต์เป็นรถไฟฟ้า จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ถึง 5 เท่า และประหยัดค่าซ่อมรถ 15 เท่าต่อปี 2)หนี้ครัวเรือน 90% ของจีดีพี รวมถึงกลุ่มประชาชนรากหญ้า แบกภาระซื้อรถไฟฟ้าป้ายแดงไม่ไหว 3)การที่ประเทศไทยตั้งเป้าหมายในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จำนวน 111 ล้านตัน ให้ได้ภายใน 8 ปีโดยมาจากภาคขนส่ง 41 ล้านตัน คิดเป็นรถไฟฟ้ารวม 12 ล้านคัน 4) ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ 80%มาจากภาคขนส่ง รถกระบะดีเซลในกรุงเทพฯ 250,000 คัน ที่รถใหม่แก้ปัญหานี้ไม่ได้

ธนาคาร วงษ์ดีไทย

5)ประเทศไทยมีผู้ประกอบการ Tier 3 จำนวนกว่า 2,000 บริษัทที่ไม่มีเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าขาดเครื่องมือในการเปลี่ยนผ่านเสี่ยงต่อการปิดตัวลง 6) ประเทศไทยมีอู่ 20,000 อู่ที่จดทะเบียน 50,000อู่ที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งอู่เหล่านี้ซ่อมรถไฟฟ้าไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนผ่านฉับพลันจะทำให้ตกงานแต่ถ้าเปลี่ยนส่วนประกอบให้เป็นรถไฟฟ้าบางชิ้นอู่จะสามารถซ่อมและเรียนรู้ได้ 7)บุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย 95% มีทักษะด้านเครื่องกล มีเพียง 5% ที่มีทักษะด้านไฟฟ้ารวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ไม่มีการฝึกอบรมให้กับผู้ประกอบการ ยังต้องการเครื่องมือในการเปลี่ยนผ่าน

 8)ความต้องการอะไหล่ที่มีราคาไม่แพงในตลาดหลังการขาย (After market) ของรถไฟฟ้าที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไปมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไทยสามารถทำชิ้นส่วนเหล่านี้ได้ 9) ยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงในรูปแบบรถกระบะถ้าได้รับการสนับสนุนจะมีราคาเหลือ 300,000 บาทต่อคัน รถกระบะทั่วประเทศมี 7 ล้านคัน อายุ 10 ปีขึ้นไป 4 ล้านคัน ถ้าดึงส่วนนี้มาดัดแปลงแค่ 10% คือ 4 แสนคัน จะทำให้มีเงินหมุนในประเทศกว่า 120,000 ล้านบาท ไปที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนและอู่ในประเทศ

จาก (ร่าง) ผลการศึกษายานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงของกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯสามารถแบ่งข้อเสนอแนะมาตรการสนับสนุนออกเป็น 2 ส่วน คือ มาตรการทางการเงินและมาตรการที่ไม่ใช่การเงินและให้การสนับสนุนใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ทำการดัดแปลง กลุ่มผู้ใช้งาน และกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานโดยมีรายละเอียดดังนี้
1. มาตรการสนับสนุนทางการเงิน (Financial)กลุ่มนิติบุคคลที่ทำการดัดแปลงยานยนต์น้ำมันให้เป็นไฟฟ้า (Converted Vehicles) เช่นการยกเว้นภาษีนำเข้า ยกเว้นภาษีสรรพสามิต ในระยะ 5 ปีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง  สนับสนุนเงินลงทุนเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นที่ใช้ในสถานประกอบการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในส่วนของแบตเตอรี่ที่ใช้ในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง เป็นต้น

ในกลุ่มผู้ใช้ยานพาหนะ และผู้เดินรถ (Vehicles Users and Fleet Operator) เช่นมาตรการช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการประกันภัย อุดหนุนค่าใช้จ่ายทางด่วน เป็นต้นและกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสายส่งและระบบอัดประจุไฟฟ้า (Infrastructure) เช่นสนับสนุนค่าไฟฟ้าในการอัดประจุ สนับสนุนค่าติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าประจำบ้านสนับสนุนให้หน่วยงานเอกชนติดตั้งสถานีอัดประจุบนพื้นที่จอดรถและให้ผู้บริการ เป็นต้น


