
18 ก.ย. 2566- นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมประชุม ที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมีดำริชัดเจนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยยึดหลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” ชักชวน จูงใจให้เข้ารับการบำบัดรักษา และให้การช่วยเหลือเพื่อให้กลับเข้าสู่สังคมได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นบทบาทและภารกิจสำคัญที่กระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถาบันบำบัดและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ ซึ่งเป็นสถาบันเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ 6 แห่งในภูมิภาคร่วมดูแล รวมถึงมีโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรมสุขภาพจิตเปิดวอร์ดให้การดูแลด้านจิตเวชและยาเสพติดโดยเฉพาะ
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ได้รายงานที่ประชุมถึงระบบบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ว่า ปัจจุบันสถานการณ์ผู้ป่วยยาเสพติดในประเทศไทยมีประมาณ 1.9 ล้านคน มีการตั้งศูนย์คัดกรองทั่วประเทศ 9,852 แห่ง ทำหน้าที่คัดกรองและแบ่งการดูแลผู้ป่วยยาเสพติดเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ผู้ป่วยกลุ่มสีแดง อาการรุนแรง หรือผู้ติดยาเสพติด มีประมาณ 2% หรือ 38,000 คน มีสถานพยาบาลกรมสุขภาพจิตและกรมการแพทย์ 27 แห่ง ดูแลแบบผู้ป่วยในระยะยาว 3-6 เดือน มีศักยภาพรองรับประมาณ 3,500 ราย เมื่ออาการดีขึ้นจะจัดเป็นกลุ่มสีส้ม มีสถานฟื้นฟูฯ ของกองทัพและกรมการปกครอง 61 แห่ง และได้เปิดมินิธัญญารักษ์ในโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้การดูแลอีก 42 แห่ง มีศักยภาพรองรับประมาณ 20,000 คน 2.ผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง หรือผู้เสพ มีประมาณ 24% หรือ 4.56 แสนคน มีโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปดูแลแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในระยะสั้น 120 แห่ง และระดับปฐมภูมิคือโรงพยาบาลชุมชนดูแลเฉพาะผู้ป่วยนอก 935 แห่ง ทั้งหมดมีศักยภาพรองรับ 120,000 ราย และ 3.ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว หรือผู้ใช้ยาเสพติด มีประมาณ 74% หรือ 1.4 ล้านคน จะบำบัดยาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน มีประมาณ 10,000 แห่ง และเมื่อทุกกลุ่มอาการดีขึ้น จะมีศูนย์ฟื้นฟูสถานภาพทางสังคม กระทรวงมหาดไทย 3,258 แห่ง ดูแลเพื่อคืนคนดีสู่สังคม
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศนโยบายยกระดับ 30 บาทพลัส โดยมี 12 ประเด็น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องจิตเวช/ยาเสพติด มี Quick Win ในระยะ 100 วัน ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดโดยจะจัดทำทะเบียน คัดกรอง บำบัดรักษา และฟื้นฟูกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง (SMI-V) ทั่วประเทศ เร่งรัดจัดตั้ง 4 สหายและมินิธัญญารักษ์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะเสนอกำหนดตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษในโรงพยาบาลที่เปิดมินิธัญญารักษ์ 42 แห่ง และกำหนดกรอบอัตรากำลังนักจิตวิทยาคลินิกเพื่อรองรับการดำเนินงาน รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานบำบัดยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐานให้ครอบคลุมทุกตำบล/ชุมชนทั่วประเทศ ร้อยละ 50 ส่วนในระยะ 6 เดือน จะใช้เทเลเมดิซีนและปรับระบบบำบัดให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมาย พัฒนา System Manager และ Care Manager ในการดูแลผู้ป่วยยาเสพติด และพัฒนาความร่วมมือระหว่างกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลผู้ป่วย Long Term Care และผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว” นพ.โอภาสกล่าว .
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เพื่อไทย' อ้างทำสภาล่มเพื่อรักษาร่างแก้รธน. จ่อเสนอญัตติตัวเองเลื่อนวาระยื่นศาลฯตีความ
'เพื่อไทย' เตรียมเสนอญัตติของตัวเอง ให้ประธานรัฐสภาเปิดประชุมนัดถกเลื่อนวาระยื่นศาลรธน. ตีความทำประชามติกี่ครั้ง ให้เร็วที่สุด เชื่อไม่เป็นญัตติซ้ำ 'หมอเปรม' 'สุทิน' รับทำสภาล่ม เพื่อรักษาร่างแก้รธน. ฝากสื่อถาม 'พรรคส้ม' หัวชนฝาแก้รธน.แล้วตก ได้ประโยชน์อะไร ป้องนายกฯ รับผิดชอบแล้ว
'สส.เพื่อไทย' โวยเหตุกระป๋องนมหล่นกลางที่ประชุมร่วมฯ 'ภราดร' แจงโชคดีไม่ใช่ระเบิด
'สส.เพื่อไทย' ลุกหารือเหตุกระป๋องนมหล่นท่ามกลางที่ประชุมร่วม หวั่น มีโอกาสแผ่นไม้หล่นสูง ด้าน 'ภราดร' แจง โชคดีไม่ใช่ระเบิด คาด เป็นของคนงานระหว่างก่อสร้าง 'หมอชลน่าน' จี้ หามาตรการรักษาความปลอดภัย เหน็บ หากปธ.ใช้ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด สภาฯ จะไม่วุ่นวาย
มติสภาแก้รธน.ชั้นเดียว‘ภท.’สวน
ไฟเขียวติดอาวุธ กมธ. เรียกบุคคล-เอกสารมาตรวจสอบ
อนิจจา! 2 นักการเมือง สู้อุตส่าห์ดูแลพรรค วันนี้กลับไม่มีเยื่อใยให้
นายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อนิจจา 2 นักการเมือง คุณภาพดี สู้อุตส่าห์ดูแลพรรคมาให้ วันนี้ไม่มีเยื่อใยให้
'อุ๊งอิ๊ง' ตรวจน้ำท่วมวัดภูมินทร์ ดูภาพกระซิบรักบรรลือโลก น้ำลดลงสู่ภาวะปกติแล้ว
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล