เมื่อ ปี่กลองเลือกตั้งเริ่มดังระรัวขึ้นเรื่อยๆ บนการคาดหมายกันว่า เมื่อ กติกาเลือกตั้งทุกอย่างเรียบร้อย พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีอาจยุบสภา ฯ ตามมา
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกพรรคการเมือง ยิ่งต้องเร่งเครื่องเตรียมพร้อมเต็มที่
ซึ่งการเมืองไทย ก็เหมือนกับการเมืองทั่วโลก คือ ทั้งพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องมี
“ทุน-ค่าใช้จ่าย-กระสุนดินดำ”
ที่เป็นเสมือน เสบียงกรัง ที่ทุกพรรคต้องมีไว้บนหน้าตัก เพื่อนำไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งบนดินและใต้ดิน
ทำให้หลังจากนี้ การจัดเตรียมสรรพกำลังเรื่องนี้ ของทุกพรรคการเมือง จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่แกนนำแต่ละพรรค ต้องจัดเตรียมไว้ ที่รู้กันดีในทางการเมือง แต่ไม่มีใครพูดหรือยอมรับกัน ก็คือ จะมีทั้ง”เงินในบัญชี”ที่ใช้ตอนเลือกตั้ง และยื่นตามระบบให้ สำนักงานกกต. กับ”เงินนอกบัญชี”ที่พรรคและผู้สมัครส.ส.นำไปใช้จ่าย แบบเงินสด ไม่มีการลงบิล ลงบัญชีไว้ ซึ่งทั้งหมด ไม่ใช่เงินน้อยๆ
ทำให้แกนนำแต่ละพรรค หลังจากนี้ ได้มี ก่ายหน้าผาก กันบ้าง ในการ”ระดมทุน”หาเงินเข้าพรรค
โดยวิธีการหนึ่งที่หลายพรรคนิยมทำ แต่ก็ต้องเป็นพรรคที่ต้องมีศักยภาพระดับหนึ่งถึงจะทำได้ นั่นก็คือ
“ การจัดงานระดมทุน จัดโต๊ะจีน-ดินเนอร์ทอล์ค”
เพื่อให้บริษัทห้างร้าน กลุ่มทุน นักธุรกิจ ผู้สนับสนุนพรรค เหมาะซื้อโต๊ะ เพื่อเป็นการอัดเงินเข้าพรรค อันเป็นสิ่งที่ทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งวิธีการนี้ คือการสนับสนุนพรรคการเมืองแบบให้บนดิน ส่วนการให้ใต้ดิน คือให้แบบเงินสด ไม่ลงบัญชี จะมาอีกแบบหนึ่ง ส่วนใหญ่มาตอนช่วงหาเสียงเลือกตั้งโดยเฉพาะโค้งสุดท้าย
ยิ่งพรรคไหน กระแสดี มีโอกาสเป็นรัฐบาล การสนับสนุนก็จะมากตามไปด้วย!
ที่พบว่า พรรคแรก ที่ออกตัว จัดโต๊ะจีน ระดมทุน ก่อนเพื่อน ก็คือ “พลังประชารัฐ” ซึ่งจัดไปเมื่อ 30 มกราคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายใต้ชื่องาน “พลังประชารัฐ ใจบันดาลแรง”
พบว่าไม่ผิดคาด เพราะความที่พลังประชารัฐ ตอนนี้เป็นแกนนำรัฐบาลอยู่ อีกทั้ง พลเอกประวิตร สถานะการเมืองก็คือผู้จัดการรัฐบาล และยิ่ง พลังประชารัฐ ท่องการเมืองวันละสามเวลา “ก้าวข้ามความขัดแย้ง”แบะท่า พร้อมร่วมตั้งรัฐบาลกับทุกขั้ว จนถูกมองว่า หลังเลือกตั้งมีโอกาสเป็นรัฐบาลสูง รวมถึงบิ๊กป้อม ช่วงหลังรัศมีเริ่มจับ มีโอกาสลุ้นเป็นนายกฯ ได้เช่นกัน
เลยไม่แปลกที่ โต๊ะจีน 170 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 3 ล้านบาท เฉลี่ยหนึ่งโต๊ะนั่งได้สิบคน เท่ากับที่นั่งละ สามแสนบาท เลยขายหมดเกลี้ยง
ทำให้ บิ๊กป้อม และพลังประชารัฐ ยิ้มแก้มปริ คืนเดียว มีเงินเข้าพรรค ตุนไว้หาเสียงเลือกตั้ง เหนาะๆ กำไว้แล้ว 510 ล้านบาท
ส่วนว่า จะเป็นเสี่ยที่ไหน- บริษัทห้างร้านใด กลุ่มทุนกลุ่มไหนบ้าง ที่ซื้อโต๊ะจีนอัดเงินให้พลังประชารัฐ พรรคไม่เปิดเผย จึงต้องรอหลังจากนี้ ที่สำนักงานกกต. จะนำมาเปิดเผยต่อสาธารณชนต่อไป
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 66 บัญญัติไว้โดยสรุปว่า
“บุคคลจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมือง มีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้
ส่วนกรณี นิติบุคคลบริจาคได้ไม่เกินปีละ 5 ล้านบาท”
พบว่า พลังประชารัฐ ใช้วิธีการระดมทุนจัดโต๊ะจีนก่อนเลือกตั้ง รอบนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว เพราะตอนเลือกตั้งปี 2562 จัดเมื่อ 19 ธันวาคม 2561 ที่อิมแพคเมืองทองธานี จัดไป 200 โต๊ะ ราคาเท่ากับปี 2566 คือโต๊ะละสามล้านบาท ที่ทางพรรคตอนนั้นบอกว่าได้เงินเข้าพรรคราว 650 ล้านบาท
ข่าวช่วงนั้น รายงานไว้ว่า มี บุคคล - บริษัทห้างร้าน ที่ร่วมสนับสนุนการระดมทุนพลังประชารัฐ ยุคนั้น มีเช่น เครือทีพีไอโพลีน6 ล้านบาท-บริษัท อิตาเลี่ยนไทย 3 ล้านบาท -บริษัท น้ำตาลมิตรผล -กลุ่มคิงส์พาวเวอร์-บริษัท กรุงไทยผลิตภัณฑ์อาหาร-กลุ่มล็อกซ์เลย์ เป็นต้น
ส่วนตัวบุคคลก็เช่น สรรเสริญ จุฬางกูร ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักรซัมมิทกรุ๊ป ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ พี่ชาย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 10 ล้านบาท -ประยุทธ มหากิจศิริ เสี่ยเนสกาแฟ อดีตเพื่อนก๊วนกอล์ฟ ทักษิณ 10 ล้านบาท เป็นต้น
ขณะที่พรรคอื่น ประชาธิปัตย์ เคยจัดงาน ดินเนอร์ทอล์ก ระดมทุน 120 โต๊ะ โต๊ะละ 2 ล้านบาท จัดไปเมื่อ 25 มีนาคม 2565 ที่หากขายได้หมดเท่ากับได้เงินเข้าพรรค 240ล้านบาท และคาดว่าเร็วๆนี้ ประชาธิปัตย์ อาจจัดงานระดมทุน แบบนี้อีกครั้ง ก่อนเลือกตั้งมาถึง
ส่วน เพื่อไทย พบว่าไม่นิยมจัดโต๊ะจีนระดมทุน ที่สาเหตุคงคาดเดาได้ไม่ยาก เพราะเจ้าของพรรค ทักษิณ ชินวัตร เงินหนาอยู่แล้ว จึงไม่ต้องจัดให้ยุ่งยาก จะได้ไม่ตกเป็นเป้า
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของไทยโพสต์ได้ทุกช่องทางที่
Website : https://www.thaipost.net/
Youtube : https://www.youtube.com/c/ThaipostTV
Facebook : https://www.facebook.com/thaipost Twitter : https://twitter.com/thaipost
Instagram : https://www.instagram.com/thaipost_ig/
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thaiposttk?lang=th-TH
Line : https://lin.ee/ukteb32
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุวาน 'ตรวจบัญชีกรรม'
พรุ่งนี้..... "อาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๗" ครบรอบ ๒๔๒ ปี กรุงรัตนโกสินทร์
ถึงคิว 'พปชร.' เป็นเจ้าภาพนัดกินข้าวพรรคร่วมฯ 'เศรษฐา' ขออย่าโยงปรับ ครม.
'เศรษฐา' บอก ถึงคิว พปชร. เป็นเจ้าภาพนัดกินข้าวพรรคร่วมรัฐบาล แต่ยังไม่ได้นัดมา ขออย่าโยงเอี่ยวปมปรับ ครม. ยันไม่มีปัญหาพรรคร่วมฯ พูดคุยกันดี เมินแรงกระเพื่อม ย้ำยึดผลงาน
เรื่อง 'คนโกง' บ้านผม!
พูดกันนัก...... คนทำดี "ปกบ้าน-ป้องเมือง" ถือซื่อ-ถือสัตย์
'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร
'คนบ้า-สังคมบวม'
"ปรับ ครม." ใช้คำนี้ ทำให้ชาวบ้าน "สับสน-ไขว้เขว" ไปเปล่าๆ
'พรพระ-พรนักโทษ'
หมู่นี้..... "คนห่มเหลือง" ประพฤติผิดพระวินัยสงฆ์ ต้อง "อาบัติปาราชิก" ข้อ "เสพเมถุน" ถี่มาก!