2. มาตรการสนับสนุนที่ไม่ใช่ทางการเงิน (Non-Financial)สำหรับกลุ่มนิติบุคคลที่ทำการดัดแปลงยานยนต์น้ำมันให้เป็นไฟฟ้า (Converted Vehicles) เช่นการเปิดอู่รถดัดแปลงพร้อมมีประกาศนียบัตร จะได้ลดหย่อนภาษี ภาครัฐสนับสนุนการฝึกอบรมโดยสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ 200% ในกลุ่มผู้ใช้ยานพาหนะ และผู้เดินรถ (Vehicles Users andFleet Operator) เช่น การกำหนดให้หน่วยงานของรัฐนำรถที่ใช้งานอยู่มาดัดแปลงให้เป็นรถไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า50% ภายในเวลา 2 ปี  อนุญาตให้ข้าราชการที่ใช้รถไฟฟ้าดัดแปลงสามารถนำรถมาอัดประจุได้ที่หน่วยงานราชการที่สังกัดอยู่เป็นต้น และในส่วนโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสายส่งและระบบอัดประจุไฟฟ้า (Infrastructure) เช่นการปรับระบบและอนุญาตให้ยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าตามพื้นที่สาธารณะได้

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการสัมมนาได้ให้ความเห็นที่หลากหลายและร่วมแลกเปลี่ยนถึงปัญหาอุปสรรครวมถึงสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนเพิ่มเติม สามารถจัดกลุ่มออกเป็น 7 กลุ่ม และเรียงลำดับความสำคัญ ได้ดังนี้


1. การสนับสนุนทางการเงิน การลดภาษีในระยะแรกเริ่ม เช่น ภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากรภาษีประกอบแบตเตอรี่ และภาษีประกอบตัวรถ จะสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นเนื่องจากปัจจุบันรถไฟฟ้าดัดแปลงหลายกลุ่มจะแพงกว่ารถไฟฟ้าใหม่ที่นำเข้าจากจีน เช่น รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงซึ่งเป็นรถขนาดเล็กเมื่อคิดภาษีเหล่านี้จะมีราคาใกล้เคียงกับรถที่นำเข้าจากจีนทั้งคัน เนื่องจาก FTA และมาตรการสนับสนุนการนำเข้าและผลิตรถไฟฟ้าใหม่ที่มีในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงของยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงควรมีราคาถูกกว่าค่าซ่อมบำรุงของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่เสนอให้มีการสนับสนุนเงินทุนด้านการสร้างความรู้และช่วยเรื่อง Finance และลดดอกเบี้ยในการซื้อ EV Conversion การลดค่าการจดทะเบียนเพราะกลายมาเป็นต้นทุนที่สูงการลดค่าไฟฟ้าที่ปัจจุบันแพงหน่วยละ 8 บาทและในระยะยาวภาษีนำเข้าชิ้นส่วนควรจะคงไว้เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการชิ้นส่วนในประเทศแต่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเร็ว


2. การมีหน่วยงานรัฐเป็นเจ้าภาพเป็นศูนย์กลาง จะสามารถทำให้เกิดการรวบรวมความต้องการมี volumeเพียงพอที่จะสามารถลดต้นทุนได้ ให้มีการ certify อู่ไหนปลอดภัย ปัจจุบันยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงยังไม่มีLeasing อยากให้มี Leasing อยากให้มี Sandboxและมีหน่วยงานกลางในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการทดสอบให้มีราคาถูกลงทำให้มีศักยภาพในการเติบโตที่ดีขึ้น อยากให้มีการแบ่งและรวมกลุ่มผู้ประกอบการที่ช่วยเหลือกันได้ตาม value chainซึ่งจะทำให้มีการรวมกลุ่มและแบ่งงานกันทำและภาครัฐสามารถกำหนดว่าเรื่องนี้จะให้ใครทำและสามารถให้การสนับสนุนเป็นกลุ่ม ปัจจุบันผู้ประกอบการทุกคนต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองและอยากให้รัฐเป็นศูนย์กลางในการจับคู่ business matching กับผู้ประกอบการจากทั่วโลก

3. คุณภาพมาตรฐานความลอดภัย การบูรณาการมาตรฐานชิ้นส่วน โดยเฉพาะตัว battery และตัวสายไฟ 4. การผลิตชิ้นส่วนสำคัญ Key success คือต้องให้สามารถ scale up ให้ได้และเพื่อให้ผู้ลงทุนเกิดการผลิตอาจจะต้องทำ technology และนวัตกรรมร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการและอยากให้มีโรงงานแบตเตอรี่แห่งชาติในประเทศไทยที่ผลิตและขายออกให้ผู้ประกอบการรายย่อยนำไปพัฒนา applications 5. การพัฒนาและถ่ายทอดความรู้ ผู้ประกอบการยังมีความรู้ไม่เพียงพออยากให้มีการ upskill, reskillภาคเอกชนเปิดรับเด็กนิสิตนักศึกษา ปวช. ปวส. ที่จบใหม่ และภาคเอกชนช่วยพัฒนาหลักสูตร ผลิตกำลังคน 6. การวิจัยและพัฒนา ภาครัฐสนับสนุนการพัฒนาชิ้นส่วนหลักๆ ที่มีอยู่ไม่เกิน 10ชิ้นให้มีคุณภาพดีและราคาที่ผู้ประกอบการไทยสู้ไหวและสามารถผลิตเพื่อการส่งออกได้ด้วย7. การสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับ แม้ว่ามีคนไทยออกแบบและผลิตชิ้นส่วนได้เองและใช้งานได้ดี เช่น board electronic แต่เนื่องจาก EV และ EV Conversionถือว่าเป็นเรื่องใหม่คนเลยยังไม่มั่นใจของที่พัฒนาและผลิตโดยคนไทยอยากให้ภาครัฐเป็นผู้ใช้งานและผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ และผลักดันให้สามารถส่งออกไปสู่ต่างประเทศได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เน็กซ์‘ ปลื้มรถอีวีโตต่อเนื่อง ชี้ปี 66 กวาดรายได้ 9.3 พันล้านบาท

เน็กซ์‘ปลื้มรถอีวีโตต่อเนื่อง ดันผลประกอบการ NEX มีรายได้กว่า 9.3 พันล้านบาท มั่นใจปี 67 นโยบายรัฐสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ดันเป้าหมายรายได้ 2 หมื่นล้านบาท

'โรม' ยกคณะกมธ.มั่นคงฯ ถก ผบ.ทร. รับเข้าใจกองทัพเรือ ยันมาเพื่อช่วย ไม่ใช่จ้องจับผิด

'โรม' ยกคณะ กมธ.มั่นคงฯ ถก ผบ.ทร. รับเข้าใจกองทัพเรือ อยู่ในช่วงที่ไม่ง่าย หลังเกิดเหตุเรือหลวงคีรีรัฐ ถูกยิงวานนี้ ยันมาเพื่อช่วย ไม่ใช่จ้องจับผิด ยังไม่ขอคอมเม้นต์ โซเชียลวิจารณ์ ทร.ขาดมาตรฐาน หลังเกิดเหตุร้ายแรงซ้ำหลายครั้งในรอบปีกว่า ขอรอฟังผลสรุปก่อน

กมธ.ความมั่นคงฯ ยืนตาม 'ธรรมนัส' ห้ามนำยางพาราเมียนมาผ่านประเทศ

กมธ.ความมั่นคงฯ เผยเห็นร่วม รมว.เกษตรฯ สั่งระงับนำผ่านยางพาราจนกว่ามีมติ ครม. หลังลงพื้นที่สังขละบุรี พร้อมส่งไม้ต่อ ให้ พาณิชย์-กต.เจรจาทำข้อตกลงร่วมทางการเมียนมา

ฟื้นคุ้ยแลนด์บริดจ์!เครือข่ายรักษ์ชุมพร-ระนองบุกสภาร้อง 4 กมธ.

เครือข่ายรักษ์ชุมพร-ระนองบุกสภา ร้อง ปธ.กมธ. 4 คณะตรวจสอบ โครงการแลนด์บริดจ์ ในทุกมิติ เหตุมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ- รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาคนในพื้นที่